ภัยข่มขืน พอพูดคำนี้ขึ้นมาคนเป็นพ่อแม่ที่มีลูกสาว หรือแม้แต่ผู้หญิงสาวๆ วัยเรียน วัยทำงาน ก็ต้องระวังตัวกันให้มาก เพราะหลายต่อหลายครั้งที่มีข่าวสะเทือนใจว่าลูกบ้านนั้น เด็กบ้านนี้ หรือสาวๆ ถูกจับไปข่มขืน และต่อให้มีการเตือนภัยกัน มากแค่ไหน ภัยใกล้ตัวนี้ก็ไม่เคยหมดไป ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีรูปแบบใหม่การถูกข่มขืน มาเตือนให้ระวังกันค่ะ
ภัยข่มขืน ที่ต้องระวัง!!
อย่างที่รู้กันว่าสังคมบ้านเรายังมีบางเรื่องน่ากลัวอยู่ โดยเฉพาะ ภัยข่มขืน ที่เกิดขึ้นได้กับคนในครอบครัว คนใกล้ตัว เพื่อนบ้าน คนรู้จัก หรือคนแปลกหน้าที่มาตีสนิท ซึ่งรูปแบบการข่มขืนก็มีสารพัดวิธี เช่น ซื้อขนมมาล่อ, ทำทีมาช่วยเหลือ, ทำทีว่ารถเสียแล้วขอความช่วยเหลือ หรือญาติพี่น้องคนในครอบครัวบางครั้งก็กลายเป็นคนร้ายซะเอง ฯลฯ
บทความแนะนำ คลิก>> 3 เด็กน้อย ถูกหลอกขึ้นรถลักพาตัว-หวังข่มขืน
และรูปแบบการข่มขืนที่ถูกแฝงมาในแต่ละครั้งที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่กลับมีภัยซ่อนอยู่ และถ้าพ่อแม่ หรือผู้หญิงทุกคนไม่รู้เท่าทันก็อาจส่งผลให้เด็กๆ หรือตัวคุณเองต้องตกเป็นเหยื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อ่านต่อ รู้เท่าทันการถูกข่มขืนรูปแบบใหม่ หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
รู้เท่าทัน ภัยข่มขืน รูปแบบใหม่ใช้ความบริสุทธิ์ของเด็กเป็นเหยื่อล่อ
อย่างล่าสุดได้มีการแชร์เตือนภัยข่มขืนรูปแบบใหม่ที่ใช้ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเด็กๆ ล่อให้เหยื่อติดกับดัก ไปดูกันว่าภัยถูกข่มขืนที่ว่านี้คืออะไร!!??…
เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ชื่อว่า กระบอกเสียง ได้มีการบอกเล่าถึงขั้นตอนและวิธีที่โจรร้ายใช้ในการข่มขืนครั้งนี้กับผู้หญิงรายหนึ่ง
“ช่วยกันแชร์ด้วยนะ…..เรื่องเตือนภัย..ด่วน !!! การข่มขืนแบบใหม่!! ผม ไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเมื่อไหร่แต่อย่างน้อยมันอาจจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด ที่จะทำให้คุณได้ระมัดระวัง ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ ผู้หญิงคนที่ประสบกับ เหตุการณ์นี้ เธอเพิ่งออกจากโรงพยาบาล เรื่องมีอยู่ ว่า…. วันหนึ่งหลังเลิกงาน ผมได้ฟังเรื่องราวกลยุทธ ในการข่มขืนแบบใหม่จาก น้องสะใภ้ ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้วกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง
หลังเลิกงานผู้หญิงคนนี้กำลังจะกลับบ้าน ระหว่างทางเธอเห็นเด็กตัวน้อยๆ กำลังยืนร้องไห้ อยู่ข้างถนน ด้วยความรู้สึก สงสารเด็ก เธอเดินเข้าไปหาและถามว่า’ เกิดอะไรขึ้นจ๊ะ’ เด็กน้อยตอบ ว่า’ ผมหลงทาง พี่ช่วยพาผมไปส่งที่บ้านหน่อยได้ไหมครับ แล้วเด็กน้อยก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆ แล้ว บอกว่าให้พาไปส่งตามที่อยู่ในนั้น และด้วยความใจดีของเธอ เธอมิได้ สงสัยอะไรเลยแม้แต่น้อย เธอก็พาเด็กไปส่งตามที่อยู่นั้น พอถึงที่บ้านของเด็กน้อยตามที่อยู่ในนั้น เธอก็กดกริ่ง ทันใดนั้นเอง กริ่งที่ว่าถูกต่อสายไฟฟ้าแรงสูงเอา ไว้แน่นอนมันช็อตเธอจนหมดสติ!!
