Parental Control ฟีเจอร์ใหม่เอาใจแม่ คุมเวลา-เนื้อหาลูก ดูNetflix ให้เหมาะกับวัย

“ดูNetflix” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมบันเทิงที่หลายบ้านให้ลูกทำฆ่าเวลาในช่วงที่ออกไปเล่นนอกบ้านไมได้ หรือระหว่างรอคุณพ่อคุณแม่จัดการงานให้เสร็จจากแผน work from home แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่า หนัง หรือ การ์ตูนที่ลูกดูจะไม่เป็นภัย  และลูกไม่ดูมากเกินไปจนติดจอ

เครื่องมือใหม่สำหรับพ่อแม่ ช่วยควบคุมให้ลูก ดูNetflix อย่างปลอดภัย

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยีเปิดทางให้ลูกเข้าถึงสื่อบันเทิงได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องรอคอยเวลาที่การ์ตูนมาฉาย หรือไปโรงหนังสือเพื่อดูการ์ตูนสักเรื่อง แค่มีอินเตอร์เน็ตกับอุปกรณ์หน้าจออย่าง สมาร์ททีวี แท๊ปเล็ตสักเครื่อง ก็สามารถดูการ์ตูน สารคดีเรื่องโปรดได้ตลอดเวลา

Netflix คือหนึ่งในผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงรูปแบบต่างๆที่สามารถแบ่งกันดูได้ทั้งครอบครัว ซึ่งจัดแบ่งเนื้อหาให้กับคนทุกวัย แต่ละคนสามารถเข้าถึงเนื้อหาของตัวเองได้จากอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมๆ กัน จึงให้ลูก ดูNetflix ผ่านแท๊ปเล็ต ขณะที่คุณแม่ดูซีรีย์เกาหลีได้ แถมจะเลือกดูที่ไหน เวลาใดก็ได้ ดูไม่จบดูต่อได้ไม่ต้องเริ่มใหม่ เพียงแต่มี “อินเตอร์เน็ต”

Must Read : 12 การ์ตูน Netflix สำหรับเจ้าตัวเล็ก

Must Read :รวมหนังดี สารคดีน่าดู ซีรีส์ netflix คัดเฉพาะสำหรับคุณแม่

เมื่อลูกเข้าถึงเนื้อหาและเลือกดูเองได้อย่างอิสระ ทำให้พ่อแม่หลายบ้านกังวลว่า สิ่งที่ลูกกำลังดูเหมาะสมกับวัยหรือไม่ กลัวว่าลูกดูเนื้อหารุนแรง ดูต่อเนื่องมากเกินไป หรือแอบเข้าไปดูหนังของคุณพ่อคุณแม่โดยไม่ตั้งใจ แล้วแบบนี้จะป้องกันอย่างไรดี

Parental Control  เครื่องมือดูแลลูก ดูNetflix อย่างปลอดภัย

การตั้งเงื่อนไขก่อนที่จะให้ลูก ดูNetflix  เป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้ลูกเรียนรู้ข้อตกลงและป้องกันปัญหาจากการชมสื่อไม่เหมาะสมซึ่งดีกว่าการ “ห้าม” “ต่อว่า” ที่ทำได้ยากกว่ามาก Parental Controlเป็นฟีเจอร์ที่ Netflix ออกแบบให้เป็นเครื่องมือสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ใช้วางกฎเกณฑ์และควบคุมเนื้อหาให้เหมาะสมกับลูกแต่ละวัยผ่าน Browser www.netflix.com/browse จากทั้งคอมพิวเตอร์ และแท็ปเล็ต  (ไม่สามารถแก้ไขผ่านapplication) Amarin baby & Kids ได้รวบรวมวิธีใช้ Parental Control ทำตามกันง่ายๆ ดังต่อไปนี้

 

