ไลฟ์สไตล์
ข่าว ไลฟ์สไตล์ ครอบครัวคนดัง ดวงและราศี กิน เที่ยว ช้อป รวบรวมเคล็ดลับ ความงาม แฟชั่น อาหารและการออกกำลังกาย สุขภาพคุณแม่
สุดเศร้า! ทารกมีชีวิตอยู่ได้แค่ 100 นาที พ่อแม่บริจาคอวัยวะเพื่อต่อชีวิตให้ผู้ป่วยคนอื่น
เว็บไซต์มิร์เรอร์ของอังกฤษเผยแพร่เรื่องราวอันน่าเศร้าสลดใจของสามีภรรยาคู่หนึ่ง “เจส อีแวนส์ และ ไมค์ โฮลสตัน” ที่ต้องสูญเสีย “เทดดี้” ลูกน้อยที่เพิ่งจะลืมตาออกมาดูโลกได้เพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้นไป เนื่องด้วยเกิดมาพร้อมกับสภาวะที่เรียกว่า “อเนนเซฟาลี” หรือสภาวะไร้สมองใหญ่ ทำให้ทั้งสมองและหัวกะโหลกไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ถือเป็นความผิดปกติที่หายาก ในช่วงที่เจสท้องลูกฝาแฝด 2 คน ซึ่งก็คือเท็ดดี้และพี่ชายชื่อโนอาห์ ได้ 12 สัปดาห์ แพทย์ก็มาแจ้งข่าวร้ายให้ทราบว่าเทดดี้เป็นภาวะไร้สมองใหญ่ เธอและสามีจะมีเวลาอยู่กับลูกได้อีกไม่นาน ฉะนั้นแล้ว ไม่ถึง 2 ชั่วโมงหลังจากที่เทดดี้คลอดออกมา เจสและไมค์จึงตัดสินใจที่จะทำให้ช่วงเวลาอันสั้นกลายเป็นความทรงจำที่มีค่าและพิเศษที่สุด ด้วยการบริจาคอวัยวะของลูกให้กับทางการแพทย์ เพื่อที่จะได้นำไปใช้ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆอีกต่อไป ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญมาก ทำให้แม้ครั้งนี้คู่สามีภรรยาจะสูญเสียลูกชายไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ความสูญเปล่า ทั้งหมดนี้ทำให้เทดดี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้บริจาคอวัยวะที่อายุน้อยที่สุดในอังกฤษ และทางครอบครัวยังได้ได้รับใบประกาศเกียรติคุณในพิธี “Pride of Britain” (ความภาคภูมิใจแห่งอังกฤษ) ของหนังสือพิมพ์เดลีมิร์เรอร์อีกด้วย ท่ามกลางน้ำตาแห่งความซาบซึ้งของบรรดาคนที่มาร่วมงาน “เป็นเวลาที่สั้นๆเพียง 100 นาทีที่ลูกมีชีวิตอยู่กับเรา แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุด มันผ่านไปเร็วมาก” เจสกล่าว ที่มา : Mirror ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.khaosod.co.th
อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก
การทำอาหารที่รู้ใจลูกที่สุด ไม่ได้แปลว่าต้องตามใจหรือยอมให้ลูกนั้นกลายเป็นคนเลือกกินนะคะ
10 เรื่องน่ารักๆ ของ ‘บรู๊คลิน เบคแฮม’ ที่จะทำให้อ่านไปยิ้มไป
‘บรู๊คลิน เบคแฮม’ ลูกชายคนโตของอดีตนักบอลสุดหล่อ ‘เดวิด เบคแฮม’ และนางแบบสาวสวย ‘วิคตอเรีย เบคแฮม’ ที่ตอนนี้กำลังโตเป็นหนุ่มฮอต เรียกได้ว่าหน้าตาหล่อเหลาจนสาวๆ ทั่วโลกกรี๊ดลั่นสมัครเป็นแฟนคลับกันเป็นแถวๆ เราจึงขอนำเรื่องราวน่ารักๆ 10 ข้อ ที่เกี่ยวกับชีวิตของบรู๊คลิน มาฝากค่ะ รับรองว่าถ้าได้อ่านพร้อมชมภาพน่ารักๆของหนุ่ม บรู๊คลิน เบคแฮม แล้วต้องตกหลุมรักเขาและครอบครัวของเขาเป็นแน่ 1. ที่มาของชื่อ ‘บรู๊คลิน‘ คือ วิกตอเรียแม่ของเขาได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่เมืองบรูคลิน และในขณะเดียวกันก็กำลังตั้งท้องบรูคลินด้วย 2. เดทครั้งแรกของบรู๊คลิน คือตอนอายุ 14 ปี ซึ่งได้ไปดินเนอร์ที่ร้านซูชิ ในวันวาเลนไทน์ ในการไปเดทครั้งนั้น ‘วิคตอเรีย’ แม่ของเขา ได้บอกให้คุณพ่อสุดหล่อ ‘เบคแฮม’ ให้ไปส่ง ‘บรูคลิน’ ที่ร้าน และนั่งอยู่ในร้านนั้นเพื่อดูลูกด้วย ถ้าไม่ทำตามที่เธอขอ เธอจะไม่ยอมให้ลูกไป 3. บรู๊คลินเป็นแฟนคลับตัวยงของพ่อ เขาไปเชียร์ ‘เดวิด แบ็คแฮม’ ในทุกแมชการแข่งขัน 4. บรู๊คลินทำงานพาร์ทไทม์ ถึงแม้พ่อและแม่ของเขาจะมีรายได้มากมาย แต่เพราะไม่อยากให้ลูกใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย เขาจึงบอกลูกว่า ‘หากลูกอยากได้อะไร ลูกก็ควรจะลองทำงานเพื่อเก็บเงิน และใช้จ่ายด้วยเงินของตัวเองดู” บรู๊คลินจึงไปทำงานพาร์ทไทม์เป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านกาแฟในกรุงลอนดอน […]
น่าสงสาร! หนูน้อยเกิดมามีสมองผิดรูป ต้องพึ่งปาฏิหาริย์ให้มีชีวิตยืนยาว
เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษเผยแพร่ภาพของ “เจสัน” เด็กชายตัวน้อยที่เกิดมาพร้อมกับอาการ “ไมโครไฮดราเนนซ์ฟาลีย์” หรือภาวะสมองเจริญเติบโตผิดรูปผิดร่าง … ส่งผลให้ศีรษะของเขามีลักษณะไม่เหมือนคนอื่น มีขนาดเล็กไม่สมดุลกับตัว แต่ถึงกระนั้นแล้วก็ไม่ได้ทำให้เด็กชายคนนี้น่ารักน้อยลงไปกว่าเดิมเลยสักนิด ซึ่งผู้เป็นพ่อแม่ ได้เผยแพร่เรื่องราวของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน โดยกล่าวว่าเจสันต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา จะคลาดสายตาไม่ได้ เนื่องจากมีพัฒนาการที่ช้ามาก แต่อย่างไรก็ตาม เจสันกลับทำในสิ่งที่แม้แต่แพทย์เองยังคาดไม่ถึง นั่นคือมีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันเกิดครบรอบ 1 ปี “ความพยายามและความแข็งแรงของลูกเป็นตัวบ่งชี้ว่าทำไมเราถึงเรียกเรื่องราวของเขาว่าเจสัน สตรอง” ครอบครัวของเจสันกล่าว และว่า “ในท้ายที่สุดแล้ว เจสันจะต้องพึ่งปาฏิหาริย์ในการมีชีวิตยืนยาว เรายังคงพยายามขอทั้งพรและความช่วยเหลือจากเพื่อนมนุษย์” ทั้งนี้ผู้เป็นแม่ต้องยอมลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูกชายอย่างเต็มเวลา ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวตั้งกระทู้ขอรับบริจาคเงินบนเว็บไซต์ GoFundMe.comเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลเจสัน “เรื่องของเจสันยังคงแพร่ไปทั่วโลก คือเราไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลย เราคงพูดได้แค่ว่าขอบคุณจริงๆ บอกไม่ถูกเลยว่าทุกแรงสนับสนุนมีค่าแค่ไหน” ทางครอบครัวกล่าวทิ้งท้าย ที่มา : Metro ขอบคุณข้อมูข่าวและภาพจาก : www.khaosod.co.th
อันตรายมาก! ปล่อยคนหอมแก้มลูกน้อย เด็กเสี่ยงติดเชื้อถึงชีวิต
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณแม่ชาวอังกฤษ ชื่อว่า แคลร์ เฮนเดอร์สัน ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านเฟสบุ๊กเตือนบรรดาคุณแม่มือใหม่ทั้งหลาย อย่าให้ใครมาหอมหรือจูบแก้มลูกน้อยพร่ำเพรื่อ เพราะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของลูกน้อยได้ เฮนเดอร์สันเล่าว่า บรู๊ค ลูกสาวของเธอลืมตัวดูโลกเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนๆ แวะเวียนมาเยี่ยมและแสดงความยินดีไม่ขาดสาย ในจำนวนแขกที่มาเยี่ยมนั้น ตนก็ไม่ทันระวังเพื่อนคนหนึ่งที่มีเชื้อไวรัส HSV-1 ต้นเหตุของโรคเริม สามารถติดต่อได้จากการจูบปาก หรือแม้แต่จูจุ๊บเบาๆ และหากเด็กทารกติดเชื้อไวรัสตัวนี้เข้าไปแล้วอาจทำอันตรายกับปอด รวมถึงตับและสมองจนถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้ อาการติดเชื้อไม่ได้แสดงออกทันที แต่อยู่มาคืนหนึ่งระหว่างป้อนนมลูก ตนสังเกตเห็นความผิดปกติ บรู๊คมีอาการบวมแดงที่ริมฝีปาก จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แพทย์ระบุว่า โชคดีที่นำตัวหนูน้อยมาโรงพยาบาลทันเวลาเพราะอาการน่าเป็นห่วง โดยบรู๊คต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 5 วัน เฮนเดอร์สันจึงโพสต์ข้อความเตือนบรรดาคุณแม่คนอื่นๆให้ระมัดระหว่างอย่าใครจูบหรือหอมทารกแรกเกิด เพราะไม่อาจทราบได้เลยว่า ใครที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้ และหากพบเพื่อนหรือญาติคนใดมีแผลที่ปากให้รู้ไว้เลยว่าเป็นอันตรายต่อลูกน้อย ด้านผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคติดต่อ กล่าวถึงกรณีของหนูน้อยบรู๊คว่า เป็นเคสที่พบได้ยากแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย อย่างไรก็ตาม ทารกส่วนใหญ่ไม่ได้มีความเสี่ยงเพราะมีภูมิคุ้มกันจากแม่ ที่มา BuzzFeed ขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพจาก : www.khaosod.co.th
คุณแม่ท้องแก่คลอดลูกหน้างานเดี่ยว11 โน๊ต อุดมโพสยินดี
“โน๊ต อุดม”โพสต์เรื่องน่ายินคุณแม่ท้องแก่คลอดลูกสาวหน้างานเดี่ยว11 ทีมงานพาส่งรพ.กันวุ่น จากงาน โชว์เดี่ยว 11 รอบวันที่ 22 กันยายน 2558 ที่ผ่านมาได้เกิดเรื่องที่น่ายินดีขึ้นกลางงาน >> เมื่อคุณแม่ท้องแก่ที่มาดูเดี่ยวไมโครโฟน ของ “โน๊ต อุดม แต้พานิช” แต่ดันเกิดอาการน้ำเดินเจ้าตัวน้อยดันอยากออกมาดูโลกในช่วงเวลานั้นพอดี (หรืออยากดู เดี่ยว 11 กันแน่นะ ^_^) ทางทีมงานต้องช่วยพาส่งไปโรงพยาบาลกันวุ่นสุดท้ายแม่และลูกปลอดภัยทั้งคู่ …เรื่องราวดังกล่าวทำให้เจ้าพ่อเดี่ยวฯ “โน๊ต อุดม” ต้องโพสต์แสดงความยินดีบนเพจเฟซบุ๊คเลยทีเดียว โดยระบุข้อความว่า ขอต้อนรับสู่ดาวโลก…อีกแล้วก่อนเริ่มโชว์เดี่ยว 11 รอบวันที่ 22 กันยายน เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เมื่อปรากฎว่ามีคุณแม่ยังสาวท้องแก่ ซึ่งเดินทางมาชมโชว์ในรอบนั้น แต่ยังไม่ทันได้เข้ามาในฮอลล์ แค่ได้ฟังเพลงสุดสวิงฯ ที่บริเวณหน้างาน ก็เกิดอาการน้ำเดิน คราวนี้ไม่ต้องรอให้ถึงมือหมอ เพราะหัวเด็กหลุดออกมาให้เห็นกันจะจะ…(ไม่รู้จะรีบไปไหน) ทีมงานเดี่ยวและเจ้าหน้าที่พารากอน ช่วยกันพาไปส่งโรงพยาบาลทันที สถานการณ์ล่าสุด ทั้งคุณแม่และคุณลูกปลอดภัยดี คุณแม่มือใหม่ได้ลูกสาวแสนน่ารักมาเชยชม และเพื่อความสิริมงคล คุณแม่จึงได้ตั้งชื่อลูกสาวคนแรกว่า “โน๊ต” ขอให้น้องโน๊ตสุขภาพแข็งแรง โตไวๆนะคะ ป.ล.1 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดกันสองครั้ง ทางทีมงานได้หารือกันแล้ว […]
11 อันดับ ลูกดารา หล่อ น่ารัก มีแววเกิด!
