การ ทำตับผง สำหรับลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไป เพื่อให้คุณแม่สามารถนำมาให้ลูกทานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลามานั่งทำเป็นตับบดหลายๆ ครั้งให้ยุ่งยาก
เพราะลูกน้อยในวัย 6 เดือน จะสามารถเริ่มทานอาหารเสริมได้แล้ว (นอกจากนมแม่) ซึ่ง ตับ ก็ถือเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์มากมายที่ลูกควรได้รับ เราจึงมีสูตรวิธีการ ทำตับผง ที่จะให้คุณแม่ได้ดูและหัดทำ เพื่อเก็บไว้ให้ลูกทานกันค่ะ
ทำตับผง ง่าย อร่อย ลูกน้อยกินดีมีประโยชน์!
ตับ มีประโยชน์มากมาย และถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพชั้นดีอย่างหนึ่งก็ว่าได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มักจะให้ลูกน้อยทานตับบดเป็นอาหาร อีกทั้งตับยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ตับปิ้ง ตับหวาน หรือใส่ในผัดผักต่าง ๆ
สารอาหารที่มีประโยชน์ ในตับ
1. โปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อใช้ในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
2. วิตามินเอ ช่วยสร้างและบำรุงรักษาผิวหนังและผนังเยื่อจมูก ช่องในลำไส้ ทำให้เนื้อเยื่อในตาแข็งแรง
3. วิตามิน บี 2 ทำให้ผิวมีสุขภาพดี สายตาดี มองเห็นได้ชัดในที่ที่มีแสงสว่างน้อย
4. วิตามิน บี 3 ทำให้ผิวหนัง ประสาท และลำไส้มีสุขภาพดี ระบบย่อยเป็นปกติ ทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. วิตามิน บี 5 ทำให้ร่างกายนำคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนมาใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
6. วิตามิน บี 6 สร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ๆ ให้กับร่างกาย
7. วิตามิน บี 12 บำรุงประสาทให้แข็งแรง ทำให้สมองทำงานได้ดี ความจำดี และทำให้การสร้างเลือดเป็นปกติ
8. ที่สำคัญ ตับจะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบหมุนเวียนเลือด ช่วยเสริมสร้างฮีโมโกบิน (Hemoglobin) ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดงที่ไว้ใช้จับกับออกซิเจนเพื่อให้ออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย
ดังนั้นสำหรับในผู้ที่เสียเลือดมาก เช่น ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน ก็ควรทานตับเพื่อช่วยเสริมสร้างการสร้างเม็ดเลือดที่เสียไป
อ่านต่อ >> “การเลือกตับที่เหมาะกับลูกน้อย
และคลิปวิธีทำตับผง ให้ลูกน้อยกินง่ายได้ประโยชน์” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
การเลือกตับให้เหมาะกับลูก
การเลือกตับให้เหมาะสำหรับลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไปนั้น คุณแม่ส่วนใหญ่นิยมให้ตับไก่เพราะเนื้อนิ่ม กว่าตับหมูนั่นเอง และควรเลือกที่สีอ่อน ซึ่งหากไปตลาดซื้อตอนเช้าจะได้ตับที่สด และควรปรุงอาหารในวันเดียวกัน ไม่ควรเก็บตับที่ซื้อมาเกิน 24 ชั่วโมง เนื่องจากตับจะเสียง่าย ส่วนการเลือกซื้อตับหมูควรเลือกตับที่สดเนื้อขึ้นเงา สีอ่อนไม่แดงเข้ม เนื้อตับจะไม่กระด้างค่ะ
เคล็ดลับการปรุงตับไม่ขม ไม่คาว และไม่แข็ง
1. ล้างตับด้วยเกลือป่น ช่วยลดความคาวของตับ
2. หมักด้วยซีอิ๊วหรือนมสด แต่ก็สามารถใช้นมแม่ได้ก็จะดี โดยใช้ปริมาณเล็กน้อย และแช่ประมาณ 15-30 นาทีก่อนนำมา ปรุงอาหาร เพื่อช่วยลดความคาวของตับ
3. นำตับไปลวกด้วยน้ำร้อนจัด ช่วยลดความขมและกลิ่นคาว
