ครอบครัว
รวมบทความครอบครัว เคล็ดลับความสัมพันธ์ครอบครัว การเงินและกฎหมายครอบครัว ปัญหาครอบครัว สูบบุหรี่ในบ้าน สิทธิประโยชน์เพื่อครอบครัว และกิจกรรมครอบครัวที่ไม่ควรพลาด
ทักษะพูดของเด็กนิวซีแลนด์ด้อยลง เหตุจากสื่อไอที และพ่อแม่ไม่มีเวลา!
ที่ประเทศนิวซีแลนด์พบว่าในกลุ่มเด็กที่เข้าเรียนชั้นประถม มีจำนวนเด็กที่สามารถพูดเป็นประโยคได้น้อยลง ผู้บริหารโรงเรียนและผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาสงสัยกันว่าเพราะเด็กอยู่กับสื่ออิเล็กทรอนิกส์บ่อยเกินไป และพ่อแม่ยุ่งกับงาน
เพราะโลกนี้มีเราเพียงสองคน
“ก้าวแรกสู่โลกของเบบี๋” ที่มีแม่เป็นจุดศูนย์กลาง และ “ก้าวแรกสู่โลกของแม่” ที่มีเบบี๋ล้อมรอบทุกแง่มุมของชีวิต สองแม่ลูกจะค้นพบสิ่งใดในโลกของตัวเองบ้าง
ลูกไม่ชอบอ่านหนังสือ ให้ลูกอ่านจากจอแทน จะดีไหม?
ลูกเป็นเด็กยุคชอบคอมพิวเตอร์มากกว่าหนังสือค่ะ ดูแนวโน้มเขาคงจะอ่านจากคอมพิวเตอร์มากกว่าหนังสือ สามีดูเป็นห่วงมาก ถ้าอ่านจากแท็บเล็ตหรือมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ จะต่างจากหนังสือไหม
จำเป็นต้องมีพ่อให้กับลูกไหมคะ
สิ่งสำคัญที่ไม่แนะนำให้คุณแม่กระทำในระหว่างที่อยู่กับลูก คือ การนินทาว่าร้ายผู้เป็นพ่อค่ะ ตัวคุณแม่เองคงจะได้รับความทุกข์ความเศร้าอย่างสาหัสจนรู้สึกเข็ดหลาบกับการแต่งงาน
อลหม่านวันลูกป่วย
โบราณเขาว่า “ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” แม่ขอเพิ่มว่า “เพราะถ้าลูกป่วย คือสุดยอดความเหนื่อยของพ่อแม่” ไงล่ะ
ประโยชน์ 8 อย่างที่ลูกจะได้หากชอบอ่านหนังสือ
เด็กสองคนที่อ่านหนังสือเล่มเดียวกัน อ่านข้อความเดียวกัน บรรยายสิ่งเดียวกัน ต่างคนต่างก็สร้างภาพในความคิดที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์และประสบการณ์ที่ผ่านมา
การอ่านที่แท้จริงคืออะไร
ปัญหาเรื่อง “เด็กไทยอ่านหนังสือน้อย” กลายเป็นประเด็นให้นักวิชาการออกมาพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำอีก พร้อมๆ กันก็เชิญชวนซ้ำๆ ให้พ่อแม่ “ส่งเสริมการอ่าน” ให้ลูกน้อย
เนรมิตบ้าน ให้เป็น “ที่อ่านหนังสือ”
“บรรยากาศชวนอ่าน” เป็นหนทางที่ดีในการสร้างให้เด็กกลายเป็นนักอ่านตัวยง แต่อย่าเพิ่งคิดไปไกล! เราไม่ได้ชวนคุณเปลี่ยนบ้านเป็นห้องสมุดแน่นอน…คำสำคัญคือ “สร้างบรรยากาศ”
อ่านออกเขียนได้ พ่อแม่สอนเองก็ได้ เทคนิคโดย คุณชนะ เสวิกุล
สำหรับวัยเรียนที่พออ่านออกเขียนได้ สิ่งที่ผมให้ลูกศิษย์ในคลาสทำและได้พัฒนาเด็กๆ อย่างมาก จึงอยากแนะนำคุณพ่อคุณแม่เป็นพิเศษ คือการเขียนบันทึกตามใจเขา แล้วให้เขาอ่านให้เราฟัง สำคัญที่ไม่ขัด และเออออ สนุกไปกับเรื่องที่เขาอ่าน
ทำ “หน้าที่พ่อแม่” ให้ดีที่สุด หยุดกังวลเกินเหตุจนบั่นทอนจิตใจตน
