น้ำผึ้งสีเขียว อันตราย อย่าให้ลูกกิน - amarinbabyandkids
น้ำผึ้งสีเขียว อันตราย

น้ำผึ้งสีเขียว อันตราย อย่าให้ลูกกิน

Alternative Textaccount_circle
event
น้ำผึ้งสีเขียว อันตราย
น้ำผึ้งสีเขียว อันตราย

ลูกน้อยกินน้ำผึ้งได้ไหม?

เชื่อว่ายังมีพ่อแม่อีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ทราบว่าการให้ลูกทานน้ำผึ้งนั้นมีข้อควรระวังอยู่มาก ยิ่งโดยเฉพาะในเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ขวบ การให้ทานน้ำผึ้งถือว่าอันตรายมากค่ะ

ซึ่งทางการแพทย์ แนะนำไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบกินน้ำผึ้ง เนื่องจากกลัวเรื่องการปนเปื้อนสปอร์ของเชื้อโรคที่ทำให้เป็นโรคโบทูลิซึม (botulism) ทำให้เสียชีวิตได้

นอกจากนี้การเริ่มอาหารที่มีรสชาติหวานจากน้ำตาลชนิดต่างๆ ในเด็กเล็กจะทำให้มีปัญหาติดรสชาติหวาน ฟันผุ เบื่อข้าว เบื่อผัก หรืออาหารที่มีประโยชน์ ถ้ากินหวานมากจะเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวานได้[2]

 

บทความแนะนำ คลิก >> เด็กชายญี่ปุ่นวัย 6 เดือน เสียชีวิตด้วยโรคโบทูลิซึมในทารก เพราะน้ำผึ้งเป็นเหตุ!

 

ภาวะโบทูลิซึมจากอาหารคืออะไร

ภาวะโบทูลิซึมจากอาหารเป็นภาวะอาหารเป็นพิษชนิดหนึ่ง ภาวะนี้พบไม่บ่อยแต่อาจก่ออาการที่รุนแรงจนเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ภาวะโบทูลิซึมจากอาหารเกิดจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนด้วยสารพิษโบทูลิซึม (botulism toxin) โดยสารพิษโบทูลิซึมเกิดจากการมีเชื้อแบคทีเรีย Clostridium botulinum ปนเปื้อนในอาหารและสร้างสารพิษชนิดนี้ขึ้น สารพิษโบทูลิซึมเป็นสารพิษที่รุนแรงมาก การรับประทานสารพิษชนิดนี้ในขนาดน้อยมากเพียง 0.1 ไมโครกรัม (เท่ากับเศษหนึ่งส่วนสิบล้าน ของน้ำหนักหนึ่งกรัม) ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้[3]

ภาวะโบทูลิซึมจากอาหารมีอาการอย่างไร    

อาการของภาวะโบทูลิซึมจากอาหารอาจเกิดภายในเวลา 2 ถึง 36 ชั่วโมงหลังจากการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนสารพิษโบทูลิซึม โดยอาการเกิดจากการที่สารพิษออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของจุดเชื่อมระหว่างระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (neuromuscular junction) อาการเริ่มแรกได้แก่ การมองเห็นภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน (เห็นภาพวัตถุสิ่งเดียวเป็นสองภาพ) หนังตาตก ลืมตาไม่ขึ้น พูดไม่ชัด กลืนน้ำและอาหารลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดมวนท้อง ปากแห้ง ท้องเสียหรือท้องผูก ต่อจากนั้นอาการอาจกำเริบทำให้กล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรง หากอาการรุนแรงกล้ามเนื้อในระบบหายใจอาจอ่อนแรงด้วยจนทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถหายใจได้เพียงพอซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของภาวะโบทูลิซึมจากอาหาร[4]

อ่านต่อ การป้องกันโรคโบทูลิซึม หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up