โควิด-19 พ่อแม่ติดเชื้อส่งผลกระทบถึงลูกน้อย

โควิค-19 ติดต่อจากแม่สู่ลูก

จากข้อมูลข่าวของ BBC ไทย ระบุว่า เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสำนักข่าวซินหัวของจีน มีการรายงานข่าวว่าพบเด็กทารกพึ่งคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีอายุน้อยที่สุด แต่แพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเด็กทารกติดเชื้อได้อย่างไร

สำนักข่าวรายงานว่า คุณแม่ของเด็กทารกเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังจากที่คลอดลูกได้เพียง 30 ชั่วโมง แพทย์ก็ตรวจพบว่าลูกของเธอก็ติดเชื้อไวรัสนี้ไปด้วย และต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ทารกติดเชื้อ โควิด-19 ได้อย่างไร?

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระบุว่า มีความเป็นไปได้ว่าทารกจะติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ “กรณีนี้เป็นสัญญาณเตือนให้เราให้ความสำคัญกับการติดต่อจากแม่สู่ลูก ซึ่งอาจเป็นช่องทางหนึ่งของการแพร่เชื้อ” นพ.เซ่ง ลิงกง หัวหน้าแผนกกุมารเวชศาสตร์เด็กแรกเกิด โรงพยาบาลเด็กอู่ฮั่น ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์

แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า เด็กทารกอาจจะติดเชื้อไวรัสนี้ หลังจากที่คลอดออกมาแล้ว โดยการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้เป็นแม่ “มีความเป็นไปได้สูงว่าทารกรายนี้จะติดเชื้อไวรัสจากการหายใจเอาละอองฝอยที่แม่ไอหรือจามออกมา” สตีเฟน มอร์ส นักระบาดวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบียให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวบิสซิเนส อินไซด์เดอร์

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการติดต่อจากแม่สู่ลูก “ถ้าแม่ติดเชื้อก็มีโอกาสที่เด็กจะติดเชื้อ ด้วยความที่เป็นโรคอุบัติใหม่ จึงไม่มีใครมีภูมิคุ้มกันเลย ดังนั้นทุกช่วงอายุจึงมีโอกาสติดเชื้อได้”

ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังมีเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาจำนวนไม่มาก แต่คุณพ่อ คุณแม่อย่านิ่งนอนใจ อย่าลืมป้องกันตัวเอง และลูกน้อยเพื่อไม่ให้พบกับความเสี่ยง สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน โดยเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องออกไปในเขตพื้นที่ชุมชน หรือที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ล้างมือบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร หรือหากต้องสัมผัสกับน้ำมูกหรือน้ำลาย พยายามไม่เอามือไปจับบริเวณเยื่อบุต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นตา จมูก ปาก และที่สำคัญควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด ใช้ช้อนกลาง และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยด้วยนะคะ ถ้าหากคุณพ่อ คุณแม่กลัวลืม ท่องจำและสอนลูกน้อยง่ายๆ แค่ 4 ข้อก็ได้ค่ะ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย”