AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

8 กลยุทธ์ แก้ทุกปัญหาที่ต้องเจอ เมื่อพาลูกเที่ยว

การ พาลูกไปเที่ยว นอกบ้านเพื่อเปิดหูเปิดตา สามารถช่วยให้ลูกมีพัฒนาการการเรียนรู้ได้หลายอย่าง แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องมั่นใจว่าสามารถดูแลลูกน้อยให้เรียนรู้โลกกว้าง โดยไม่ไปรบกวนคนรอบข้างได้ด้วย 

ซึ่งสำหรับลูกวัย 2 ขวบขึ้นไป เวลาคุณพ่อคุณแม่ พาลูกไปเที่ยว อาจต้องเจอเรื่องปวดหัวกับการที่ ลูกทำผิดกติกา ทะเลาะคนอื่น เล่นเพลินเกินเวลา อยากได้ของแพง  …ซึ่งปัญหาเหล่านี้ เรามี 8 วิธีที่จะช่วยแก้ไขในสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อพาลูกเที่ยว นอกบ้าน มาฝาก ดังนี้ค่ะ…

1. เมื่อ พาลูกไปเที่ยว แล้ว “ลูกตื่นเต้น เสียงดังเกินไป”

ถึงแม้จะเตรียมความพร้อมก่อนไปเที่ยวและตกลงกติกากันก่อนเล่นหรือเยี่ยมชมสถานที่  แต่บรรยากาศครึกครื้นสนุกสนานหรือความตื่นตาตื่นใจของสิ่งต่างๆ ก็อาจชวนให้ลูกน้อยเตลิดได้เหมือนกัน  ลูกน้อยอาจพูดเอะอะเสียงดังหรือวิ่งไปมาเป็นลูกลิง  นั่นเพราะลูกน้อยอยากแสดงออกให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่าเขาชอบและรู้สึกสนุกจริงๆ

ถ้าอาการของลูกไม่รบกวนคนอื่นและไม่ทำให้ใครเดือดร้อน  คุณพ่อคุณแม่สามารถปล่อยให้เขาค่อยๆ คลายความตื่นเต้นเองได้  แต่หากคึกมากจนแกล้งคนอื่นหรือเผลอพูดจาไม่สุภาพ  คุณพ่อคุณแม่อาจฉุดอารมณ์ของเขาด้วยการพูดตอบรับอารมณ์ความรู้สึกของเขา  “รู้แล้วจ้ะว่าหนูตื่นเต้น”  หรือ  “รู้จ้ะว่าหนูสนุกมาก หนูชอบมาก”  เมื่อคุณพ่อคุณแม่แสดงการตอบรับต่อปฏิกิริยาล้นๆ ของลูกน้อย  เขาจะสงบลงบ้างเพราะสิ่งที่เขาสื่อมีคนรับรู้และเข้าใจแล้ว  จากนั้นเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของลูกน้อย  ให้เขาสนใจสิ่งอื่นแทนการก่อกวนผู้อื่น

2. เมื่อ พาลูกไปเที่ยว แล้ว “ลูกทำผิดกติกา”

ไม่ว่าจะเป็นกติกาของสถานที่แห่งนั้น หรือกติกาที่ตกลงกับคุณพ่อคุณแม่ไว้เพื่อความปลอดภัย  หากลูกน้อยไม่ทำตามข้อตกลง  แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยออกจากสถานที่แห่งนั้นโดยไม่ต้องเสียดายสตางค์ค่ะ  การพาออกไม่ได้หมายความว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องดุหรือลงโทษเขานะคะ  ลูกน้อยไม่ได้ทำผิด  เพียงแต่เขายังไม่พร้อมสำหรับกฎเกณฑ์เหล่านั้น  อาจารย์เปรียบเทียบว่าเหมือนคุณพ่อคุณแม่ให้เขาว่ายน้ำ  โดยที่ตัวเขายังไม่พร้อม  ว่ายน้ำยังไม่เป็น  จะอย่างไรก็คงไม่มีทางไปถึงฝั่งอย่างที่คุณพ่อคุณแม่คาดหวัง

วิธีการแก้ไขง่ายๆ = เพียงแค่พาเขาออกมาจากสระน้ำ  แล้วค่อยๆ สอนและทบทวนข้อตกลงกันใหม่  ถ้าลูกน้อยบอกว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก  เขาพร้อมจะทำตามกฎต่างๆ แล้ว  คุณพ่อคุณแม่อาจให้โอกาสลูกน้อยได้เข้าไปเล่นอีกครั้งหรือเปลี่ยนเป็นให้โอกาสในครั้งหน้าก็ได้

แต่หากคุณพ่อคุณแม่ยังฝืนเที่ยวต่อไปและปล่อยให้ลูกน้อยทำผิดกติกา  ผลที่จะตามมามีอยู่ 3 กรณี  คือคุณพ่อคุณแม่อาจโมโหจนต้องทะเลาะกับลูก  ซึ่งจะผิดจุดประสงค์ของการมาเที่ยว  หรือคุณพ่อคุณแม่อาจทะเลาะกับเจ้าหน้าที่  ซึ่งจะกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีสำหรับลูกน้อยในอนาคต  และที่เลวร้ายที่สุดคืออาจเกิดอันตรายกับลูกน้อยจากความประมาทได้

3. เมื่อ พาลูกไปเที่ยว แล้ว “ลูกทะเลาะกับเด็กคนอื่น”

เมื่อปล่อยเจ้าตัวเล็กเล่นในพื้นที่ส่วนรวม  อาจจะมีเหตุวิวาทกับเด็กคนอื่นได้  อาจารย์ปนัดดาแนะนำวิธี “พาออกเดี๋ยวนั้น”  เป็นดีที่สุด  แต่ต้องสอนให้เขารู้จักทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วย


ถ้ามีการเรียกร้องค่าเสียหายเกิดขึ้น

ถ้าเรื่องไม่จบง่ายๆ โดยอีกฝ่ายต้องการเรียกร้องค่าเสียหายโดยที่ต่างก็ไม่รู้ว่าต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร  ก็เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่พิจารณาให้ดูสมเหตุสมผลค่ะ  หรือคุณอาจพูดให้เขาฉุกคิด  เช่น  “เข้าใจว่าคุณโกรธอยู่  แต่เรียกค่าเสียหายหมายความว่าฝ่ายเราผิด  หากเราผิดจริงจะชดใช้ให้  แต่หากเราไม่ผิดคุณจะทำอย่างไร”  ส่วนใหญ่หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรงสถานการณ์ก็จะคลายลง  แต่หากยังไม่คลายก็เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องหาวิธีไกล่เกลี่ยกันอย่างสมเหตุสมผลค่ะ

4. เมื่อ พาลูกไปเที่ยว แล้ว “ลูกหมดความอดทนรอคอย”

สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งใช้เวลานานกว่าที่คิด  ระหว่างนั้นลูกน้อยอาจหมดความสนใจและเริ่มแสดงพฤติกรรมต่างๆส่งเสียงก่อกวน  เล่นซน เพื่อบอกให้รู้ว่าเขาเบื่อ

 

5. ในที่เที่ยว เมื่อลูกจะเล่นทั้งหมดคนเดียวไม่แบ่งใคร
หรือไม่มีใครแบ่งให้ลูกเรา

การไม่รู้จักแบ่งปันเป็นอีกพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่าลูกน้อยยังไม่พร้อมสำหรับสถานที่นั้นค่ะ  วิธีการที่คุณพ่อคุณแม่จะควบคุมสถานการณ์ได้คือพาเขาออกมา  แล้วทำการทบทวนกฎกติกากันใหม่  หากลูกน้อยยังดึงดันจะเล่นคนเดียวก็หมายความว่าควรกลับบ้านไปตกลงกันอีกครั้ง  เช่นเดียวกับกรณีที่ลูกน้อยไม่ยอมเมื่อเพื่อนคนอื่นไม่แบ่งเขาบ้าง  นั่นหมายความว่าเด็กคนนั้นไม่พร้อมจะเล่นกับลูกของเรา  คุณพ่อคุณแม่อาจพูดเพื่อให้ทางเลือกกับลูกน้อยว่า  “หนูจะยืนทะเลาะกับเพื่อนอยู่ตรงนี้หรือไปเลือกเล่นอย่างอื่น”  เพื่อให้ลูกน้อยรู้ว่าการทะเลาะจะทำให้เขาเสียเวลาและหมดสนุก


