AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

5 วิธี! ป้องกันงูเข้าบ้าน รู้ไว้เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย

อุทาหรณ์..แม่สุดเศร้า “ลูกวัย 1 ขวบ ถูกงูกัด” เสียชีวิตในห้องนอน พบ 5 วิธี! ป้องกันงูเข้าบ้าน รู้ไว้เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย

หากไม่อยากให้เกิดเหตุน่าสลด งูเลื้อยเข้าบ้าน กัดลูกน้อย หรือคนในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ควรรู้วิธี ป้องกันงูเข้าบ้าน เตรียมรับมือไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้าน

สุดสลด! แม่ปลุกลูกไม่ตื่น ด.ช. วัย 1 ขวบ ถูกงูกัด เสียชีวิต

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้ฝนเริ่มตก อีกหนึงสิ่งที่ต้องระวังนอกจากโรคภัยไข้เจ็บ คือ อันตรายจากสัตว์เลื้อยคลานมีพิษ ซึ่งในช่วงหน้าฝนก็มักมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอชุกชุมเป็นพิเศษ คุณพ่อคุณแม่จึงควรต้องระวังตัวเองและลูกน้อย จากสัตว์มีพิษชนิดต่างๆ ให้ดี โดยเฉพาะงู ที่อาจเลื้อยเข้ามาในบ้าน เพราะถ้าถูกกัดแล้วรักษาไม่ทัน ลูกน้อยก็อาจเสียชีวิตได้

เช่นเดียวกับข่าวนี้ที่เกิดเหตุหนูน้อยวัย 1 ขวบ เสียชีวิตเพราะถูกงูกัด ซึ่งเหตุเกิดที่บ้านซึ่งมีลักษณะเป็นปูนชั้นเดียว รอบบ้านมีหญ้ารก โดยหนูน้อยได้เสียชีวิตอยู่บนที่นอนที่ปูกับพื้น พบที่ข้อเท้าซ้ายด้านในมีรอยเขียวช้ำ และมีร่องรอยคล้ายถูกสัตว์มีพิษกัด 4 รู

บ้านของหนูที่เสียชีวิตจากการถูกงูกัด ขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพจาก : www.matichon.co.th

 

ขอบคุณภาพจาก : www.onbnews.today

ซึ่งแม่ของหนูน้อยผู้เสียชีวิตเล่าว่า… ช่วงกลางดึกเมื่อวานลูกชายมีไข้ขึ้นสูง และเมื่อตอนสายของอีกวัน จึงได้พาไปพบแพทย์ที่คลินิคแห่งหนึ่ง และกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน จนกระทั้งช่วงเช้าของวันใหม่ก็ได้เข้าไปเรียกเพื่อให้ตื่นนอน แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากลูกน้อย จึงเข้าไปปลุกก็พบว่าลูกได้เสียชีวิตแล้ว

“ลูกวัย 1 ขวบ ถูกงูกัด” เสียชีวิตในห้องนอน ขอบคุณภาพจาก : www.onbnews.today

ทั้งนี้สำหรับรอยแผลที่พบว่ามีลักษณะคล้ายกับสัตว์มีพิษกัดนั้น ผู้เป็นแม่ยังได้บอกอีกว่า… ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 วัน ลูกอาจถูกสัตว์มีพิษกัด และเกิดอาการบวมที่เท้า ตนจึงรักษาด้วยการเอาสมุนไพรพอกจนแห้ง และเมื่อมีอาการไข้คล้ายเป็นหวัดเนื่องจากถูกน้ำฝนด้วย จึงได้พาไปรักษาที่คลินิค กระทั่งพบว่าลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว ทางทีมแม่ ABK ก็ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ข้างต้นจึงเป็นอุทาหรณ์ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยระวัง ป้องกันงูเข้าบ้าน ดูแลบริเวณบ้านและลูกน้อยให้ดีเพราะเนื่องจากเมื่อเข้าใกล้หน้าฝน ก็มักจะมีสัตว์เลื้อยคลานเกิดขึ้นมาจำนวนมาก และพวกมันจะแสวงหาที่อยู่อาศัยใหม่ หนึ่งในนั้นก็คือ “บ้านคน” ซึ่งหากพบเจองู หรือสัตว์มีพิษเข้ามาในบ้าน ก็ไม่ควรเข้าไปจับด้วยตัวเองอย่างเด็ดขาด เพราะอาจถูกกัดและเป็นอันตรายถังขั้นเสียชีวิตได้ … สิ่งแรกที่ควรทำคือต้องแจ้งกู้ภัยในทันที แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถป้องกันงูเข้าบ้าน ด้วยตัวเองก่อนในเบื้อต้นได้ ดังนั้นทีมแม่ ABK จึงมีวิธี ป้องกันงูเข้าบ้าน เพื่อปกป้องคนในบ้านและลูกน้อย ไม่ให้ ถูกงูกัด ได้ ว่าแต่จะต้องทำอย่างไรไม่ให้งูเข้าบ้านบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

