หากคุณกำลังมองหา คู่มือเลี้ยงลูก ตามมาดูประสบการณ์ของคุณแม่ท่านนี้ที่ได้แชร์ แผนการเลี้ยงลูก ตั้งแต่แรกเกิด – อายุ 90 ปี จะเป็นอย่างไร มาดูกันค่ะ
แม่แชร์แผน คู่มือเลี้ยงลูก ฉบับสมบูรณ์
ตั้งแต่แรกเกิด – อายุ 90
แม้ว่าการเลี้ยงลูก จะไม่มีข้อบังคับ ไม่มีถูกผิด คุณพ่อคุณแม่สามารถเลี้ยงลูกรักได้ตามสัญชาตญาณได้เต็มที่ แต่ก็มีพ่อแม่มือใหม่หลายคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ดังนั้นเพื่อเป็นแนวทางการเลี้ยงลูกให้กับคุณพ่อคุณแม่ ทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงขอนำเอา คู่มือเลี้ยงลูก จากคุณแม่ปริม ซึ่งได้โพสต์ ผ่าน Facebook ชื่อ ครูแม่ปริม เพื่อนเต็มกดติดตามนะคะ มาแนะนำ เพื่อเป็นอีกหนึ่งแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ได้พิจารณาหรือเอาไปประยุกต์ใช้กับการเลี้ยงลูกในแบบฉบับของตัวเอง โดยแม่ปริมได้เน้นย้ำว่า คู่มือเลี้ยงลูก นี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวที่อยากจะนำมาแบ่งปันเพื่อเป็นวิทยาทานให้กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นเท่านั้น โดยคุณแม่โพสต์ว่า…
ต่อไปนี้คือ แผนการเลี้ยงลูก (ฉบับของแม่ปริม) ที่เขียนขึ้นโดยความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ตั้งแต่แรกเกิด จนถึง อายุ 90 ปี
แรกเกิดถึง 3 ขวบ =>
จง “เลี้ยงลูกเองเป็นหลัก”
แต่อย่าเลี้ยงคนเดียวแบบไม่มีผู้ช่วย
เพราะวันนึงคุณจะระเบิดอารมณ์ความเหนื่อยใส่ลูก แถมยังทำบ่อยขึ้นเรื่อยๆแบบหยุดตัวเองไม่ได้
ใช้เวลากับลูกมากๆ
สัมผัสตัวลูกให้มากที่สุด
#สอนทุกอย่างที่เรารู้และเป็นเรื่องจริงโดยไม่ต้องแคร์ว่าจะยากหรือง่าย
และจงตรวจสอบความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ก่อนทำตามทุกครั้ง (คำว่า“โบราณเค้าว่า”…น่ากลัวมากนะ)
*เตรียมเงิน : ค่าแพมเพิสเดือนละ1000 ค่าของเล่นเสริมพัฒนาการ/ค่าของเครื่องใช้/อาหารเด็ก เดือนละ 2,000 (จงกินนมแม่ ไม่งั้นก็คูณ 2 คูณ 3 เข้าไปเลย)
3 ขวบ+ …. เข้าโรงเรียน
อนุบาล 1 – 3 => เลือกโรงเรียนเล็กๆที่มีแค่ อ.1-อ.3 (จะชำนาญเฉพาะทางเด็กเล็กกว่ามากๆ)
#เน้นเล่นสนุก เล่นเอามัน
อย่าเน้นอ่านเขียน(ลูกเป็นเด็กได้แค่ครั้งเดียว)
มีกิจกรรมหลายหลายให้ทำ
#ไม่มีการบ้าน
ได้ฟัง-ใช้ภาษาอังกฤษผ่านหูไปเรื่อยทุกวันๆ
และต้องอยู่ใกล้บ้าน
*เตรียมเงิน : ค่าเทอม + ค่าเรียนกิจกรรมเสริม(ที่ลูกเลือกเองว่าชอบ) เช่น เปียโน ร้องเพลง ว่ายน้ำ วาดรูป ฯลฯ +ค่ารักษาหวัดๆๆๆๆๆและหวัดมันทุกเดือน
(ปล. 4 ขวบครึ่งเป็นต้นไปลูกไม่ค่อยนอนกลางวันแล้ว นั่นหมายถึงช่วงเวลาของการ #พาลูกเที่ยวให้มากที่สุด เท่าที่เวลาและเงินจะอำนวย)
อ่านต่อ “แผนการเลี้ยงลูกของแม่ปริม ตั้งแต่แรกเกิด – อายุ 90” คลิกหน้า 2
ประถม 1 – 6 =>
โรงเรียนไม่ใหญ่(มีพี่โตสุดแค่ ป.6 เพื่อป้องกันการถูกกลั่นแกล้ง การโดนจีบ (เล่นๆ) ในวัยที่ยังไม่รู้จักความรักดีพอ และป้องกันการเลียนแบบพฤติกรรมแบบเด็กโตทำ เช่น เห็นเด็กมัธยมเดินกันเป็นคู่ๆจนชินตา
#เป็นโรงเรียนเน้นภาษาอังกฤษแบบจริงจัง
ควรเสริมภาษาจีนให้ลูกตั้งแต่ ป.1 (ก่อน 7 ขวบ) ยิงยาวควบกันไปทั้ง2 ภาษา
แต่โรงเรียนต้องเรียนไม่เครียด
ไม่เรียนพิเศษอย่างบ้าคลั่ง
#ไม่มีการบ้านเยอะ แต่มีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย(ค้นหาตัวตน)
เน้นพื้นฐานทางอารมณ์เด็กให้อารมดีไว้เป็นสำคัญ
และต้องใกล้บ้าน
*เตรียมเงิน : ค่าเทอม+ค่าเรียนเสริมสิ่งที่ลูกชอบและเลือกเอง เช่น ว่ายน้ำ ยิมนาสติก เปียโน ร้องเพลง เต้นรำ
(ปล. ระยะนี้ยังควรพาลูกเที่ยวต่อเนื่อง บ่อยเท่าที่เป็นไปได้ เชื่อดิ..ขึ้นมัธยมปุ๊บไม่อยากเที่ยวกับพ่อแม่ปั๊บ)
ม.1 – ม.3 =>
การเลือกโรงเรียนระยะนี้สำคัญที่สุด ต้องเลือกโรงเรียนที่ #มีสังคมรักกันแน่นแฟ้นในหมู่เพื่อนพี่น้องสถาบันเดียวกัน (เพื่อนกลุ่มนี้มี%สูงที่จะเป็นเพื่อนที่จะคบกันไปตลอดชีวิตลูก)
แต่จะต้องเป็นสถาบันที่พ่อแม่ต้องมีกำลังระดับนึงถึงจะส่งได้
หรือคิดง่ายๆว่า เป็นกลุ่มที่จะไม่ยืมตังลูกเรา แถมลูกเราสามารถยืมตังเพื่อนได้ (แต่จะยืมหรือไม่ก็อีกเรื่อง)
ที่สำคัญ #อย่าทิ้งภาษา โรงเรียนต้องเป็นหลักสูตรที่เน้นภาษาอังกฤษ (อาจเน้นวิชาการอื่นๆร่วมด้วยไม่ใช่เน้นแต่ภาษาจ๋าๆเหมือนตอนประถมแล้ว) และยังคงเสริมจีนต่อเนื่อง
ม.4 – ม.6 =>
มี 2 ทางเลือก…
ต่อโรงเรียนเดิม (ถ้ามันดีอยู่แล้วทั้งเพื่อนทั้งหลักสูตร)
หรือถ้ามีตังก็
ต่อต่างประเทศที่ใกล้ๆไทยง่ายต่อการไปๆมาๆของแม่ เช่น นิวซีแลนด์ ออส สิงคโปร์ จีน เป็นต้น
ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกสายวิทยาศาสตร์เผื่อเปลี่ยนใจกลางคัน
ปล.ในช่วงมัธยมนี้กิจกรรมเสริมเช่น เปียโน ที่เคยเรียนมาต่อเนื่องแต่เด็กก็อย่าทิ้ง ให้เล่น/เรียนปะปรายเป็นงานอดิเรก
#ย้ำอย่าทิ้ง เพราะมันคือสิ่งที่จะจรรโลงใจลูกไปตลอดชีวิตไม่ว่าจะเจอกับเหตุการณ์อะไรมา
*ค่าใช้จ่าย => ยกตัวอย่างค่าเทอมในไทยเฉลี่ยปีละ 150,000 (นานาชาติราคาถูก) – 300,000 (เช่นสาธิตเกษตรอินเตอร์) หรือ ค่าเทอมต่างประเทศเฉลี่ยปีละ 8 แสน++