พ่อ แม่ หน้าตาดี ลูกออกมาหน้าตาดีก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ดูอย่างคุณพ่อคุณแม่ดารา ที่มีโซ่ทองคล้องใจออกมา ก็ต้องหน้าตาดีทวีคูณยิ่งขึ้น ซึ่งเด็กสมัยนี้เกิดมาหน้าตาดีกันแทบทุกคน ขนาดตอนยังละอ่อน ยังหน้าตา หล่อ ฉายแววพระเอกขนาดนี้ โตขึ้นมาหนูน้อยเหล่านี้จะหล่อขั้นเทพ ทำให้สาวๆ ฟินขนาดไหน . . . ว่าแล้วก็ตามไปดู 11 อันดับ “ลูกชายดารา” สุดฮอตกันดีกว่าค่ะ อันดับที่ 1 “บรู๊คลิน” ลูกชายฝาแฝดของคุณแม่ “นานา ไรบีนา” และคุณพ่อ “เวย์ ไทเทเนี่ยม” @nanarybena ยอดฟอลโล่ อินสตาแกรม 683,118 อันดับที่ 2 “น้องโปรด อัษศดิณย์” ลูกชาย คุณแม่ “เป้ย ปานวาด” และคุณพ่อ “ป๊อบ นิธิ” @ppanward ยอดฟอลโล่ อินสตาแกรม 630,235 อันดับที่ 3 “น้องภู ภูดิศ” ลูกชาย คุณแม่ “เอ๋ […]
เด็กวัย 13 ทำเก่งบอกแม่อย่ายุ่งกับชีวิตผม เจอแม่ทวงค่าเช่าบ้าน-อาหาร สิ้นลายเลย
เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษ เปิดเผยเรื่องราวไม้เด็ดของคุณแม่ ที่งัดออกมาจัดการกับลูกชายตัวแสบ หลังจากเขาทำเก่งประกาศตัวเป็นอิสระ แม่อย่ามายุ่งกับชีวิตผม! . . .เรื่องนี้เกิดจาก 2 แม่ลูกได้มีปากเสียงกันในวันหนึ่ง และลูกชายตัวแสบก็ได้ลั่นวาจาว่าเขาเป็นอิสระแล้ว ขอให้แม่อย่ามายุ่งกับชีวิตผมอีก >> แต่ใครเลยจะไปคาดคิดว่าเด็กชายตัวแสบจะสิ้นลายเมื่อเจอไม้เด็ดของแม่ ที่ส่งจดหมายระบุเงื่อนไขในการอยู่ในบ้าน หากเขาคิดว่าตัวเองเป็นอิสระแล้ว โดยเธอเขียนจดหมายทวงค่าเช่าบ้าน ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต แถมยังยึดเสื้อผ้าอีก “ถึง.. อารอน จากการที่ลูกลืมไปแล้วว่าตัวเองอายุ 13 และแม่ก็คือผู้ปกครองของลูก และลูกก็ไม่อยากจะถูกควบคุมใด ๆ แล้ว แม่คิดว่าลูกจะต้องได้รับบทเรียนของการเป็นอิสระ สำหรับเรื่องที่ลูกบอกแม่ว่าตอนนี้ลูกหาเงินเองได้แล้ว ดังนั้นมันก็คงง่ายเลยที่จะซื้อของที่แม่เคยซื้อให้ลูกกลับคืนไป ต่อไปนี้ถ้าลูกอยากจะใช้ไฟหรือเข้าอินเทอร์เน็ต ลูกจะต้องแชร์ค่าใช้จ่ายกับแม่ดังนี้ – ค่าเช่าบ้าน 430 ดอลลาร์ – ค่าไฟ 116 ดอลลาร์ – ค่าอินเทอร์เน็ต 21 ดอลลาร์ […]
“เด็กเห็น เด็กทำตาม” แคมเปญให้ผู้ใหญ่ระมัดระวังพฤติกรรมก้าวร้าวต่อหน้าเด็ก
มูลนิธิ Child Friendly ประเทศออสเตรเลียได้ปล่อยแคมเปญรณรงค์ภายใต้ชื่อ “Children see Children do” หรือแปลเป็นไทยว่า “เด็กเห็น เด็กทำตาม” โดยมีเนื้อหาจะกล่าวถึงพฤติกรรมแย่ๆ ของผู้ใหญ่ที่แสดงออกมาในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ระดับเบาๆ อย่างการตะโกนใส่กัน ไปจนระดับรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ซึ่งขณะที่ผู้ใหญ่แสดงกิริยาเหล่านี้ เด็กที่เดินตามก็จะเลียนแบบสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำด้วย การที่เด็กเรียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ หรือ เลียนแบบพฤติกรรมจากพ่อแม่และคนรอบข้าง ก็เปรียบเสมือนเด็กคือกระจกของผู้ใหญ่ พฤติกรรม การพูด อารมณ์ หลายสิ่งอย่าง เด็กจะซึมซับจากคนรอบข้างและแสดงออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว ผู้ใหญ่เองควรรู้จักเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพวกเขาเสียก่อน ไม่เช่นนั้นลูกหลานของคุณอาจเป็นแบบนี้! ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : NAPCAN
10 ลูกสาวดารา ฉายแววนางเอกตั้งแต่เด็ก สวยไม่แพ้คุณแม่
ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกดารา มีคุณพ่อคุณแม่หน้าตาดี ดีกรีเป็นถึงระดับดาราชื่อดัง คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูก ๆ จะออกมามีหน้าตาสวยเป๊ะพิมพ์เดียวกัน เผลอ ๆ คุณลูก ๆ จะหน้าตาดีกว่าคุณพ่อคุณแม่ซะอีกนะเนี่ย …ว่าแต่จะมีซุปตาร์วัยเบบี๋คนไหนที่ยิ่งโตก็ยิ่งสวยน่ารักไม่แพ้คุณแม่กันบ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปยลโฉมลูก ๆ ดารา 10 คนดัง ที่กำลังฉายแววสวยน่ารักไม่แพ้คุณแม่มาให้ชมกันค่ะ ดูสิจะมีสาวน้อยคนไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ ^_^ น้องณดา ลูกสาวคุณแม่ กบ สุวนันท์ ยิ่งโตก็ยิ่งหน้าหวาน ฉายแววนางเอกมาแต่ไกล น้องไลลา ลูกสาวคุณแม่ พอลล่า เทย์เลอร์ สาวน้อยลูกครึ่งคนนี้ สวยได้แม่เลยล่ะ น้องลียา ลูกสาวคุณแม่ ธัญญ่า ธัญญาเรศ สวยเป๊ะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพิมพ์เดียวกัน ^^ น้องณิริน ลูกสาวคุณแม่ หนิง ปณิตา ยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก อนาคตซุปตาร์แน่นอน น้องบีน่า ลูกสาวคุณแม่ นานา ไรบีนา สาวน้อยคนนี้สวยได้แม่มาแบบเต็ม ๆ น้องเนซซี่ ลูกสาวคุณแม่ แหม่ม […]
ุเตือน! อย่าปล่อยสุนัขพันธุ์พิตบูลไว้กับเด็กเพียงลำพัง
จินตนาการของลูกน้อยนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่พื้นที่ในการรองรับจินตนาการก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่พร้อมที่จะดูแลคุณลูก … ก็ควรเตรียมพื้นที่รองรับฝีมือ!