5 วิธี! ป้องกันงูเข้าบ้าน

เพื่อป้องกันลูกน้อยจากสัตว์ร้ายช่วงหน้าฝน นอกจากจะไม่ควรพาลูกไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงแล้ว การคอยดูแลปกป้อง และหาวิธีป้องกันสัตว์เลื้อคลาน หรือสัตว์มีพิษอย่างงูที่อาจเข้าบ้าน ก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรตระหนัก ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องรู้ วิธีป้องกันงูเข้าบ้าน วิธีป้องกันงูไม่ให้เข้าบ้าน ซึ่งก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยแก้จากเหตุจูงใจให้งูอยากเข้าบ้าน ดังนี้

1. ทำความสะอาดบ้าน อย่าปล่อยให้บ้านสกปรก เพราะบ้านที่ขาดการจัดให้เป็นระบียบ หรือบ้านที่จัดพื้นที่สวนแต่ปล่อยให้รก ก็อาจจะมีงูทุกชนิดที่เป็นสัตว์นักล่า มากินเหยื่อที่เป็นสัตว์ด้วยกันซึ่งคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรทำให้บ้านให้เป็นแหล่งรวมอาหารของงู เช่น กำจัดหนูโดยการดักหรือเบื่อ และจัดบ้านให้สะอาด เป็นระบียบเรียบร้อยไม่รกรุงรัง ควรหมั่นตัดหญ้าและดูแลสวนอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงทิ้งขยะให้เป็นที่และมิดชิด เพื่อไม่ให้หนูกิน เมื่อประชากรหนูลดลง งูก็จะลดลงตามไปด้วย

2. เลี้ยงสัตว์ที่เป็นศัตรูกับงู เพื่อ ป้องกันงูเข้าบ้าน สำหรับบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงซึ่งอาจมีงูเงี้ยวเคี้ยวขอเลื้อยเข้ามาในบ้านได้ จำเป็นที่จะต้องเลี้ยงสัตว์ เช่น สุนัข เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาให้เราได้ เมื่อมีสิ่งแปลกๆ เข้ามาในบ้าน ในบางครั้งแค่สุนัขเริ่มเห่า งูก็ตกใจกลัว เลื้อยหนีไปแล้ว หรือเลี้ยงห่าน เพราะจากข้อมูลเว็บบอร์ดหลายๆแห่ง คนที่เลี้ยงห่านจำนวนมากยืนยันว่า ตั้งแต่เลี้ยงห่านก็ไม่ได้เห็นงูในบ้านอีกเลย จะมีเห็นก็แค่ตอนที่ห่านกินงู นอกจากนี้มีหลายคนเชื่อว่างูไม่ถูกกับกลิ่นขี้ห่าน บ้างก็ว่าเสียงร้องของห่าน

