AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เปิดเทอมนี้ เตรียมของให้ลูกไปโรงเรียน ต้องมีอะไรบ้าง

เพราะเปิดเทอมใหม่นี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทุกโรงเรียนมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด เพราะเมื่อเด็กๆ มารวมกันจำนวนมาก ทำกิจกรรมร่วมกัน เล่นกัน อาจไม่ได้ระมัดระวังตัวเท่าที่ควร ขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องเตรียมตัวลูกน้อยให้ปลอดภัยจากเชื้อโรคร้ายเช่นกัน มาดูกันว่าต้อง เตรียมของให้ลูกไปโรงเรียน เด็กๆต้องมีอะไรบ้าง  เพื่อให้ลูกห่างไกลจากโควิด

แม้บ้านเราจะไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมาหลายวันและทางรัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการต่างๆให้ผู้คนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้แล้ว พ่อแม่ได้กลับไปทำงาน ส่วนลูกๆก็ต้องกลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แต่มาตรการป้องการการแพร่ระบาดของโรคนี้ยังคงอยู่ ทั้งการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing)

เปิดเทอมใหม่ เตรียมของให้ลูกไปโรงเรียน อย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด

ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิสร้างเสริมวิถีบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ (มอส.) กรมอนามัย และกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ร่วมกันจัดทำ “คู่มือการจัดการโรงเรียนรับมือโควิด-19”  ในรูปแบบต่างๆ เช่น คู่มือการจัดการโรงเรียน โปสเตอร์รณรงค์ชีวิตวิถีใหม่ สติ๊กเกอร์ระยะห่าง นิทานความรู้ให้เด็กๆ พร้อมทั้งคำแนะนำสำหรับเด็กๆเมื่อไปโรงเรียนด้วย

 

ลูกต้องทำอย่างไรเมื่อไปโรงเรียน

สสส.ได้ทำคำแนะนำและข้อปฏิบัติเบื้องต้นสำหรับเด็กๆที่ต้องไปโรงเรียน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่นำไปปรับใช้เพื่อเตรียมตัวลูกน้อยให้พร้อมสำหรับการไปโรงเรียนแต่เนิ่นๆ เพื่อให้พวกเขาเข้าใจ ทำตามได้โดยไม่ต่อต้าน มีทั้งหมด 9 ประการหลักๆ ดังต่อไปนี้

  1. สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อไปโรงเรียน
  2. ถ้ามีไข้ ไอจาม เป็นหวัด หรือหายใจเหนื่อยหอบ ให้รีบแจ้งคุณครูเพื่อให้ผู้ปกครองพาไปพบแพทย์ และหยุดเรียนจนกว่าจะหายดี
  3. ไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยมีอาการหวัด มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก
  4. ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือสบู่กับน้ำบ่อยๆ และทุกครั้งก่อนกินอาหาร เข้าห้องน้ำ
  5. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูกโดยไม่จำเป็น
  6. สอนให้ลูกเว้นระยะห่างกับคนอื่นๆอย่างน้อย 1 เมตร ไม่ว่าจะตอนนั่งเรียน กินอาหาร หรือเล่นกับเพื่อน
  7. มีอุปกรณ์ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้ว ช้อน ส้อม เป็นต้น
  8. อาบน้ำทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน เล่นกับเพื่อนหลังเลิกเรียน และกลับจากนอกบ้าน
  9. ดูแลสุขภาพลูกให้แข็งแรง กินอาหารครบห้าหมู่ ผักผลไม้ 5 สี ออกกำลังกายเป็นประจำและนอนหลับให้เพียงพอ 9-10 ชั่วโมงต่อวัน

เช็กลิสต์…ของมันต้องมี เตรียมของให้ลูกไปโรงเรียน สไตล์นิวนอร์มอล

นอกจากการสอนให้ลูกตระหนักถึงอันตรายของโควิด วิธีการล้างมือที่ถูกต้อง และการปฏิบัติตัวระหว่างอยู่โรงเรียนแล้ว คุณแม่ต้องวางแผน เตรียมของให้ลูกไปโรงเรียน สำหรับใช้ระหว่างวันโดยเฉพาะของใช้ส่วนตัว อุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์ทำความสะอาด ที่ต้องแบ่งเป็นสัดส่วน ไม่ใช้ปะปนกับคนอื่น จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย

ไอเท็มลูกต้องมี…รับมือโควิด  

  1. หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า

สามารถใช้ได้ทั้งสองชนิด ควรเลือกขนาดให้เหมาะกับวัยของลูก ถ้าเป็นหน้ากากผ้าควรเลือกชนิดของผ้าที่ไม่ระคายเคืองผิวลูกน้อย ซักความสะอาดได้ง่าย แต่หากใช้หน้ากากอนามัยควรใช้ครั้งเดียวทิ้ง ไม่นำมาใช้ซ้ำ คุณแม่ควรเตรียมหน้ากากเผื่อไว้สัก 2 ชิ้นกรณีลูกทำหาย หรือสกปรกจะได้มีเปลี่ยนใส่ระหว่างวัน หรือจะเตรียมถุงซิปล็อคให้ลูกไว้ใส่หน้ากากเวลากินข้าว หรือล้างหน้าเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก

สำหรับเด็กเล็กที่ยังดูแลของส่วนตัวเองไม่ได้ คุณแม่อาจเลือกใช้หน้ากากที่มีสายคล้องคอเพื่อป้องกันการหายได้ แต่มีราคาค่อนข้างสูงสักหน่อย หรือซื้อเฉพาะสายคล้องคอมาติดกับหน้ากากแทนก็ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้พอสมควร สามารถหาซื้อได้จากแอพช้อปปิ้ง และร้านค้าออนไลน์ทั่วไป

 MUST READ : วิธีทำหน้ากากผ้าง่ายๆ ให้ลูก จาก “ผ้ามัสลิน”

 MUST READ: วิธีทำแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ฆ่าเชื้อโรค ไว้ใช้เองที่บ้าน

 

  1. เจลแอลกอฮอล์

ไอเท็มประจำตัวลูกน้อยที่ขาดไม่ได้ ไว้ใช้ล้างมือบ่อยได้สะดวกตลอดเวลา คุณแม่ควรเลือกซื้อเจลแอลกอฮอล์คุณภาพดี ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ (เกรดทำยา) 70 % ขึ้นไป  มีฉลากระบุชื่อ ส่วนผสม วิธีใช้ และผู้ผลิตอย่างชัดเจน มีลักษณะเป็นเนื้อเจลใส ไม่เป็นตะกอน ไม่จับตัวเป็นก้อนหรือแยกชั้น และควรซื้อจากร้านขายยา หรือร้านค้าที่เชื่อถือได้

สามารถซื้อเจลแอลกอฮอล์ขนาดเล็ก ลูกหยิบใช้ได้สะดวก ที่มีทั้งชนิดหลอดและขวด หรือซื้อแบ่งใส่ขวดเล็กมีสายคล้องกระเป๋าหรือเข็มขัดให้ ไว้เติมเจลให้พอดีกับที่ต้องใช้ในแต่ละวัน ที่สำคัญคุณแม่ต้องฝึกให้ลูกล้างมือบ่อยๆ ด้วยนะคะ

 

  1. สบู่ล้างมือ

โรงเรียนส่วนใหญ่จะเตรียมสบู่ล้างมือไว้ให้นักเรียน แต่ถ้าคุณแม่อยากมั่นใจว่า ลูกจะได้ล้างมือสะดวกแน่ๆ สามารถเตรียมสบู่ล้างมือติดกระเป๋าไว้ได้ ควรเลือกชนิดพกพา จะได้ไม่หนักกระเป๋าเกินไป หรือเลือกใช้ “สบู่แผ่น” เป็นแผ่นสบู่บางๆ นำมาเหยาะน้ำถูกให้เกิดฟอง ใช้ทำความสะอาดได้สบู่ทั่วไป พกสะดวก

4.กระดาษทิชชู่ หรือทิชชู่เปียก

เวลามีเหงื่อ เด็กๆเผลอใช้มือเช็ดอยู่บ่อยๆ เพื่อลดการใช้มือสัมผัสสิ่งต่างๆ เอามือมาถูใบหน้า ถูตัว  โดยเฉพาะคุณแม่ควรเตรียมกระดาษทิชชู่ หรือ ทิชชู่เปียก ติดกระเป๋าไว้ให้ลูกใช้เช็ดมือ เช็ดหน้ารวมถึงอุปกรณ์การเรียนเพื่อทำความสะอาดด้วย

  1. สติ๊กเกอร์แปะกันยุง

โรงเรียนเลื่อนมาเปิดเทอมช่วงหน้าฝนแบบนี้ สิ่งที่ตามมาด้วยไม่พ้น “ยุงลาย” ตัวร้าย ต้นเหตุของโรคไข้เลือดออก ที่มีเด็กๆต้องป่วยหลายร้อยคนทุกปี เพื่อป้องกันให้ลูกน้อยรอดพ้นจากโรคร้าย คุณแม่ลองหาสติ๊กเกอร์แปะกันยุงมาติดไว้ตามปลายแขนเสื้อ ชายกระโปรง หรือขากางเกงลูกน้อย อาจต้องซ่อนไว้ด้านในสักหน่อยกันหนูน้อยดึงเล่น เพียงเท่านี้ก็ช่วยปกป้องลูกได้ระดับหนึ่ง หลักในการเลือกซื้อสติ๊กเกอร์ คือควรเลือกสติ๊กเกอร์ที่ใช้ส่วนผสมอ่อนโยน ไม่มีสารเคมีรุนแรง และไม่ระคายเคืองผิวลูก

  1. กระติกน้ำส่วนตัว

ของติดตัวที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ กระติกน้ำประจำตัว ไว้ให้ลูกได้ดื่มน้ำระหว่างอยู่โรงเรียน นอกจากช่วยให้ลูกดื่มน้ำได้บ่อยๆแล้วยังช่วยลูกห่างจากโควิดด้วย ทั้งนี้คุณแม่ควรขนาดให้เหมาะกับวัยของลูก และพัฒนาการของลูกน้อย ถ้าเป็นเด็กอนุบาลควรเลือกระติกน้ำไม่ใหญ่เกินไป เป็นแบบหลอดดูดใช้ได้สะดวก ส่วนเด็กโตชั้นประถมอาจใช้กระติกแบบยกดื่มแทนได้ ทั้งนี้ควรเลือกกระติกที่ปลอดสาร BPA และสารอันตรายเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย

  1. สติ๊กเกอร์ชื่อติดของใช้

ช่วงโควิดเด็กๆต้องแยกของใช้ส่วนตัวให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ปะปนกับเพื่อนในห้อง แม้แต่อุปกรณ์การเรียนต่างๆทั้งดินสอ ยางลบ ดินสอสี หรือรองเท้านักเรียน แต่ของใช้เด็กเหมือนๆ กันจนแยกไม่ออกจึงอาจใช้ของสลับกันได้ คุณแม่อาจเตรียมสติ๊กเกอร์พิมพ์ชื่อลูกไว้สำหรับแปะสิ่งของต่างๆ เพื่อเตือนใจทั้งลูกโดยไม่ต้องบ่นปากเปียกปากแฉะ

  1. ชุดนักเรียน ถุงเท้า รองเท้า

สิ่งที่ขาดไม่ได้ก่อนไปโรงเรียน คุณแม่หลายบ้านสาละวนกับการเตรียมชุดนักเรียน ถุงเท้า รองเท้าให้ลูกน้อย สำหรับน้องที่ไปโรงเรียนครั้งแรกหรือเปลี่ยนโรงเรียนใหม่อาจตื่นเต้นเป็นพิเศษ  ส่วนลูกที่ขึ้นชั้นเรียนใหม่ คุณแม่คงต้องวัดขนาดชุดนักเรียน รองเท้ากันใหม่ว่ายังใส่ได้หรือเปล่า เพราะเด็กๆโตเร็วมากโดยเฉพาะวัยอนุบาลและประถมต้น เสื้อผ้าสามารถซื้อเผื่อโตไว้ได้ แต่คุณแม่ไม่ควรซื้อรองเท้าเผื่อไซส์มากเกินไป เพราะการใส่รองเท้าใหญ่กว่าเท้าจริงมีผลต่อรูปเท้าและการเดินของลูก

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

 

9 กระเป๋านักเรียน หนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน

หนังสือเรือนไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเพราะโรงเรียนจะจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย หรือเตรียมลิสต์รายการให้คุณแม่ไปซื้อได้สะดวก ส่วนการเลือกซื้อกระเป๋านักเรียน คุณแม่ควรพิจารณาจากเหมาะสมของเด็กแต่ละวัย แม้โรงเรียนส่วนใหญ่จะมีเป้หรือกระเป๋าสะพายของสถาบันให้ซื้อใช้เพื่อความเป็นระเบียบ แต่บางโรงเรียนให้อิสระในเรื่องนี้หากเป็นเด็กปฐมวัย คุณแม่ยังสามารถใช้เป้สะพายใบเล็กๆ ใส่แค่ของจำเป็น ส่วนของใช้อื่นๆควรใส่ถุงแยกให้คุณครู เพื่อไม่ให้ลูกแบกน้ำหนักมากเกินไป

 MUST READ :แม่แชร์ ประสบการณ์ผ่าตัด กระดูกสันหลังคดในเด็ก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

ส่วนวัยประถมที่ต้องแบกหนังสือเรียนจนหนักอึ้ง คุณแม่ควรฝึกให้ลูกจัดตารางเรียนของแต่ละวัน ไม่ใช่แบกหนังสือทุกเล่มไปเพราะทำให้หนักจนกระดูกสันหลังผิดรูปได้ แต่ถ้าลองถือดูแล้วกระเป๋ายังหนักอยู่ดี อาจต้องเปลี่ยนไปใช้กระเป๋าลาก หรือกระเป๋าเป้ที่ใส่แนบกระชับหลัง  เพื่อไม่ทำให้สรีระของลูกน้อยผิดเพี้ยนไป

  1. ผ้าเช็ดหน้า ผ้าขนหนู ชุดเปลี่ยน ของใช้ส่วนตัว

สิ่งของเหล่านี้คุณแม่ต้อง เตรียมของให้ลูกไปโรงเรียน และขาดไม่ได้สำหรับเด็กอนุบาล ที่มีกิจวัตรประจำวันคล้ายกับที่บ้านคือ การนอนกลางวัน แปรงฟันก่อนเข้านอน จึงต้องมีชุดนอน ชุดเปลี่ยน ผ้าเช็ดหน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และแก้วน้ำไว้ใช้เป็นของส่วนตัว

11. นมและของว่าง

เด็กวัยนี้ยังต้องกินนมช่วงกลางวัน สามารถกินนมโรงเรียนได้ก็ไม่ต้องเตรียม แต่ถ้าลูกแพ้นมคุณแม่ควรใส่นมกล่องแบบที่ชอบไว้ในกระเป๋าให้ลูกหยิบมากินเองได้สะดวก ทั้งนี้ควรหัดให้ลูกน้อยเลิกขวดก่อนชั้นอนุบาล เพื่อพัฒนาการที่ดีและสุขอนามัย สำหรับของว่าง โรงเรียนแทบทุกแห่งมีเตรียมไว้ให้เป็นเบเกอรีบ้าง ขนมหวาน หรือผลไม้บ้าง แต่บางโรงเรียนก็ให้เด็กเลือกขนมไปกินเองได้ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กเลือกและแบ่งปันกับเพื่อนๆ คุณแม่ควรเลือกขนมที่เหมาะสมกับโภชนาการของลูก ไม่ควรเป็นขนมกรุบกรอบ มีรสจัด เค็มหรือหวานเกินไป เพื่อสร้างนิสัยการกินที่ดีให้ลูกในอนาคต

นอกเหนือจากการ เตรียมของให้ลูกไปโรงเรียนแล้ว คุณแม่ต้องปรับพฤติกรรม กิจวัตรประจำวันของลูกให้พร้อมสำหรับการเปิดเทอมอีกครั้ง หลังหยุดยาวมาร่วม 3 เดือนเต็ม เด็กๆหลายบ้านนอนดึก ตื่นสาย กินอาหารไม่เป็นเวลา การปรับวงจรชีวิตให้มีระเบียนวินัยเช่นเดิม จะช่วยให้เด็กปรับตัวกับการเปิดเทอมได้ไม่ยาก ส่วนคุณพ่อคุณแม่เองก็ควรปรึกษาและเตรียมความพร้อมกับการเรียน การใช้ชีวิตในโรงเรียนวิถีใหม่กับคุณครูให้เข้ากัน และศึกษาเส้นทางไปโรงเรียนไว้ล่วงหน้า เพื่อให้การไปโรงเรียนวันแรกของปีนี้เป็นไปอย่างราบรื่น แม้โควิดจะยังอยู่ แต่เราทุกคนก็สู้ได้


แหล่งข้อมูล : www.thaihealth.or.th

 

 

ลูกไม่อยากไปโรงเรียน ทำไงดี ? แม่ลองวิธีนี้ช่วยลูกได้ ไม่ต้องบังคับ

 

รร.สังกัดกทม เตรียม เปิดเทอมอนุบาล – ประถม เน้นแบ่งห้องเรียน จัดตารางสอนให้เหมาะสม

 

แม่ต้องระวัง! โรคแทรกซ้อนโควิด-19 ในเด็ก ทำลูกป่วยหนัก

 

ทำไมเด็กไม่ควรใส่ “หน้ากากผ้า” เหมือนกันไปโรงเรียน