มหาวิทยาลัย =>
เอาหล่ะ…ตอนนี้ลูกบรรลุนิติภาวะแล้ว ต่อไปนี้ชีวิตของลูกเป็นของลูก
อ่านต่อ “แผนการเลี้ยงลูกของแม่ปริม ตั้งแต่แรกเกิด – อายุ 90” คลิกหน้า 3
คู่มือเลี้ยงลูก ฉบับแม่ปริม ตั้งแต่แรกเกิด – อายุ 90 เมื่อลูกต้องเข้ามหาวิทยาลัย
จงเลือกทางเดินของตัวเอง
แต่จำไว้ว่าการเลือกคณะเท่ากับเลือกอาชีพ
ถ้าเลือกเรียนคณะ (อาชีพ) ที่คนไม่ได้เรียนจะมาทำไม่ได้ เช่น แพทย์ พยาบาล เภสัช สถาปัตยกรรม เทคนิคต่างๆ ทนาย วิศวโยธา ตรวจสอบบัญชี ฯลฯ ลูกจะตัดคู่แข่งไปได้ค่อนประเทศ
และจงเลือกคณะที่… มองอนาคตเห็นภาพตัวเองอายุ40 ผัวทิ้ง มีลูก2คน กำลังทำงานนั้นๆอยู่
ถ้าโอเคกับภาพที่เห็นนั้นก็เลือกเลย
แม่เคารพการตัดสินใจของลูกทุกอย่าง
แต่ลูกจงอย่าลืมว่า… ไม่ต้องสนเรื่องเงินทองค่าตอบแทนจากอาชีพที่เราจะเลือกเรียน จงเลือกสิ่งที่ตัวเองสนใจอยากรู้ อยากศึกษามันเพราะชอบจริงๆเท่านั้น เมื่อทำด้วยความรักชอบอย่างแท้จริง ขุมสมบัติมหาศาลจะตามมาเอง ไม่ว่าจะเป็นอาชีพใดบนโลกก็ตาม
ถ้าลูกอยากเป็นหมอ-พยาบาลไม่เปลี่ยนแปลง (ตอนนี้4ขวบลูกพูดทุกวัน)
เรียนจบแม่จะใช้ทุนให้ดีมั๊ย
แล้วไปเป็นหมอ-พยาบาลรพ.ชั้นนำ
แล้วลูกจะต้องมากราบขอบคุณแม่ ที่แม่ไม่ให้ทิ้งภาษาอังกฤษและจีน
ให้ลูกคิดแค่ว่ารักษาเพื่อนร่วมโลกเหมือนๆกัน จะชาวเขาหรือฝรั่ง จะไทยจะแขก มันก็ช่วย1ชีวิตเหมือนกัน
หรือถ้ารู้สึกผิดมาก
ทุกวันเสาร์หรืออาทิตย์ให้ลูกเปิดคลีนิคเพื่อรักษาคนจนฟรีๆทุกสัปดาห์แทน
จะได้ไม่ต้องเสี่ยงโรค เสี่ยงโดนฟ้อง เสี่ยงขับรถหลับใน ทำงาน48ชมเป็นนิจ
และต้องเข้าเกณฑ์อายุไขเฉลี่ยหมอที่59-60ปี
เพราะการรักษาคน ไม่ใช่การหั่นชีวิตตัวเองให้สั้นลงเพื่อทำให้ชีวิตคนอื่นยาวขึ้น
ทำเพื่อคนอื่นเป็นสิ่งที่ดีแต่ทำเท่าที่เราไหวลูก ไม่ต้องแบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า
ถ้าลูกอยากเป็นนักธุรกิจ เพื่อนสมัยมัธยมจากโรงเรียนที่แม่เลือกให้จะเป็นหุ้นส่วนที่ดีให้ได้ และเผลอๆจะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ยอดเยี่ยมของลูกอีกด้วย
ถ้าลูกอยากเป็นพนักงานออฟฟิศ
จำไว้ว่า “เป็นหางเสือดีกว่าเป็นหัวหมา”
คือ เลือกบริษัทชั้นนำไว้ก่อน อย่ากลัวที่จะต้องโง่สุดด้อยสุดในนั้น เพราะอย่างน้อยลูกจะได้พัฒนาตัวเองและมีอะไรให้เรียนรู้อีกมากจากคนเก่งๆเหล่านั้น
————————————————
คู่มือเลี้ยงลูก #คำสอนลูก
จงจำไปจนตลอดชีวิตของลูก
1. “ใจดีกับทุกคน” (ไม่ต้องสนใจว่าเค้าเป็นใครหรือเค้าใจดีกับเรามั๊ย) ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อความสุขของลูกเอง