พ่อแม่แทบช็อก !! เมื่อลูกแรกเกิด ถูกหนูตัวยักษ์กัดจนตายที่โรงพยาบาล
เรียกได้ว่า หนู นั้นเป็นเสมือนสัตว์สามัญประจำบ้านที่ไม่ว่าบ้านไหนๆก็ต้องมีไปซะแล้ว เจ้าสัตว์จอมแทะชนิดนี้สร้างความลำบากให้เราเป็นอย่างมาก มันไม่เพียงแต่กัดแทะทำลายอาหารของกินของเราเท่านั้น แต่รวมไปถึงทรัพย์สินอันมีค่าของเราอีกด้วย แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากจริงๆที่จะหลีกเลี่ยงเจ้าสัตว์จอมแทะชนิดนี้ไม่ให้อาศัยอยู่ตามที่พักพิงอาศัย แต่กับโรงพยาบาลนั้น อาจจะเป็นเรื่องยากซักหน่อย เพราะทุกโรงพยาบาลจะมีการป้องกันทางด้านสุขาภิบาลที่สูง เพื่อไม่ให้สัตว์พวกนี้เข้าไปอยู่อาศัย หรือถ้ามีนั้นก็ควรจะมีจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่งั้นแล้วอาจจะเกิดปัญหาที่คาดไม่ถึงเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับเด็กทารกโชคร้ายคนนี้ เด็กทารกแรกเกิดที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียง 10 วัน โดนหนูกัดทำร้ายจนถึงชีวิตคาห้องไอซียูที่โรงพยาบาลคุนตูร์ รัฐอานธรประเทศ ประเทศอินเดียตะวันออกเฉียงใต้ แม่ของเด็กทารกน้อยผู้โชคร้ายคนนี้ได้เปิดเผยว่า เธอนั้นได้เตือนกับทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการมีอยู่ของเจ้าสัตว์จอมแทะพวกนี้แล้ว แต่กลับไม่มีท่าทีใดๆจากทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่จะกำจัดพวกมันออกไป และแม่กล่าวต่อว่า หลังจากที่ลูกของเธอนั้นโดนหนูกัดทำร้าย เธอได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอให้ทำการศัลยกรรมรักษาในส่วนรอยกัดของดวงตาลูกของเธอก่อน แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับไปให้ความสำคัญมุ่งประเด็นรักษากับรอยกัดตรงแขนขวา รวมถึงเด็กทารกน้อยผู้โชคร้ายยังถูกหนูกัดแทะนิ้วจนขาด ทางคุณแม่เด็กปักใจเชื่อว่า การที่ลูกของเธอตายนั้น ไม่ใช่เพราะโดนหนูกัดโดยตรง แต่เป็นเพราะฝีมือหมอและทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่วินิจฉัยและรักษาได้ช้า ไม่ตรงจุดด้วย ทางคุณพ่อของเด็กชายยืนยันอีกเสียงว่าการที่ลูกชายของเขาตายนั้น เป็นฝีมือของหนูกัดจริงๆ แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับแนะเขาว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องกังวลในเมื่อเขายังมีลูกชายอีกคนอยู่ไม่ใช่เหรอ? รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขทราบเรื่องจึงได้ยกเลิกสัญญากับเจ้าหน้าที่สุขาภิบาลประจำโรงพยาบาลและสั่งให้ตำรวจสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที พร้อมกับติดตามและรอผลรายงานภายในหนึ่งสัปดาห์ อีกทั้งเขายังบอกอีกว่าจะไม่ปล่อยและประมาทกับเรื่องนี้ ด้วยการส่ง 3 เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขลงไปช่วยตรวจสอบอีกด้วย . . . เมื่อพวกเขาได้เริ่มทำการตรวจสอบด้วยการติดตั้งที่ดักจับหนูตามแต่ละพื้นที่ในโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบว่าเป็นความจริงหรือไม่ที่มีเจ้าหนูฆาตกรอาศัยอยู่ในโรงพยาบาล หลังจากนั้นทางผู้อำนวยการของโรงพยาบาลคุนตูร์ได้ออกมายอมรับว่า มีหนูมาติดกับที่ดักจับอยู่จริง และได้ทำการตรวจสอบที่มาของพวกมันจนสรุปออกมาได้ว่า เจ้าหนูฆาตรกรพวกนี้หลุดเข้ามาผ่านทางท่อเครื่องปรับอากาศของทางโรงพยาบาลนั่นเอง ทางผู้อำนวยการกล่าวต่อว่า มันเป็นเรื่องน่าสลดที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดพลาดของทางโรงพยาบาลเองด้วยที่ปล่อยให้เจ้าหนูพวกนี้เล็ดลอดเข้ามาอาศัยอยู่บวกกับกระทำที่ไม่รอบคอบของทางหมอและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเองในเวลาเดียวกัน ที่มา : […]