ว่าด้วยเรื่อง “หน้าที่พ่อแม่” พ่อแม่บางท่านอาจทุ่มเทให้ลูกมาก จนกังวลเกินเหตุ ก่อให้เกิดความคิดด้านลบไม่รู้จบ กังวลแม้แต่ปัญหาของลูกที่เด็กอื่นก็เป็น
โลกหมุนได้ด้วยความรัก..ไม่ใช่ความชัง
คุณพ่อนักเขียนคนหนึ่งคือ เดวิด เดนนิส ผู้ซึ่งมีลูกชายเป็นออทิสติก ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาในกรณีที่ตำรวจนิวยอร์กฆ่ารัดคอชายผิวดำคนหนึ่งเพียงเพราะสื่อสารผิดพลาด
มีมารยาทก่อนใช้อินเตอร์เน็ต
มีมารยาทก่อนใช้อินเตอร์เน็ต หลายครั้งที่เราเข้าไปดูในคอมเมนต์และกระทู้ต่างๆ แล้วเจอผู้ที่ยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับผู้อื่นอย่างสันติ ดูไม่เหมาะสมเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่คนอื่น เรื่องมารยาทในการใช้อินเตอร์เน็ตได้ถูกพูดถึงมานานแล้ว หากเราไม่อยากให้ลูกเราเป็นแบบนั้น จะต้องสอนเขาอย่างไรบ้าง ในวันนี้เราขอนำบทความดีๆ จากเว็บไซต์ Thaihotline.org มาแบ่งปันกันค่ะ ออนไลน์ปลอดภัย มารยาทเน็ต (netiquette) คือ กิริยาอาการที่พึงประพฤติปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคม กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มารยาทเน็ต คือชุดวิธีประพฤติตนที่เหมาะสมเมื่อคุณใช้อินเทอร์เน็ต “อย่าลืมว่าคุณกำลังติดต่อกับคนที่มีตัวตนจริงๆ” ก่อนส่งอีเมล หรือโพสต์ข้อความอะไรบนอินเทอร์เน็ต คุณต้องถามตัวเองว่า ถ้าเจอกันต่อหน้าคุณจะพูดแบบนี้กับเขาหรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่ ก็จงแก้ไขข้อความนั้นแล้วอ่านใหม่อีกครั้ง ทำแบบนี้ซ้ำๆ จนรู้สึกว่าไม่ลำบากใจที่จะพูดแบบนี้กับใครแล้วจึงค่อยส่ง “การสื่อสารออนไลน์ให้ยึดมาตรฐานความประพฤติเดียวกับการสื่อสารในชีวิตจริง” ในชีวิตจริง คนส่วนใหญ่มักจะเคารพกฎหมาย เพราะกลัวโดนจับ แต่ในโลกอินเทอร์เน็ต โอกาสถูกจับมีน้อย ก็เลยปฏิบัติต่อกันโดยมีมาตรฐานทางศีลธรรมต่ำกว่าในโลกจริง ถ้าอยากทำอะไรผิดกฎหมายในไซเบอร์สเปซ สิ่งที่คุณกำลังจะทำนั้นก็น่าจะผิดด้วย “รู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนในไซเบอร์สเปซ” การกระทำอะไรก็ตามอาจเป็นเรื่องยอมรับได้ในที่แห่งหนึ่ง แต่ถ้าเป็นที่แห่งอื่นๆ อาจจะไม่ใช่ ลองใช้เวลาสักพักสังเกตการณ์ก่อนว่า ที่นั่นเขาคุยอะไรกัน ปฏิบัติต่อกันอย่างไร หรือเข้าไปอ่านข้อความเก่าๆ จากนั้นค่อยเข้าไปมีส่วนร่วมกับเขา “เคารพเวลาและการใช้แบนด์วิธ” ปัจจุบันดูเหมือนคนจะมีเวลาน้อยลงกว่าที่เคยเป็นมามากนัก เมื่อคุณส่งอีเมลหรือโพสต์ข้อความลงเน็ต รู้ไว้ว่าคุณกำลังทำให้คนอื่นเสียเวลามาอ่าน […]
Online Safety แจ้งเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม
หากคุณรู้สึกว่าเว็บไซต์ที่คุณพบเห็นนั้นข้อมูลหลายอย่างไม่ถูกต้อง กลัวคนอื่นนำไปปฏิบัติแล้วเป็นอันตราย และบทความเหมือนแต่งเองและมีภาพประกอบไม่เหมาะสม
แห่ชื่นชม! 2หนูน้อยยอดกตัญญูบริจาคหนังศีรษะช่วยชีวิตพ่อถูกไฟคลอก
นับเป็นเรื่องราวน่าประทับใจของความกตัญญูแสนบริสุทธิ์ของสองพี่น้องตัวน้อยชาย-หญิง วัย 8 ขวบ และ 6 ปี ทำในสิ่งที่กล้าหาญบริจาคหนังศีรษะเพื่อปลูกถ่ายช่วยชีวิตนาย หวัง ซี่หยง บิดาของทั้งคู่ หลังประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อตจนผิวหนังถูกไหม้เสียหาย 90 เปอร์เซนต์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานายหวัง(ผู้เป็นพ่อของเด็กทั้ง 2)ได้รับการรักษาด้วยการปลูกผิวหนังมาแล้ว 3 ครั้ง โดยตัดผิวหนังจากส่วนอื่นมาแปะตรงผิวหนังที่ถูกทำลาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการรักษาแผลไฟไหม้ทั้งหมด อีกทั้งค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเกินกว่าที่ครอบครัวจะแบกรับไหว และแม้มีเงินบริจาครวมถึงค่าชดเชยจากการไฟฟ้าแต่มีจำนวนวงเงินจำกัด ทางแพทย์จึงแนะนำให้ภรรยาเขาใช้การปลูกถ่ายผิวหนังจากหนังศีรษะของลูกทั้งสองคนซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดและปลอดภัยที่สุด แต่ด้วยความเป็นแม่ที่ไม่ต้องการเห็นลูกเจ็บปวดและมองว่าโหดร้ายเกินไปจึงปฏิเสธแนวคิดดังกล่าวทันที . . . อย่างไรก็ตาม แพทย์เตือนว่าจำเป็นต้องรีบทำอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยชีวิตนายหวัง พร้อมทั้งยืนยันว่าผิวหนังเด็กรักษาตัวได้ไว จะงอกกลับคืนมาอย่างรวดเร็วและแข็งแรงแน่นอน ด้วยเวลาชีวิตของสามีเหลือน้อยเต็มที เธอจึงไม่มีทางเลือกต้องไปปรึกษาลูกๆ และเธอต้องประหลาดใจเมื่อหนูน้อยทั้งสองคนตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเล ซึ่งแพทย์ได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนังที่ได้จากศีรษะของลูกสาวและลูกชายให้แก่นายหวัง และทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี สร้างความซาบซึ้งใจกับนายหวังเป็นอย่างมาก ที่ลูกๆยอมทนเจ็บเพื่อช่วยชีวิตของตน ความใจกล้าและกตัญญูของหนูน้อยทั้งสองกลายเป็นที่กล่าวขานทั่วประเทศ ผู้คนต่างพากันยกย่องชื่นชม พร้อมทั้งอวยพรให้หนูน้อยทั้งสองโชคดี ที่มา CCTVNews ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444566936
ภาพยนตร์สำหรับเด็ก 4 เรื่อง ที่พ่อแม่ ควรเปิดให้ลูกดู
กิจกรรมยามว่างที่หลายครอบครัวมักทำร่วมกัน นั่นคือการดูหนังหรือภาพยนตร์ ยิ่งเป็นการดูด้วยกันในบ้านแล้วยิ่งดีใหญ่
จดหมายรักซึ้งๆ จากใจคุณพ่อคนใหม่ ถึงคุณแม่ทุกคนค่ะ
จดหมายรักซึ้งๆ จากใจคุณพ่อคนใหม่ ถึงคุณแม่ทุกคนค่ะ
5 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก น้องลิซซี่ “หมู ฉึกฉึก” โตเป็นสาวแล้ว!
