การดูแลเด็กวัยเตาะแตะ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณแม่คนหนึ่งที่ไปรับลูกหลังเลิกเรียนตามปกติ แต่วันนั้นรถติดกว่าทุกวัน คุณแม่จึงไปรับลูกช้า เมื่อคุณแม่ไปถึงก็ให้คุณยายลงรถไปรับหลานก่อนโดยใช้บัตรนักเรียนที่ผู้ปกครองต้องมีไปแสดงตัว แต่ โรงเรียนปล่อยลูกไปกับคนแปลกหน้า เรียบร้อยแล้ว

มีเด็กน้อยชาวจีนวัย 2 ขวบ กลายเป็น เด็กติดเหล้า ที่อายุน้อยที่สุดในโลก และไม่ยอมดื่มนม ดื่มแต่ไวน์ กับเบียร์ โดยพ่อแม่ของหนูน้อยลองหยดไวน์ที่ตะเกียบให้ลูกได้ลิ้มรส ตั้งแต่อายุเพียง 10 เดือน และปรากฏว่าเขาชอบ หลังจากนั้นก็ร้องขอมาตลอด พ่อแม่พยายามป้อนนม น้ำ ก็ไม่ยอม

การนอน ของลูกน้อยถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะการนอน ถือเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาส่วนต่างๆของร่างกายลูกน้อยให้สมบูรณ์แข็งแรง

จากคลิปวิดีโอเหตุการณ์ของคุณแม่ท่านหนึ่ง กำลังยืนคุยกับคุณลุง และคุณป้า 2 ท่าน ที่กำลังดูความน่ารักของหนูน้อย ถ้าสังเกตดีๆ จะมีรถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งขับวนเวียนอยู่แถวนั้น แล้ววกกลับมากระชากสร้อยที่คอของหนูน้อย ซึ่งเป็นสร้อยทอง (Gold necklace)

คุณพ่อ คุณแม่หลายคนที่มีลูกน้อยคงจะทราบกันดีว่า มีลูกๆ หลายคน ติดตุ๊กตา ติดหมอน ติดผ้าห่ม ซึ่งเป็นของใช้ที่ติดตัวมาตั้งแต่ยังเล็กๆ เป็นของใช้ที่โปรดปราน ไม่ว่าจะนั่ง นอน เที่ยว เล่น ลูกของเรามักจะนำติดตัวไปด้วยเสมอ จนถึงวันที่ลูกจะต้องเลิกใช้สิ่งนั้น คุณพ่อ คุณแม่มีวิธีจัดการอย่างไร? ไม่ให้ลูกน้อยเสียใจ

เราไม่รู้เลยว่าจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกนานแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของคนเป็นพ่อ เป็นแม่อย่างเราๆ ก็คือลูก คุณพ่อ คุณแม่หลายคนอาจเขินอาย ในการแสดงความรัก ไม่กล้าแสดงออกมาให้ลูกได้รับรู้ว่าเรารักเขามากแค่ไหน ซึ่งเป็น สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป

คุณพ่อท่านหนึ่งมีลูกสาววัยซน กำลังฝึกเดิน และชอบรื้อข้าวของ คุณพ่อเล่าว่าไม่สามารถอยู่กับลูกสาวแค่ 2 คนได้ไม่กี่นาที เพราะคุณพ่อดูแลลูกจอมซนไม่อยู่จริงๆ จึงต้องตะโกนเรียกคุณแม่ให้รีบอาบน้ำ แล้วนี่คุณแม่ก็ฝากลูกสาวให้คุณพ่อเลี้ยง 1 วันเต็มๆ แล้ว Daddy จะทำได้หรือไม่?

คุณแม่ท่านหนึ่ง นำลูกวัย 11 เดือนไปฝากไว้กับพี่เลี้ยง แต่กลับถูกพี่เลี้ยงทำร้ายจนกะโหลกศีรษะร้าว สมองบวม และหยุดหายใจไประยะหนึ่ง โดยคุณหมอบอกกับคุณแม่ว่า สมองของหนูน้อยได้ตายไปแล้ว ไม่รับรู้อะไร และยาที่คุณหมอให้ไปทุกอย่างก็ไม่ได้รับการตอบสนอง “พี่เลี้ยงอันตราย” กว่าที่คุณคิด คุณแม่เล่าว่า เธอและสามีประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป จึงตัดสินใจนำลูกไปฝากกับหญิงสาววัย 24 ปี ที่มีลูกอายุ 2-3 ขวบช่วยเลี้ยงดู โดยคิดค่าจ้างเดือนละ 4,000 – 5,000 บาท ซึ่งตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา คุณแม่สังเกตเห็นลูกมีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย แม่จึงถามกับพี่เลี้ยง แต่พี่เลี้ยงตอบว่าหนูน้อยเสียหลักหกล้มระหว่างหัดเดิน จนถึงวันที่ 10 เมษายน ที่จะให้พี่เลี้ยงรายนี้ดูแลเป็นวันสุดท้าย เหตุไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ด้วยอาการที่สาหัสมากของหนูน้อย ทำให้คนเป็นแม่อยากให้ลูกจากไปอย่างสงบ และฝากเตือนให้ผู้ปกครองคนอื่นๆ หากไม่อยากใจสลายควรเพิ่มความระมัดระวัง อย่าไว้ใจใครถ้าไม่ใช่ญาติพี่น้อง ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าจ้างใครเลี้ยง เพราะมันอาจจะสายเกินไป “พี่เลี้ยงอันตราย” กว่าที่คุณพ่อ คุณแม่คิด อ่านไว้อุทาหรณ์เพิ่มเติม และดูเคล็ดลับเลือกพี่เลี้ยงเด็กแสนดีขั้นเทพได้ที่นี่ พ่อแม่พึงระวัง! อย่าปล่อยลูกให้อยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง เครดิต: news.ch7.com