ทั้งนี้หากนำตับสดไปทำอาหาร อย่างการผัด ควรผัดตับด้วยน้ำมันที่ร้อน ในช่วงเวลาสั้น ๆ จะทำให้ตับนิ่มอร่อยและไม่คาว
ชมคลิป วิธีการทำตับผง อาหารบำรุงเลือด ทำง่ายมีประโยชน์
| อาหารลูกน้อย วัย 6 เดือนขึ้นไป
ขอขอบคุณคลิปวีดีโอดีๆ จาก : Dear Mommy
โดยเคล็ดลับวิธีการทำตับผงของคุณแม่เดียร์ คือ
1. ใช้ตับไก่ และแช่นมสดไว้ 1 คืน
2. จากนั้น หั่นเป็นชิ้นๆ เพื่อนำไปต้ม
3. จะใส่หัวหอมใหญ่ ใส่ไปในน้ำที่ต้มเดือด เพื่อขณะที่ต้มตับจะช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มความหวานให้เนื้อตับได้อีกด้วย
4. แล้วต้มเพียง 15 นาที เพื่อไม่ให้ตับแข็ง ตั้งทิ้งไว้โดยไม่ต้องคน
5. จากนั้นก็นำไปบดให้ละเอียดกับกระชอนหรือเครื่องปั่น แล้วนำไปคั่วในกระทะ โดยไม่ต้องใส่น้ำมัน (แนะนำเป็นกระทะเชฟร่อนเพื่อจะได้ไม่ติดกระทะ)
6. ซึ่งระหว่างคั่วต้องคอยบี้ตับบ่อย ๆ ไม่เช่นนั้นตับจะไม่เป็นผง
7. เมื่อคั่วจนเป็นผงดีแล้ว ก็รอให้แห้งหายร้อน แล้วนำไปใส่กล่องพลาสติก หรือขวด แล้วปิดฝา แช่เย็นไว้ เพื่อนำไปใช้ประกอบอาหาร ซึ่งเก็บไว้ได้ได้ 1 อาทิตย์
อ่านต่อ “เมนูตับ อื่นๆ และโทษของการกินตับสำหรับเด็กที่แม่ควรรู้” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ซึ่งการทำตับผง ก็เพื่อให้ง่ายต่อการที่คุณแม่จะนำมาใช้ปรุงทำเมนูอาหารต่างๆ ให้ลูกน้อยทาน หรือจะใช้ใส่โรยหน้าเมนูข้าวผัดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มสารอาหารไปในตัว เหมาะสำหรับเด็กบางคนที่กินยาก และไม่ชอบกลิ่นคาวของตับ เป็นต้น
คลิกดูเมนูตับ ได้ข้างล่างนี้เลยค่ะ
การทำข้าวบดตับ
ถ้าจะบดตับให้กินอย่างเดียวจะได้อาหารที่มีแต่โปรตีน ได้ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ หากบดกับข้าวก็ได้กลุ่มแป้งด้วย อาหารเด็กนั้น เด็กอายุ 6 เดือนควรได้รับอาหารครบ 5 หมู่ คือ ข้าว เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ และไขมัน อาหารเด็กให้ข้าว 3 ส่วน เนื้อสัตว์ 1 ส่วน ผัก 1-2 ช้อนกินข้าว คุณแม่ควรเลือกให้ผักหมุนเวียนสลับกันไป เช่น ฟักทอง ผักตำลึง ผักโขม แครอทและผลไม้ เป็นกล้วยครูด 1-2 ผล หรือมะละกอสุก 1-2 ช้อนกินข้าว
โทษของตับ
แต่ถึงแม้ตับจะมีประโยชน์มากมาย แต่หากรับประทานมากไปก็ส่งผมเสียได้เช่นกัน อะไรที่มันเกินไปมักจะไม่ดีเสมอเนื่องจากตับเป็นส่วนที่กำจัดสารพิษ ซึ่งอาจจะมีสารพิษตกค้างได้บ้าง นอกจากนี้ ตับไก่ มีสารที่เรียกว่า อะมิโน-พาราเอ็ธฟีนอล (Amino-paraethenol) สารชนิดนี้มีฤทธิ์ต่อ หลอดเลือดแดงในสมองทำให้แข็งตัว ถ้ากินตับไก่มากเกินไป ก็อาจจะทำให้มีอาการของ โรคไมเกรน มีอาการปวดหัวข้างเดียวเป็นเวลานาน จนกระทั่งอาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือตาบอดข้างเดียวตามมาได้รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดในสมองโรคความดันโลหิตสูง และผู้ที่มีอาการปวดหัวข้างเดียวบ่อยๆ ควรหลีกเลี่ยงการกินตับไก่ และผู้ป่วยที่เป็น thalassemia ที่ได้รับเลือดเป็นประจำไม่ควรกินตับ เพราะทำให้เหล็ดเกินไปสะสมในอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ อาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- ทำอาหารเสริมแช่แข็งให้ลูก สำหรับคุณแม่ที่ไม่มีเวลา
- “มื้อแรกของลูก” อาหารเสริมตามวัย เริ่มอย่างไรจึงจะดี?
- อาหารตามช่วงวัย ตั้งแต่ทารกถึงเด็กเล็ก
- อาหารเสริมทารก เริ่มอย่างไร ให้ลูกกินเก่งแถมกินง่าย!
ขอบคุณข้อมูลดีๆ ๆจาก : www.termsuk.com