เมื่อลูกถามว่า “ทำไมถึงไม่ให้หนูเล่น” ทั้งๆ ที่ลูกไม่ผิด 

บางทีเราก็ต้องยอมรับว่า  ในสถานที่ท่องเที่ยว มีผู้คนมากหน้าหลายตา  ลูกเราอยากเล่นตรงนั้นมาก แต่กลับมีเด็กขี้โวยวาย ดูไม่น่ารักในสายตาของคนทั่วไปจริงๆ   ถ้าลูกบอกว่า “ทำไมเขาถึงได้เล่น แต่หนูไม่ได้เล่น”  เราก็บอกลูกได้ว่า “หนูอย่าเพิ่งไปเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวก็ทะเลาะกันเปล่าๆ เขายังไม่พร้อม อย่าไปเสียเวลาเลยจ้า เราไปหาอะไรสนุกๆ อย่างอื่นดีกว่า”

6. เมื่อพาลูกไปเที่ยว แล้วลูกน้อยเล่นเพลินเกินเวลา

ในบางครั้งเราเห็นเด็กบ้านอื่นไม่มีพฤติกรรม “เอ้อระเหย” อยากรู้ไหมคะว่าเขามีเคล็ดลับอย่างไรกัน

 

เรื่องเวลานี้ส่งผลต่อวินัยของลูก  หากคุณไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กชักช้า  ก็อย่าปล่อยให้เขาผ่อนผลัดให้กับเขามากนัก  ลองใช้ 2 วิธีนี้ดู

7. เมื่อ พาลูกไปเที่ยว แล้ว “ลูกจะซื้อของที่ระลึก”

ตามสถานที่ท่องเที่ยวมักมีจุดขายของที่ระลึกซึ่งสามารถดึงดูดเด็กๆ ให้สนใจได้ไม่ยาก  เพื่อป้องกันการงอแงเพราะอยากได้ของเล่นเกินราคา  และป้องกันลูกยอกย้อนถามว่า  “ทำไมซื้อให้หนูไม่ได้  ทีคุณพ่อคุณแม่ยังซื้อของตัวเองเลย”  อาจารย์แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่แยกกระเป๋าสตางค์ให้ชัดเจนและให้งบประมาณเขาสามารถซื้อของที่อยากได้ในราคาที่เหมาะสม

 

 

นอกจากนี้เรากับลูกจะต้องตกลงกันก่อนว่าจะไม่ซื้อของที่เป็นอันตราย  ของที่ไม่มีประโยชน์  ไม่จำเป็นต้องซื้อฝากเพื่อนมากมายขนาดนั้น  เป็นโอกาสอันดีที่จะสอนเรื่องคุณค่าของเงิน

8. เมื่อลูกน้อยกลัวหรือไม่กล้าร่วมกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่เสียสตางค์ไปแล้ว

เป็นธรรมดาของเด็กที่จะตื่นเต้นดีใจเมื่อรู้ว่าจะได้ไปเที่ยว  แต่เมื่อไปพบเจอบรรยากาศจริงๆ อาจไม่ชอบอย่างที่คิด  หากเป็นกรณีนี้อาจารย์แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า  “ทำไมเราต้องบังคับฝืนใจให้ลูกน้อยทำ”  การพามาเที่ยวก็เพื่อสร้างความสุขและความทรงจำที่ดีให้ลูกน้อย  แต่หากคุณพ่อคุณแม่เสียดายสตางค์แล้วบังคับให้เขาร่วมกิจกรรมจนเกิดความกลัว  ทริปในฝันอาจกลายเป็นฝันร้ายฝังใจไปอีกนาน

ซึ่งแทนที่จะยัดเยียดความทรงจำที่ไม่ดีให้ลูกน้อย  ขอให้คุณพ่อคุณแม่คิดเสียว่าจ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์  ให้รู้ว่าลูกของเรากลัวสิ่งนี้  เพื่อหลีกเลี่ยงต่อไปในอนาคตหรืออาจค่อยๆ หาวิธีปรับเปลี่ยนทัศนคติ  แล้วให้เขามาทดลองเล่นใหม่ในวันที่พร้อมกว่านี้ก็จะเป็นการดีที่สุด

 

อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!