3. ลดแหล่งที่อยู่ของงู เพื่อ ป้องกันงูเข้าบ้าน คุณพ่อคุณแม่ควรจัดสภาพแวดล้อมรอบบ้านให้ยากและไม่เหมาะสมแก่งูที่จะเข้ามาอาศัยอยู่หรือทำรังวางไข่ อย่าทิ้งพื้นที่ให้รกซึ่งจะเป็นแหล่งให้งู สามารถหลบซ่อนได้ เช่น ทุกเส้นทางที่จะเข้าไปในตัวบ้าน (โดยเฉพาะโพรงใต้บ้าน) ให้กลบหลุมหรือโพรงที่มีตามสนามหรือขอบรั้ว กำแพง, วางแผ่นกันงู เอาไว้กันในแนวดิ่ง เช่นเสา กำแพง วัสดุมีความลื่นสูงจนงูไม่สามารถเลื้อยขึ้นไปได้ หรือใช้ผงกำมะถัน/น้ำมันก๊าซ/น้ำมันเครื่องโรยบริเวณรอบรั้วบ้าน ประตูทางเข้า ท่อระบายน้ำ สารเคมีพวกนี้จะส่งกลิ่นฉุนรบกวนงู ช่วยสกัดกั้นไม่ให้งูเลื้อยเข้ามาในบริเวณนั้นได้อีก

4. ปลูกต้นไม้ไล่งู  มีต้นไม้หลายชนิดที่จะช่วยป้องกันงูเข้าบ้านได้ ซึ่งพืชที่นิยมปลูกเพื่อ ป้องกันงูเข้าบ้าน ได้แก่ ว่านพญานาคราช ลิ้นมังกร จิงจูฉ่าย เสลดพังพอน กุยช่ายประดับ ฟ้าทะลายโจร ซึ่งต้นไม้เหล่านี้ คนโบราณเชื่อว่าจะช่วยป้องกันงูเข้าบ้านได้ อีกทั้งบางต้นยังมีสรรพคุณทางยาในการแก้พิษที่เกิดจากสัตว์มีพิษอีกด้วย หรือการจัดแต่งบริเวณรอบบ้านด้วยกรวด หินก้อนเล็ก ๆ มาโรยไว้รอบตัวบ้าน ก็จะทำให้งูเกิดอุปสรรคในการเลื้อย เพราะเมื่อเจอกับก้อนกรวดจนทำให้เลื้อยลำบาก งูก็จะเปลี่ยนใจไปที่อื่นในที่สุด

5. เปิดไฟให้สว่างและสำรวจพื้นที่ในบ้านก่อน เมื่อเข้าบ้านหรือเข้าห้องนอน ควรเปิดไฟให้สว่าง เปิดผ้าห่มขึ้น พร้อมจัดหมอนจัดที่นอนให้ดีก่อน เพื่อสำรวจดุว่ามีสัตวือะไรเข้ามาซุกอยู่บนที่นอนหรือไม่ หรือหากเข้าห้องน้ำก็ควรควรเปิดไฟแล้วราดน้ำหรือกดชักโครกก่อนทำธุระในห้องน้ำทุกครั้ง และตรวจดูว่ามีสิ่งผิดปกติอยู่บริเวณโถส้วมหรือไม่

ซึ่งหากพบว่ามีสัตว์ร้ายอยู่ในบ้าน เช่น งู ตัวเงินตัวทอง ห้ามจัดการจับด้วยตัวเองเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายกับตัวเราได้ เพราะถ้าเจองูบางชนิดที่มีพิษรุนแรงอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ดังนั้นจึงควรรีบหาคนมาช่วย หรือโทรแจ้งกู้ภัยทันที องค์การสวนสัตว์ โทร. 02 282 7111 ต่อ 3 หรือ หน่วยกู้ภัยเบอร์ 199

ทั้งนี้มีข้อแนะนำถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับงูโดยบังเอิญ ให้ทำตัวนิ่งๆ อย่าขยับหรือเคลื่อนไหวใดๆ เพราะงูสายตาไม่ค่อยดีแต่ประสาทสัมผัสเป็นเยี่ยม ดังนั้นมันจะโจมตีเป้าที่มีการเคลื่อนไหว ถ้าเราอยู่เฉยๆ สักพัก เมื่องูไม่เห็นว่ามีอันตรายหรือไม่มีอะไรเคลื่อนไหว มันก็จะลดแม่เบี้ยแล้วก็เลื้อยหนีไปเอง

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก : 


ขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพจาก : www.onbnews.todaywww.matichon.co.thwww.barascientific.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids