วิธีฝึกลูกช่วยเหลือตัวเอง เป็นเรื่องที่คุณแม่ๆ ถามกันเข้ามามากค่ะว่า พอจะมีวิธี หรือเทคนิคง่ายๆ สำหรับใช้ฝึกลูกตั้งแต่ เล็กๆ ให้เขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้างหรือเปล่า ถามมาแบบนี้ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี 10 วิธีช่วยลูกในการให้ เขาได้รู้จักการช่วยเหลือตัวเองจากเรื่องเล็กๆ ในชีวิตประจำวันมาฝากกันค่ะ
วิธีฝึกลูกช่วยเหลือตัวเอง มีประโยชน์อย่างไร?
คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่ว่ามี วิธีฝึกลูกช่วยเหลือตัวเอง อยู่หลากหลายวิธีซึ่งล้วนแล้วมีแต่ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับตัวของ เด็กๆ เอง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ…
- ได้ฝึกพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก
- ได้ฝึกการเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น
- ได้ฝึกการคิด แยกแยะ วิเคราะห์
- ได้ฝึกความรับผิดชอบกับเรื่องตัวส่วนเล็กๆ น้อยๆ ด้วยตัวเอง
คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกลูกให้รู้จักช่วยเหลือรับผิดชอบตัวเองได้ในหลายๆ เรื่องตั้งแต่ที่พวกเขายังเป็นเด็กเล็กๆ ซึ่งช่วงวัยที่ดีที่สุดในการฝึกก็คืออายุ 3-4 ขวบขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่เด็กๆ จะรู้เรื่องและเข้าใจกับทุกสิ่งอย่างได้ดีมากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะก่อนหน้าที่จะส่งลูกเข้าเรียนอนุบาล การเตรียมพร้อมให้ลูกได้รู้จักการช่วยเหลือรับผิดชอบตัวเองได้ไม่ว่าจะเป็น การตักข้าว ทานเอง การใช้ห้องน้ำในการขับถ่าย การใส่ถุงเท้า รองเท้าได้เอง การติดกระดุมเสื้อ การแปรงฟัน ฯลฯ การฝึกให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตัวเอง นั้นได้ประโยชน์และผลดีต่อตัวของเด็กๆ อย่างมาก เพราะพวกเขาจะได้ในเรื่องของระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ เป็นต้น เอาเป็นว่าเราลองไปดูเคล็ดลับวิธีฝึกลูกให้รู้จักช่วยเหลือตัวเองที่เป็นประโยชน์พร้อมๆ กันค่ะ
อ่านต่อ 10 วิธีฝึกลูกให้รู้จักช่วยเหลือตัวเอง หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
10 วิธีฝึกลูกช่วยเหลือตัวเอง
1. เริ่มที่ลูก 3 ขวบ++
เด็กๆ เมื่ออายุเริ่มเข้า 3 ขวบ++ ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีหากพ่อแม่จะสอนให้เขาสามารถรับผิดชอบอะไรเล็กๆ น้อยๆ ในกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตัวเอง อย่างการสอนให้ลูก…
- หัดตักข้าวทานเอง
- สอนให้เข้าใจว่าปวดฉี่ ปวดอึต้องเข้าห้องน้ำ ไม่ขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมหรือกางเกง และเมื่อเข้าใช้ห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องล้างมือทุกครั้งก่อนออกจากห้องน้ำ
- ตื่นเช้า-ก่อนนอน ต้องแปรงฟันเป็นได้เอง
- ก่อนหยิบจับ ตักอาหาร ขนมของว่างทานต้องล้างมือก่อนทุกครั้ง
- เก็บของเล่นให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ฯลฯ