เเจ้งเกิดเป็นที่รู้จักจากวลีเด็ด “หมูฉึก ๆ” ในโฆษณาเครื่องปรุงรสยี่ห้อดัง จนครองใจผู้ชมทั่วประเทศไปเมื่อ 5 ปีก่อน สำหรับ น้องลิซซี่ เฟลิเซีย ณัฐษณา บุทเชอร์ จนทำให้มีผลงานต่อเนื่องในวงการบันเทิงไม่น้อย ล่าสุดตอนนี้ น้องลิซซี่ มีอายุ 10 ขวบแล้ว เริ่มโตขึ้นเป็นสาวน้อยน่ารัก เเต่ก็ยังคงความสดใสสมวัยเหมือนเดิม เเถมยังฉายเเววสวยเเละน่ารักออกมาให้ได้เห็น เชื่อว่าคงจะมีหลายคนถ้าไม่บอกว่านี่คือลิซซี่ หมูฉึกๆก็คงจะจำไม่ได้อย่างเเน่นอน ว่าเเล้วน้องลิซซี่ จะเปลี่ยนไปแค่ไหน? มาดูภาพล่าสุดของสาวน้อยคนนี้กันเลยค่ะ ขอบคุณภาพจาก : https://www.facebook.com/Felicia-Butcher-273599918077/timeline/
ทารกวัยขวบเศษคอหักรอดชีวิตปาฏิหาริย์! แพทย์ผ่าตัดเชื่อมคอให้สำเร็จ
ทารกน้อยรอดปาฏิหาริย์ แพทย์ช่วยผ่าตัดเชื่อมกระดูกคอได้สำเร็จ หลังประสบอุบัติเหตุจนคอหัก เป็นเหตุการณ์ที่ทำเอาคนเป็นแม่แทบใจสลาย เมื่อได้เห็นลูกน้อยวัยหัดเดินได้รับบาดเจ็บ คอหักจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งมีโอกาสน้อยเหลือเกินที่จะรอดชีวิต แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นในที่สุด เมื่อทีมแพทย์จากโรงพยาบาลบริสเบนในออสเตรเลีย สามารถช่วยเหลือเด็กน้อยรายนี้ให้มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง โดยจากรายงานของ เว็บไซต์นิวยอร์กเดลี่นิวส์ เปิดเผยว่า เด็กน้อยดวงแข็งรายนี้มีชื่อว่า แจ็คสัน เทย์เลอร์ วัย 16 เดือน ซึ่งรอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์มาได้อย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากรถที่แม่ของเขาขับชนเข้ากับรถคันอื่น แม่ของแจ็คสันเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุเธอได้พยายามช่วยเหลือลูกชายออกจากรถ แต่ในวินาทีที่ดึงร่างของเขาออกมาเธอก็รู้ได้ทันทีว่าคอของลูกหักเสียแล้ว จากนั้นเด็กน้อยได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบริสเบนอย่างเร่งด่วน โดยแพทย์ผู้รับผิดชอบการรักษาหนูน้อยรายนี้ก็คือ เจฟฟ์ แอสกิน ศัลยแพทย์กระดูกสันหลัง ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งการผ่าตัดกระดูกนั่นเอง โดยแพทย์วินิจฉัยว่ากระดูกสันหลังของแจ็คสันเคลื่อนหลุดจากด้านใน ทำให้กระดูกส่วนศีรษะหลุดออกจากส่วนคอ แต่นับว่าเคราะห์ดีทีไขสันหลังไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด หลังจากการผ่าตัดร่วม 6 ชั่วโมง ในที่สุดแพทย์ก็ประสบความสำเร็จเชื่อมต่อกระดูกของหนูน้อยเข้าใหม่อีกครั้ง คาดว่าหลังจากใส่อุปกรณ์ช่วยค้ำพยุงส่วนศีรษะอีก 8 สัปดาห์ แจ็คสันก็จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้กรณีของแจ็คสันนับว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ เพราะแพทย์ชี้ว่า เด็กส่วนมากที่มีการบาดเจ็บในลักษณะนี้มักจะเสียชีวิต และหากรอดมาได้ก็อาจจะไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือหายใจได้อีก ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : http://hilight.kapook.com/view/127537 ภาพและคลิปวีดีโอจาก : 7 News Melbourne, คุณ nollygrio สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม