AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

สอนภาษาอังกฤษลูกอย่างไร ให้เก่งตั้งแต่เด็ก!

สอนภาษาอังกฤษลูกอย่างไร

มีข่าวเด็กเพียงวัยอนุบาล 1 พูดคุยภาษาอังกฤษ กับครูเจ้าของภาษาได้เกินเพื่อนๆ คนอื่น จนทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอยากรู้และมีคำถามว่าจะ สอนภาษาอังกฤษลูกอย่างไร ให้เก่งได้แบบนี้

ซึ่งหนูน้อยที่ถูกล่าวถึง ชื่อ ด.ช.ปุณณภพ น้ำจันทร์ หรือน้องภูเขา อายุ 4 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1/1 ห้อง EP ซึ่งเป็นห้องอิงลิชโปรแกรม โรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง ซึ่งมีความสามารถพูดภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งสำเนียงการออกเสียงที่เมื่อคุณครูและผู้ใหญ่ได้ยินต้อง ยังอึ้ง

สอนภาษาอังกฤษลูกอย่างไร ให้เก่งตั้งแต่เด็ก!

ขอบคุณภาพจาก : www.thairath.co.th

ซึ่งจากการสอบถามคุณครู ก็ทราบว่า น้องภูเขามีความสนใจในเรื่องของภาษาอังกฤษ และเมื่อตอนที่เข้าเรียนมาตอนแรกก็สามารถเรียนรู้คำศัพท์ พยัญชนะภาษาอังกฤษได้ไวกว่าเด็กในรุ่นเดียวกัน สามารถเขียนชื่อตัวเองได้ และที่สำคัญสามารถสื่อสารพูดคุยกับครูชาวต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่ว และเป็นประโยค ต่างจากเด็กในวัยเดียวกัน ส่วนทางด้านนิสัยใจคอน้องภูเขาก็เป็นเด็กน่ารัก มีความสดใสตามวัยของตนเอง ตั้งใจเรียน ไม่เกเร

ด้านผู้เป็นพ่อและแม่ของน้องภูเขา ได้เปิดเผยว่า…

ช่วงที่น้องภูเขายังเล็กจะซื้อบัตรคำศัพท์ที่มีรูปการ์ตูนและรูปสัตว์มาเปิดให้ลูกดู โดยเฉพาะเวลาเดินทางที่คุณพ่อคุณแม่ขับรถเดินทางจะชอบฟังเพลงในสมัยยุคปี 60 ซึ่งสังเกตเห็นว่าน้องภูเขาก็ตั้งใจฟังมากเช่นกัน

จนต่อมาคุณพ่อคุณแม่ก็รู้ว่าน้องภูเขามีความสามารถพิเศษพูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าเรียน เพราะเวลาพาน้องภูเขาไปเที่ยว ระหว่างการเดินทางผ่านจะถามน้องภูเขาว่าสิ่งนั้นเรียกว่าอะไร แต่น้องกลับตอบมาเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ถึงกับงงในตอนแรกๆ ทั้งนี้ยังบอกอีกว่าพร้อมที่จะส่งเสริมให้น้องภูเขาได้รับการพัฒนาไปในทางที่ชอบต่อไป

ชมคลิป >> น้องภูเขาพูดคุยกับครูสอนภาษอังกฤษ พร้อมเผยเทคนิควิธี สอนภาษาอังกฤษลูกอย่างไร ให้เก่งตั้งแต่เด็ก! คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 


ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : matichon tv

ทั้งนี้ผู้เป็นแม่ยังกล่าวต่อว่า ปกติตนเองและสามีจะทำงานในเวลากลางวัน จึงพาน้องภูเขาไปฝากไว้ให้พี่สาว (ป้า) ของตนเป็นผู้ดูแลเป็นแบบนี้ตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งเมื่อไปฝากพี่สาวก็จะเปิดการ์ตูนให้ดู น้องภูเขาก็ดูแต่ที่ดูสนใจมากก็จะเป็นการ์ตูนภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้เป็นป้าเห็นว่าหลานชอบภาษาอังกฤษ ก็สอนอ่านและท่อง A–Z ให้ฟังตั้งแต่อายุได้ 3 เดือน และสอนคำศัพท์โดยใช้สิ่งแวดล้อมที่อยู่ในบริเวณบ้าน และบัตรคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีรูปการ์ตูน และสัตว์ต่างๆ เมื่อน้องภูเขาเริ่มโตขึ้น ตนเองจึงได้ซื้อเครื่องแท็บเล็ตมาให้หลานได้เปิดอ่านคำศัพท์ในยูทูบ ซึ่งสังเกตได้ว่า น้องภูเขา ต่างจากเด็กทั่วไป ไม่เล่นเกม แต่จะพยายามเปิดอ่านคำศัพท์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และสนใจดูเป็นอย่างมาก จนตอนเข้าเรียน ที่น้องภูเขาสนใจและพูดจาสื่อสารเป็นประโยคกับครูต่างชาติและคนอื่นได้อย่างชัดเจน

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ครูต่างชาติอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ น้องภูเขาก็จะตอบและพูดเป็นภาษาอังกฤษกลับมา อย่างคล่องแคล่ว สำเนียงชัดเจน ซึ่งทั้งทางโรงเรียนและทางผู้ปกครองก็จะช่วยกันสนับสนุนและส่งเสริมให้น้องภูเขาในสิ่งที่ชอบต่อไป

ด้วยเหตุนี้เองต่างก็มีพ่อแม่หลายคน อยากให้ลูกเก่งภาษาโดยเฉพาะ ภาษาอังกฤษ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะ สอนภาษาอังกฤษลูกอย่างไร ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เก่งเลย ได้แค่งูๆ ปลาๆ ตามที่เรียนมาสมัยก่อน! ดังนั้นทางทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงมีวิธีสอนลูกน้อยให้พูดภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว ตั้งแต่เด็กๆ มาฝากค่ะ

♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

อายุแรกเกิด-7 ปี เวลาทองในการฝึกภาษาอังกฤษให้ลูกน้อย

ดร.แพทริเซีย คัห์ล (Dr.Patricia Kuhl) แห่ง มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เผยผลจากงานวิจัยว่า “มนุษย์เราสามารถเรียนรู้ภาษาต่างประเทศได้ดีที่สุดในช่วงอายุแรกเกิด-7ปี” เพราะถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้เวลาทองนี้ผ่านไป อาจต้องใช่ความพยายามเคี่ยวเข็ญมากขึ้น แต่ถ้าคุณเริ่มฝึกลูกตั้งแต่เวลาทองนี้ ลูกน้อยก็จะพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย

การเรียนภาษาที่ 2 ช่วยให้เด็กมีความคิดที่ว่องไว คุณพ่อ คุณแม่ สามารถฝึกลูกได้ ดังนี้

  1. ในครรภ์คุณแม่ ลูกน้อยสามารถได้ยินเสียงพูดของแม่ได้ตั้งแต่ 6 เดือน เรียนรู้ และจำจังหวะสำเนียงภาษาของคุณแม่ได้
  2. เมื่อคลอด ลูกน้อยจะสามารถแยกความแตกต่างของภาษา ถ้าคุณแม่พูด 2 ภาษา ลูกน้อยก็จะจำทั้ง 2 ภาษา
  3. เด็กสองภาษามีความสามารถเห็นความแตกต่างของภาพหรือตัวอักษรได้ดีกว่าเด็กภาษาเดียวหลังอายุ 8 เดือนไปแล้ว
  4. เมื่อลูกน้อยอายุประมาณ 9 เดือน – 1 ขวบ หูจะจับสำเนียงภาษาได้ดีเยี่ยม และจะลดลงเมื่ออายุ 6 ขวบ

 

ทั้งนี้หากคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากเหนื่อยใจแต่ก็อยากให้ลูกวัย 1-3 ขวบรู้จักพยัญชนะภาษาอังกฤษแบบจริงจัง  ไม่ใช่ท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทอง  (หรือต้องไล่ตั้งแต่ A ใหม่อีกหน)  ลองวิธีนี้กันดูค่ะ

ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : www.khaosod.co.th , www.thairath.co.th และ www.matichon.co.th

คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนภาษาอังกฤษลูกน้อยแบบง่ายๆ ก่อนเข้าเรียนได้ที่บ้าน โดยการฝึกตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งมีหลักง่ายๆ ดังนี้

การฝึกภาษาอังกฤษกับลูกวัยเรียน 

ข้อดีของการเรียนรู้ภาษาที่สองในวัย 3-5 ขวบก็คือ เด็กๆ ไม่กลัวความผิดพลาด ไม่กลัวพูดผิด แต่กล้าที่จะออกเสียงคำใหม่ๆ โดยไม่คิดมาก สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรรู้และเข้าใจมากๆ คือ การจะเรียนภาษาที่สองหรือวิชาใดๆ ให้ได้ผลดีสำหรับเด็กเล็กแล้วเขาต้องเรียนอย่างมีความสุข ไม่ควรต้องถูกบังคับเรียน ลองดูว่าคุณพ่อคุณแม่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการใช้ภาษาที่สองให้ลูกน้อยอย่างมีความสุขได้อย่างไรบ้าง

1. สนุกด้วยกัน

ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพราะลูกวัยนี้ จะสนุกและตื่นเต้นที่ได้ทำอะไรร่วมกับพ่อแม่ ฟังเพลง ร้องเพลง อ่านนิทานภาษาที่สอง โดยให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือก หากเป็นไปได้ควรเลือกเพลงที่เจ้าของภาษาร้องเอง เป็นเพลงที่เหมาะกับวัยของลูก เขาจะได้ฟังการออกเสียงที่ถูกต้องไปด้วย

2. มีช่วงเวลาของภาษาที่สองประจำบ้าน

เช่น สัปดาห์ละ 2 วันๆ ละ 30 นาทีและใน 30 นาทีก็ทำกิจกรรมที่ใช้ภาษาที่สองเท่านั้น เช่น ดูหนัง ทำอาหาร เรียนคำศัพท์ใหม่ๆ และค่อยๆ เพิ่มจำนวนวัน เป็นต้น

3. ผิดถูกไม่ว่ากัน

ถ้าลูกจะลองพูดบางคำ บางประโยค ก็รับฟัง ช่วยเหลือและชื่นชม ไม่จำเป็นต้องตามแก้ไปทั้งหมด เป็นการขัดจังหวะ หรือรู้สึกว่าพูดไปก็ผิดไปหมด พอรู้สึกไม่สนุกจะพาลไม่อยากพูดไม่อยากใช้ภาษาอีก เพียงแต่บอกลูกว่า ในประโยคที่พูดควรเป็นภาษาเดียวกันหมด ไม่ใช้สองภาษาปะปนกันในประโยคเดียว

4. ใช้ในชีวิตประจำวัน

เขียนคำเรียกข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆ ในบ้าน ด้วยภาษาที่สองบนกระดาษสีสวย แปะตามของใช้ต่างๆ จะช่วยให้ลูกเข้าใจตัวอักษรและคุ้นเคยกับภาษาที่สองง่ายขึ้น

จุดประสงค์สำคัญในการสอนภาษา คือ จ้องให้ลูกรู้สึกสนุกกับภาษาอังกฤษ  เมื่อลูกเห็นหนังสือ หรือได้ยินภาษาอังกฤษแล้วจะไม่กลัว ไม่กังวล  แต่รู้สึกคุ้นเคยแทน  ทีละนิดๆ และลูกน้อยก็จะเริ่มสะสมนิสัยการรักภาษา แล้วเมื่อเข้าเรียนภาษาจะเป็นสิ่งที่ง่ายสำหรับลูกไปอย่างสิ้นเชิง

อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!


บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสาร Amarin Baby & Kids

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.fmcpenglish.com