2. อย่าทิ้งเพื่อนดีและลูกพี่ลูกน้องเด็ดขาด โดยเฉพาะเมื่อลูกเป็นลูกคนเดียว ต้องหมั่นติดต่อกันไว้สม่ำเสมอ
3. สุขภาพร่างกายของเราคือสิ่งมีค่ามากที่สุด จงถนอม รักษา ดูแล ทาครีมและออกกำลังกายเสมอ
4. ซื้อรถยุโรป ไม่ต้องสนราคาตกตอนขายต่อ.. ชีวิตลูกสำคัญกว่าเงินมาก
5. จงแต่งงานกับคนที่รักเด็กแล้วชีวิตลูกจะง่ายขึ้นเยอะ
———————————————————
#ข้อห้ามของลูกที่แม่ขอห้ามไปตลอดชีวิต
1. ห้ามทำร้ายตัวเองทุกกรณี
2. ห้ามทำร้ายผู้อื่น
3. ห้ามทำลายของ
4. ไม่เสี่ยงชีวิต เช่น ไม่แว๊น-ซ้อนมอเตอร์ไซค์ถ้าไม่จำเป็น(ระลึกๆๆๆๆไว้เสมอว่ากว่าแม่จะเลี้ยงโตมาได้ขนาดนี้แม่แลกกับอะไรมาบ้าง)
และทั้งหมดนี้คือคำขยายความของคำว่า “รักลูก”อย่างเป็นรูปธรรมในแบบของปริมค่ะ
โพสต์นี้ปริมแชร์ไว้ในเฟสเพื่อให้แจ้งเตือนความจำตัวเองไปทุกปีๆ ให้เลี้ยงลูกอย่างมีเข็มทิศไม่หลงทางไปจากแผนที่วางไว้เท่านั้น ใครไม่เห็นด้วยเก็บไว้ในใจงดดราม่าใส่นะจ๊ะ 🙏
อ้อ….ขอเพิ่มเติมอีกนิดนึง
แม่ไม่เคยตีลูก แต่ถ้าวันนึงลูกมีเงินเก็บ3แสนแต่เอาไปซื้อบิ๊กไบค์ แม่จะตบกะบานลูก ต่อให้แม่ตายไปแล้วแม่ก็จะหาทางกลับมาตบกะบานลูกให้ได้…
อย่างไรก็ดี จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า คู่มือเลี้ยงลูก ที่แม่ปริมได้แชร์มานี้ เป็นแนวทางความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าบางช่วงบางตอนก็เป็นเรื่องจริงที่พ่อแม่ทุกคนต้องเจอและพยายามคิดหาแนวทางว่าจะเลี้ยงลูกไปทิศทางไหนดี ซึ่งหากใครได้อ่าน คู่มือเลี้ยงลูก จนจบก็สามารถดูเป็นแบบอย่างและนำไปปรับใช้ให้เข้ากับครอบครัวของตนเองได้นะคะ Amarin Baby & Kids ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกคน เพราะการเลี้ยงลูกไม่มีถูกผิด ขอเพียงอย่าลืมมอบความรักให้ลูกไปด้วยในทุกช่วงทุกตอนของการเลี้ยงดู แล้วลูกของคุณก็จะโตมามีอนาคตที่ดีได้ค่ะ
อ่านต่อบทความดีๆ น่าสนใจ คลิก :
- ค่าใช้จ่ายสำหรับลูก ตั้งแต่ แรกเกิด – ป.ตรี ต้องใช้เงินเท่าไหร่? รู้หรือยัง?
- จิตแพทย์แนะ เลี้ยงลูกให้สตรอง!! ต้องใช้ “หน้าต่างแห่งโอกาส 9 บาน”
- ระวัง! เลี้ยงลูกผิด ๆ 4 แบบ พาลูกล้มเหลวในอนาคต
- 4 ความต่างของ พ่อแม่เลี้ยงลูก อยากให้ลูกเป็นแบบไหน
- ลูกเก่งไม่สำคัญ เท่ากับ เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี!
ขอบคุณภาพและเรื่องราวดีๆ จาก ครูแม่ปริม
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่