2. มอบหมายงานบ้าน
อย่าคิดว่าลูกเล็กๆ ทำงานบ้านไม่เป็นนะคะ ขอบอกว่าชอบเลยละค่ะ คือเห็นได้จากหลานๆ ที่บ้าน และลูกของเพื่อนๆ ชอบ เหลือเกินถ้าแม่ให้ช่วยล้างจาน หรือจับไม้กวาดๆ บ้าน อย่างที่บ้านของผู้เขียนเองจะมีการแบ่งตารางการทำงานบ้านกันอย่าง ชัดเจน คือทุกคนไม่ว่าจะผู้ใหญ่ หรือเด็ก จะได้หน้าที่รับผิดชอบงานบ้านกันคนละ 1-2 อย่าง โดยดูจากความสามารถ รับผิดชอบทำได้ดี
- หลานสาวอายุ 7 ขวบ ให้ช่วยแม่กวาดบ้าน กับช่วยล้างจาน
- หลานชายอายุ 5 ขวบ ให้ช่วยแม่เก็บผ้าที่ตากแห้งแล้ว กับเทอาหารให้น้องแมว
โดยหน้าที่รับผิดชอบจะเปลี่ยนไปเมื่อเด็กๆ อายุมากขึ้น เพื่อให้เขาได้เรียนรู้และทำเป็นเองได้ทุกอย่าง ซึ่งในช่วงแรกๆ ต้องมีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลืออยู่ด้วยนะคะ
บทความแนะนำ คลิก >> 7 วิธีสอนลูกให้เป็นคนดีมีคุณค่า
3. ให้ลูกได้ลองทำด้วยตัวเอง
มีพ่อแม่ไม่น้อยค่ะที่ประคบประหงมลูกทุกอย่าง กระทั่งลูกโตแล้วก็ยังจะตามป้อนข้าว ใส่ถุงเท้า ร้องเท้าให้ ช่วยจับแปรงสีฟันให้ ฯลฯ จนลูกทำอะไรเองไม่เป็นสักอย่าง ซึ่งเด็กอายุ 4-5 ขวบขึ้นไป เขาควรจะดูแลจัดการตัวเองกับเรื่องเหล่านี้ได้บ้างแล้ว อาจยังทำได้ไม่คล่องแคล่วมากเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ทำทุกวันก็จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
4. ชมลูกเมื่อทำได้ดี
เมื่อเด็กๆ เริ่มที่จะรับผิดชอบกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรพ่อแม่อย่าเพิ่งไปดุลูก เพราะเดี๋ยวจะทำให้เสียกำลังใจกันไปก่อนค่ะ สิ่งที่ควรทำคือการให้คำพูดชมลูก “หนูทำได้ดีแล้วนะ แม่ว่าถ้าทำแบบนี้ทุกวันลูกจะเก่งมากขึ้น” การให้กำลังใจด้วยคำพูดที่ดี จะช่วยให้ลูกมีแรงพลักดันทำได้ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
5. ฝึกการแก้ปัญหา
วิธีนี้ผู้เขียนเห็นพี่สาวใช้กับหลานสาวคนโตค่ะ ด้วยการไหว้วานให้ช่วยไปซื้อของที่ร้านชำข้างบ้านให้หน่อย หลานสาวได้เงินไป 50 บาทเพื่อซื้อซอสปรุงรสยี่ห้อที่ทานกันประจำ แต่ตอนที่ไปซื้อซอสยี่ห้อที่แม่ต้องการนั้นหมด แต่หลานสาวก็ได้ซอสปรุงรสยี่ห้ออื่นที่มีวัตถุดิบเหมือนกันกลับมา แล้วบอกว่ายี่ห้อนี้แทนนะแม่ รสชาติน่าจะอร่อยเหมือนกัน ของที่ได้มาถึงจะต่างยี่ห้อ แต่ก็ถือเป็นการรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมากค่ะ
อ่านต่อ 10 วิธีฝึกลูกให้รู้จักการช่วยเหลือตัวเอง หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
6. ฝึกให้ประหยัดอดออม
หนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงิน และคุณค่าของสิ่งของที่อยากได้ อาจจะเป็นปีละครั้ง หรือทุกวันเกิดของลูก หากเขาอยากจะได้อะไรเป็นพิเศษ พ่อแม่ควรหากระปุกออมสินคู่ใจมาให้ลูก สอนเขาให้หยอดเงินวันละ 5-10 บาท เพื่อให้ได้จำนวนเงินตามราคาของที่อยากซื้อ การฝึกให้ลูกทำแบบนี้นอกจากจะเป็นฝึกให้เขาได้รู้จักการอดทนรอคอย ก็ยังช่วยให้ เด็กๆ มีความภาคภูมิใจและเห็นถึงคุณค่าสิ่งของต่างๆ ได้ดีด้วยนะคะ
7. ให้แบบทดสอบที่เหมาะกับวัยลูก
การเริ่มฝึกให้ลูกได้ลองทำอะไรต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง ต้องแบบค่อยเป็นค่อยไปค่ะ พ่อแม่อย่าเพิ่งรีบร้อน อย่างหากลูก 3 ขวบ เขายังทำอะไรด้วยตัวเองไม่ค่อยถนัดมากนัก อาจเริ่มที่ฝึกให้ลูกลองบีบยาสีฟันแปรงฟันเอง แล้วเมื่อลูกอายุเข้า 4 ขวบขึ้นไป จากแบบทดสอบ 1 อย่างที่มอบหมายให้ลูกรับผิดชอบ ก็ให้ปรับเพิ่มเป็น 2 อย่าง เช่น แปรงฟัน+ใส่เสื้อผ้า , ใส่ถุง+รองเท้า , เอาขยะไปทิ้งหน้าบ้าน+ล้างจาน ฯลฯ
8. สอนพี่ให้ดูแลน้อง
อย่างที่บ้านผู้เขียนมาหลานสองคน จะสอนให้พี่น้องรักและช่วยเหลือกันเสมอค่ะ เมื่อแม่ยังทำงานบ้านอื่นๆ ยังไม่เสร็จ หากน้องร้อง น้องหิว คนพี่ต้องทำหน้าที่แทนแม่ด้วยการหาข้าว หานมให้น้องกิน ไม่ปล่อยน้องร้องแล้วรอแม่มาทำให้อย่างเดียว การฝึกให้พี่น้องดูแลกันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ถือเป็นการฝึกเรื่องความเป็นผู้นำให้ลูกได้ดีมากๆ ด้วยค่ะ
9. อาบน้ำเองได้แล้ว
ลูกสาว ลูกชาย ของทุกคนเมื่อถึงวัยที่เขาโตมากขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องมีพ่อแม่อาบน้ำให้แล้วค่ะ ถ้าลูกโตพอ(อย่างของบ้าน ผู้เขียนพอหลานขึ้นประถม 1) ก็ให้เขาอาบน้ำเองแล้วค่ะ โดยสิ่งสำคัญภายในห้องอาบน้ำต้องปลอดภัย ไม่มีสิ่งกีดขวางมา ทำให้ลูกลื่นล้มหัดฟาดพื้นนะคะ สอนให้ลูกอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด อย่างช่วงแรกจะเปิดประตูแง้มๆ ดูหลานอยู่ นอกห้อง แต่พอเขาสามารถอาบน้ำเองได้อย่างราบรื่น ก็วางมือสบายใจได้เลยค่ะ
10. เก็บของเล่น ของใช้ให้เข้าที่ทุกครั้ง
พ่อแม่อย่าตามใจลูกไปซะทุกอย่างนะคะ เพราะจะทำให้ลูกยิ่งได้ใจ และไม่ยอมทำอะไรด้วยตัวเองเลย บ้านไหนที่มีลูกเล็กๆ ดึงรื้อของเล่นจนเลอะเทอะ ต้องสอนให้ลูกรู้จักเก็บของเล่นกลับเข้าที่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเดิมด้วยทุกครั้ง ต้อง จริงจังกับลูกๆ ถ้าไม่ยอมเก็บครั้งต่อไปก็จะไม่ได้เล่น และไม่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ด้วย
บทความแนะนำ คลิก >> สอน Mind Map ให้ลูก เริ่มยังไงดี?
เด็กที่ได้รับการฝึกฝนให้รู้จักการรับผิดชอบอย่างเหมาะสมตามช่วงวัย จะช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ กล้าตัดสินใจ กล้าแสดงออก กล้าทำสิ่งต่างๆ เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง (Self Confidence) สามารถพึ่งตนเองได้ดี มีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย และยังจะปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ในสังคมได้ดี เห็นแบบนี้แล้วจะไม่เริ่มฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองกันตั้งแต่ตอนนี้ก็อาจจะสายไป จนทำให้ลูกพลาดสิ่งดีดีในชีวิตที่ควรจะเป็นไปได้ค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
สอนภาษาอังกฤษลูกอย่างไร ให้เก่งตั้งแต่เด็ก!
สอนลูกให้เก่ง กว่าพ่อแม่ในยุคสมัยใหม่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
www.gotoknow.org