วันต่อมาเมื่อตื่นขึ้นมาเธอพบว่า เธออยู่ในบ้านร้างพร้อมกับร่างอันเปลือยเปล่า เธอไม่ได้เห็นแม้กระทั่งใบหน้าของผู้ร้าย นั่นคงเป็นคำถามว่าทำไมทุกวันนี้ อาชญากรรมถึงพุ่งไปหาคนที่ใจดี ในครั้งต่อไปถ้ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม ขอให้จำไว้ว่า อย่าพาเด็กไปในที่ที่เขาต้องการ ยังไงให้พาไปที่สถานีตำรวจ จะดีกว่าจำไว้เมื่อพบเด็กหลงทาง”[1]
บทความแนะนำ คลิก>> รวบ! 2 พ่อเฒ่าวินมอไซต์รับจ้างหื่น ข่มขืน เด็กนาน 2 ปี!
ความใจดีมีน้ำใจเป็นเรื่องที่ดีค่ะ ซึ่งควรมีในสังคมไทยอย่างมาก แต่บางครั้งการมีน้ำใจต้องมาพร้อมสติด้วย การเอะใจ ชั่งใจปฏิภาณไหวพริบต้องมีติดตัวอยู่เสมอ แนะนำว่าถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่ต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ อย่างแรกที่ต้องทำคือขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง แล้วพยายามพาเด็กออกมาจากที่ลับตา อยู่ในที่มีผู้คนพลุกพล่าน แล้วให้รีบพาเด็กไปส่งสถานีตำรวจ เพื่อให้ตำรวจช่วยเหลือออกตามหาผู้ปกครองเด็กดีที่สุดค่ะ
อ่านต่อ 19 ข้อปฏิบัติป้องกันตัวไม่ให้ถูกข่มขืน หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
19 ข้อปฏิบัติป้องกันตัวไม่ให้ถูกข่มขืน[2]
ครอบครัวที่มีลูกสาว หรือแม้แต่ลูกชายก็ใช่ว่าจะปลอดภัยจากภัยข่มขืน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ สอนให้ลูกๆ มีปฏิภาณไหวพริบกับคนแปลกหน้า ไม่ว่าเขาจะเอาขนมมาหลอกล่ออย่างไรก็ต้องห้ามรับ ห้ามไปกับคนแปลกหน้า และควรให้ลูกได้เห็นบางสถานการณ์ที่เด็กถูกทำร้าย(ดูได้จากสื่อออนไลน์ หรือภาพข่าวต่างๆ) ส่วนถ้าเป็นผู้หญิงวัยเรียน วัยทำงาน ก็ต้องรู้เท่าทันความอันตรายจากการหลอกล่อไปข่มขืน และนี่คือข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกข่มขืน…
- ตั้งสติให้ดี สูดลมหายใจให้ลึกๆ เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองให้ตื่นตัว
- ถ้ายังไม่ถูกจู่โจม หรือประชิดตัว ให้หาทางหลบนี้ให้เร็วที่สุด
- ประเมินสถานที่ ถ้าเป็นที่โล่ง เช่น ทุ่งนา ป่ากล้วย หรือห้องแคบๆ โอกาสในการรอดจะน้อยมาก
- ถ้าเป็นเวลากลางคืน ให้วิ่งไปในทางที่มีแสงสว่าง ถ้าอยู่ในระยะไกลคน ไม่ควรร้องตะโกนให้ใครช่วย เพราะจะเสียแรงเปล่า และคนร้ายจะสามารถตามเราได้จากเสียงตะโกน
- ถ้าประเมินแล้ววิ่งหนีไม่ทัน ให้มองหาที่หลบซ่อนที่คนร้ายไม่สามารถดึงตัวเราออกมาได้ เช่น ใต้ท้องรถยนต์ กอไผ่ และมองหาสิ่งที่พอจะทำเป็นอาวุธได้ เช่น ท่อนไม้ยาวๆ หรือปากกา ก้อนหิน แล้วเก็บซ่อนเอาไว้กับตัว
- ถ้าเป็นห้องแคบๆ ให้ร้องตะโกนเรียกให้คนช่วย เช่น ไฟไหม้
- ถ้าหนีไม่ทัน และถูกคนร้ายจับตัวได้ โอกาสรอดจะเหลือเพียง 1% อย่ายอมให้คนร้ายทำให้เราหมดสติ เพราะถ้าหมดสติโอกาสรอดจะเป็น 0% และอาจถูกฆ่าตายได้
- ถ้าถูกล็อกคอจนหายใจไม่ออก เพราะคนร้ายจะพยายามทำให้เราหยุดดิ้น หยุดร้อง เขาอาจบีบคอจนตาย หรือทำร้ายจนหมดสติ ให้หยุดดิ้น แล้วบอกว่า “ยอมแล้วๆ อย่าฆ่าฉัน ลูกฉันยังเล็ก มีแม่ที่ต้องเลี้ยงดู” เผื่อคนร้ายจะปล่อยมือ
- ถ้าคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง เช่น มีด ปืน ไม่ควรต่อสู้ แล้วบอกว่ายอมแล้ว เพื่อหน่วงเวลาเอาไว้
- ถ้าคนร้ายปล่อยมือ ให้สูดหายใจเอาแรงกลับมา แล้วพยายามเจรจาต่อรอง เช่น ทำท่าทีเป็นยอม บอกให้คนร้ายใจเย็นๆ
- ต่อรองกับคนร้ายว่าอย่าข่มขืน ถ้ามีทรัพย์สิน เช่น สร้อย แหวน ให้ปลดออกมาแล้วบอกว่า “ให้ไปเลย ปล่อยฉันไป จะไม่ไปแจ้งตำรวจ” เผื่อคนร้ายจะเปลี่ยนใจ
- ถ้าต่อรองไม่สำเร็จให้ทำทีเป็นยอม แล้วบอกว่า สถานที่ไม่อำนวย ไปหาสถานที่อื่นที่ดีกว่านี้ เพื่อหน่วงเวลา
- ระหว่างเจรา ควรบอกว่าเราเป็นกามโรค มีประจำเดือน หรือเป็นเอดส์ แล้วบอกว่าจะให้ทรัพย์สินแทน โดยการให้บัตร ATM และรหัสลวงไปแทน เผื่อคนร้ายจะไม่ข่มขืน
- ถ้าคนร้ายพยายามข่มขืนอีก ให้ทำทียอมจูบปาก แล้วรอจังหวะกัดลิ้นให้เร็ว และแรงที่สุด แล้วรีบดิ้นหลุดออกมา ไม่เช่นนั้นอาจถูกทำร้ายถึงชีวิต
- ถ้าคนร้ายให้ช่วยสำเร็จความใคร่ ก็ฉวยโอกาสขณะคนร้ายถอดกางเกง แล้วเตะผ่าหมากคนร้ายให้เร็ว และแรง แล้วรีบวิ่งหนี
- ถ้าถูกคนร้ายกดทับตัว ถ้าอยู่ในบริเวณป่า หรือพื้นดิน ให้เอากิ่งไม้ หรือปากกาที่ซ่อนไว้ ทิ่มตาคนร้าย แล้วรีบวิ่งหนี ถ้าเป็นพื้นทรายให้กำทรายแล้วขว้างใส่ตาคนร้ายที่อยู่ในระยะประชิด แล้วรีบวิ่งหนี
- ถ้าทำทุกอย่างแล้ว ยังถูกข่มขืน ก็ขอให้รักษาชีวิตเอาไว้ เพื่อไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ มาลงโทษ
- ถ้าสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้าน หรือห้องพักของเราเอง ควรซ่อนอาวุธเอาไว้ในจุดที่ใกล้มือที่สุด และใช้การเจรจาต่อรอง เพื่อหน่วงเวลาเพื่อให้คนร้ายตายใจ เช่น บอกว่าใส่ถุงยางก่อน เดี๋ยวไปหยิบให้ ถ้ามีโอกาสให้รีบวิ่งเข้าห้อง ล็อกประตู ขังตัวเองเอาไว้ แล้วตะโกนว่าไฟไหม้
- อย่ารอให้เกิดเหตุแล้วป้องกัน ถ้ามีเวลาควรไปเรียนวิชาการต่อสู้ป้องกันตัว เพื่อเอาตัวรอดในยามคับขัน
ภัยถูกข่มขืนไม่เคยหมดไปจากสังคมไทย และผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้บ่อยและง่ายที่สุดก็คือ เด็ก และผู้หญิง ดังนั้นการดูแลรักษา ให้ตัวเองสามารถเอาตัวรอดปลอดภัยจากบางสถานการณ์แวดล้อมที่ผิดแปลกไป เป็นเรื่องที่ทุกคนควรรู้และจำเป็นต้องมีบางทักษะข้างต้นไว้ใช้ในการป้องกันตัวเองจากการถูกข่มขืน …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจ
เด็ก 7 ขวบ ถูกข่มขืน ต้องกินยาต้านไวรัส พร้อมเล่าเหตุการณ์ผ่านภาพวาดที่สุดสะเทือนใจ
ข่มขืน ภัยมืดของสังคม กับความเสี่ยงทั้งแม่ลูก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
1sara1000update.com
2พ.ต.ท.โชติวิเชียร วิเชียรโชติ. 19 ข้อ!! ป้องกันภัย ไม่พลาดท่าโดน ‘ข่มขืน’. www.thairath.co.th