สร้างความสุข…สร้างความหวัง…สร้างโอกาสหนึ่งพันธกิจหลักของมูลนิธิรามาธิบดีฯ
ผศ.นายแพทย์ อดิศักดิ์ นารถธนะรุ่ง หัวหน้าหน่วยเนื้องอกกระดูก ภาควิชาออร์โธปิดิกส์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวว่า3 เดือนก่อนมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยได้รับอุบัติเหตุจักรยานล้มทับเข่าซ้าย จากนั้นสังเกตเห็นว่าเข่าซ้ายบวมมากขึ้น และปวดมากโดยเฉพาะเวลากลางคืนจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง แต่อาการโดยรวมยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ผลเอ็กซเรย์พบความผิดปกติที่กระดูก แพทย์สงสัยว่าจะเป็นมะเร็งกระดูกซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและโรงพยาบาลรัฐแห่งนั้นไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งกระดูก ผู้ป่วยจึงถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง ภายหลังจากที่แพทย์ได้ตรวจดูอาการของโรคอย่างละเอียดแล้ว จึงทำให้ทราบว่าผู้ป่วยกำลังป่วยเป็น “โรคมะเร็งกระดูกขาซ้าย” ทีมแพทย์ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าผู้ป่วยรายนี้สามารถผ่าตัดเก็บขาได้ ซึ่งการรักษาโรคมะเร็งชนิดนี้ จะต้องผ่าตัดเอาส่วนที่เซลล์มะเร็งลุกลามออกไปทั้งหมด เพื่อรักษาขีวิตของผู้ป่วยเอาไว้ นับว่าเป็นโชคดีที่ผู้ป่วยได้มาพบกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่สามารถรักษาโรคนี้ได้โดยการใช้เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบใหม่ทำให้ไม่ต้องตัดขาด้านซ้ายทิ้ง โดยทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอากระดูกเดิมที่เป็นมะเร็งกระดูกที่บริเวณขาซ้ายออกทั้งหมด และทดแทนด้วยข้อเทียมชนิดพิเศษ (endoprosthesis)โดยใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดทั้งสิ้น 14 ชั่วโมงและยังคงมีการให้ยาเคมีบำบัดอย่างต่อเนื่องหลังผ่าตัด เด็กหญิงนันท์นภัส ทับทิมศรี (น้องพั้นซ์) อายุ 11 ปีผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูกขาซ้าย ที่ได้รับผ่าตัดแบบใหม่โดยไม่ต้องตัดขาซ้ายทิ้ง ซึ่งใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 14 ชั่วโมงกล่าวว่า “ขอบคุณทีมอาจารย์ทุกท่าน โดยเฉพาะคุณหมออดิศักดิ์ นารถธนะรุ่งด้วยค่ะ ที่อาจารย์หมอใช้การรักษาด้วยวิธีและเทคโนโลยีใหม่ครั้งนี้ แทนการตัดขาซ้ายหนูทิ้ง และต้องขอบคุณมูลนิธิรามาธิบดีฯ และงานสังคมสงเคราะห์โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าข้อเทียมชนิดพิเศษ ที่มีราคาสูงเกือบ 4 แสนบาท รวมไปถึงทีมแพทย์ที่เข้ามาดูแลรักษาสุขอนามัยที่อยู่อาศัยและช่วยสนับสนุนในการซ่อมแซมบ้าน เพื่อให้หนูและครอบครัวมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น […]
สมเด็จพระบรมฯ กับ”พระองค์ที” ทรงฝึกกิจกรรมทางน้ำในวันปิดภาคเรียน
ชมพระฉายาลักษณ์ ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงฝึกกิจกรรมทางน้ำในช่วงปิดภาคเรียน โพสต์ผ่านเฟซบุค โดยสุริยัน หมอหยอง สุจริตพลวงศ์ ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เฟซบุค โดยสุริยัน หมอหยอง สุจริตพลวงศ์ www.khaosod.co.th
ยอดกตัญญู เด็กหญิง 12 ขวบ อาศัยช่วงพักกลางวัน โบกรถเพื่อกลับไปป้อนข้าวแม่เป็นอัมพฤกษ์