คุณพ่อ คุณแม่หลายบ้าน ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก เพราะต่างคนต่างก็ต้องทำงาน จึงใช้วิธีการจ้างพี่เลี้ยงเด็กคอยดูแลลูกในเวลาที่พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าลูกน้อยมีความปลอดภัยเมื่อต้องอยู่กับพี่เลี้ยงเด็กตามลำพัง เราจะไว้ใจพี่เลี้ยงเด็กคนนั้นได้มากน้อยแค่ไหน และจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เจอ พี่เลี้ยงใจร้าย

เคยไหมคะ ลูกในวัยเด็กเล็กดื้อมาก เอาแต่ใจ พูดอย่างไรลูกก็ไม่ฟัง จนคุณแม่เก็บอารมณ์ไม่อยู่และเผลอตีลูกน้อยไม่ยั้งมือ ถ้าเคย แต่ก็รู้สึกผิดที่ทำกับลูกแบบนั้น ลองอ่านบทความนี้ดูค่ะ

ชวนคุณมาดูประสบการณ์การเลี้ยงลูกตัวน้อยสุดแสบของคุณแม่คนเก่ง หลายคนอาจจะคิดว่าการเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย มาดูความลำบากของ มนุษย์แม่ กันค่ะ

จากประสบการณ์คุณแม่ที่โพสต์รูปลูกน้อยบน Facebook เพื่ออวดความน่ารักสดใสของลูกน้อย แต่กลับมีบุคคลอื่นที่ไม่รู้จักมาเอารูปของลูกชายไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่าจะด้วยเจตนาอะไรก็ตาม คนเป็นแม่ก็อดเป็นห่วงลูกน้อยไม่ได้ จึงฝากเตือน ภัยออนไลน์ใกล้ตัวลูกน้อย ที่พ่อแม่ต้องระวัง

เมื่อคุณแม่ท่านหนึ่งแชร์ประสบการณ์ผ่านทางเฟสบุ๊คโดยบอกว่า ลูกรอดจากการจมูกเน่าเพราะคุณหมอตรวจพบถ่านกระดุมก้อนเล็กอยู่ในจมูกน้อง แต่พิษกรดกัดโพรงจมูกจนหมด!

เคล็ดลับดีๆ 3 ข้อในการสอนลูกให้ระวังตัวจากคนแปลกหน้า โดยคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมทบทวนสามข้อนี้กับลูกเป็นประจำนะคะ ลูกๆ จะได้สามารถจดจำได้อย่างขึ้นใจค่ะ

สำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็ก สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลย ก็คือการพาเจ้าตัวน้อยไปรับวัคซีนตามตารางนัดของคุณหมอ ซึ่งในการรับวัคซีนแต่ละครั้งนั้นมีหลาย ๆ เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญทั้งก่อนและหลังการรับวัคซีนด้วย

มีประสบการณ์หนึ่งจากคุณแม่ ที่โพสต์เล่าเหตุการณ์เอาไว้เป็นอุทาหรณ์ เมื่อลูกรักของคุณแม่ รับประทานมะม่วงเข้าไปแต่ ไม่ยอมเคี้ยว ซึ่งปกติคุณแม่จะหั่นผลไม้ให้ลูกน้อยหยิบรับประทานเองเป็นชิ้นเล็กๆ ลูกน้อยฟันขึ้น 10 ซี่แล้ว จึงสามารถเคี้ยวได้ แต่ปัญหาคือลูกน้อยไม่ชอบเคี้ยว

นอกจากหนังสือฟองน้ำหรือบอร์ดบุ๊ก ที่ทนทานต่อการอม ฉีก กัดสำหรับเด็กแล้ว หากเป็นหนังสือนิทานทั่วไป คุณพ่อคุณแม่จะทำความเข้าใจ เพื่อป้องกันการฉีก กัด หนังสือนิทานกับเด็กอย่างไร

ลูกน้อยบางคนเคยมีประสบการณ์การกินอาหารที่แข็งครั้งแรกแล้วทำไม่สำเร็จ แล้วอาเจียนหรือจุกในคอ ทำให้เป็นประสบการณ์ไม่ดี มาฝึกให้ลูกเลิกกลัวการเคี้ยวอาหารเป็นชิ้นกันดีกว่า