ด.ญ. กฤษณา หรือ น้องน้ำเย็น อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านแหลมมะขาม จ.ตรัง เป็นเด็กหญิงกตัญญูสู้ชีวิต ซึ่งจะใช้เวลาช่วงพักเที่ยง โบกรถยนต์ที่ขับผ่านถนนหน้าโรงเรียนฯ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อกลับไปป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับแม่ ซึ่งล้มป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมองและเนื้องอกใกล้ลิ้นหัวใจ ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ซีกขวา ไม่สามารถพูดหรือขยับร่างกายซีกขวาได้มานานกว่า 1 ปีแล้ว ส่วนพี่ชายอายุ 14 ปี ก็ต้องลาออกจากโรงเรียน ตั้งแต่อยู่ชั้น ม.4 เพื่อมาช่วยบิดาออกเรือหาปลา หาเงินมารักษามารดาและเลี้ยงน้องชายวัย 5 ขวบ อีก 1 คน ซึ่งหลังพักเที่ยงของทุกวัน น้องน้ำเย็นจะโบกรถกลับมาบีบนวด เช็ดเนื้อตัวและป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับมารดา ก่อนที่จะโบกรถกลับไปเรียนหนังสือต่อในช่วงบ่ายที่โรงเรียน โดยคุณครูเจ้าของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือเด็กนักเรียนได้สังเกตเห็นน้องน้ำเย็นกลับบ้านทุกตอนเที่ยง จึงสอบถามและติดตามไปยังบ้านพัก จึงพบสภาพมารดาที่นอนป่วยและน้องน้ำเย็น ซึ่งกำลังดูแลมารดา จึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของเด็กหญิงยอดกตัญญูรายนี้ ด้านน้องน้ำเย็น กล่าวว่า ตนเองหวังให้มีใครสักคนพามารดาไปรักษาให้หายเท่านั้น ตนก็พอใจแล้ว ส่วนตนอยากเรียนให้ถึงระดับมหาวิทยาลัย แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากทางบ้านต้องส่งเสียให้น้องชายคนเล็กเรียนหนังสืออีกคน ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.khaosod.co.th
เด็กชิลี 2 ขวบถูกทิ้ง แต่รอดเพราะนมแม่หมาช่วยชีวิต!
เจ้าหน้าที่ตำรวจชิลี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเด็กเล็กคนหนึ่ง ไม่สวมเสื้อผ้า ถูกทอดทิ้งในโรงกลึง ของท่าเรือร้าง Arica เมื่อเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว ก็พบตัวหนูน้อยวัย 2 ขวบ แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด โดยตำรวจระบุว่า จากการสอบสวนพบว่าเจ้าหนูคนนี้ ถูกทอดทิ้งโดยปราศจากอาหารและน้ำ เพราะผู้เป็นแม่ติดสุราอย่างหนัก โดยเพื่อนบ้านแจ้งว่า เจ้าหนูต้องอาศัยกินนมจากแม่สุนัขที่กำลังตั้งท้องเพื่อประทังชีวิต เนื่องจากผู้เป็นแม่ติดสุราอย่างหนักและทิ้งลูกเอาไว้โดยปราศจากอาหารและน้ำ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรอดชีวิตจากการได้ดื่มนม จากเต้าของแม่สุนัขตัวนั้น ตอนนี้เจ้าหนูคนนี้ ถูกส่งตัวไปดูแลที่โรงพยาบาลแล้ว โดยพบว่าเขาเป็นโรคขาดสารอาหาร รวมถึงผิวหนังติดเชื้อด้วย และก็จะถูกนำตัวส่งไปยังสถานเลี้ยงเด็กต่อไป อย่างไรก็ดี แม่ของเด็กจะไม่ถูกจับกุม เนื่องจากเด็กไม่ได้มีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย พ่อของเด็กปรากฏตัวในภายหลัง แต่ยังไม่รู้ว่าเขามีสิทธิในการเลี้ยงดูลูกหรือไม่ ที่สำคัญตอนที่ตำรวจพบตัวเด็กในเวลานั้นไม่รู้ว่าพ่อแม่ไปอยู่ที่ไหน แต่จะมีการตัดสินในช่วงปลายเดือนนี้ว่าใครจะเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็กชาย หากตัดสินใจจะสร้างชีวิตหนึ่งขึ้นมาแล้ว เราได้แต่หวังว่าคุณพ่อคุณแม่จะดูแลลูกของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ ที่มา: Dailymail ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.kiitdoo.com
คุณหมอเฉลย !! “กิ้งกือ” กัดเด็ก ได้จริงหรือ?
เพราะในกระแสโลกออนไลน์ เคยมีคุณแม่โพสต์ภาพแผลลูกน้อยถูกสัตว์กัด โดยระบุว่าเกิดจากกิ้งกือกัดลูก จริงหรือไม่ ไปพบคำตอบจากกุมารแพทย์กันค่ะ
“Thai Dictionary” แอปพลิเคชัน พจนานุกรมภาษาไทย ที่ทุกคนรอคอย
แอปพลิเคชันพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ บนสมาร์ตโฟนพร้อมให้ดาวน์โหลดในวันจันทร์ที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ทั้งระบบ iOS, Android และ Windows