1. ตั้งโปรไฟล์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ

หลังจากคุณแม่สมัครสมาชิก Netflix แล้ว สามารถตั้งโปรไฟล์ให้ลูกโดยเฉพาะ ด้วยการกรอกอายุของลูก หากอายุไม่เกิน 7 ขวบ จะถูกจัดอยู่ในโหมด “มุมเด็ก”  ซึ่งในหมวดนี้จะมีเฉพาะเนื้อหาที่เหมาะกับวัยนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวี และภาพยนตร์ ขณะเดียวกันลูกยังสามารถเลือกเองได้ว่าจะดูเนื้อหาจาก “หมวด” ใด (กรณีมีลูกหลายคน สามารถแยกตั้งโปรไฟล์ของเด็กแต่ละคนได้)

 

2. ตั้งค่าการจำกัดการรับชม

Netflix จะแบ่งเรตติ้งเป็น 5 ระดับ ได้แก่ “ดูได้ทุกวัย” “ผู้ชมอายุ 7 ปีขึ้นไป” “ผู้ชมอายุ 13 ปีขึ้นไป”  “ผู้ชายอายุ 16 ปีขึ้นไป” และผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไป” แต่อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่พ่อแม่เห็นว่าไม่เหมาะกับลูก และอยากปิดกั้นออกไป ก็สามารถเข้ามาตั้งค่าการจำกัดการรับชม เพิ่มได้ด้วยตัวเอง

โดยเข้าไปที่ฟังก์ชั่น “บัญชี” เลือก “โปรไฟล์ของลูก” จากนั้นเลือก “การจำกัดการรับชม” คุณแม่สามารถคลิ๊กเลือกเรตติ้งเนื้อหาที่เหมาะกับลูกได้เจาะลึกมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะตั้งโปรไฟล์ลูกเป็นเด็ก 7 ขวบ แต่คุณแม่เลือกให้ลูกดูเฉพาะเนื้อหาในเรตติ้ง “ดูได้ทุกวัย” ก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องดูตามวัยที่ระบุเท่านั้น

 

อ่านวิธีควบคุมเนื้อหาของ Netflix ให้เหมาะกับลูกแต่ละวัย หน้า 2

 

 

 

3. ระบุเนื้อหาที่ต้องการปิดกั้น

ในคำสั่ง “จำกัดการรับชม” ยังสามารถเลือกปิดกันเฉพาะเรื่องที่พ่อแม่ไม่อยากให้ดูได้ด้วยกรอกชื่อหนัง หรือการ์ตูน ลงในช่อง “จำกัดเนื้อหาสำหรับ…..”  สามารถกรอกได้ไม่จำกัดจำนวน หรือจะลบการปิดกั้นภายหลังก็ทำได้ เมื่อลูกเสิร์ชดูเนื้อหาดังกล่าวก็จะไม่ปรากฎขึ้นมา ฟีเจอร์นี้ช่วยตัดปัญหาการเข้าถึงเนื้อหาที่เหมาะสมได้ตั้งแต่เนิ่น

4. “ปิดการเล่นต่อเนื่องอัตโนมัติ” เพื่อจำกัดเวลา ดูNetflix

ถึงแม่จะเลือกประเภทเนื้อหาให้เหมาะกับลูกแล้ว แต่การปล่อยให้ลูกน้อยดูการ์ตูนต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดี นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังอาจกลายเป็นปัญหา “ลูกติดจอ” กระทบต่อพัฒนาการด้านอื่นๆด้วย ใน Netflix จะมีฟังก์ชั่น “เล่นต่อเนื่องอัตโนมัติ” เมื่อเรื่องที่ดูจบก็จะมีเรื่องใหม่ขึ้นให้ดูต่อ ซึ่งดีกับผู้ใหญ่

แต่ถ้าปล่อยให้ลูกดูต่อเนื่องแบบนี้ไม่ดีแน่ๆ คุณแม่สามารถปิดการเล่นอัตโนมัตินี้ได้ โดยเลือกคำสั่ง “จัดการโปรไฟล์” แล้วเลือก “โปรไฟล์ของลูก” จากนั้นดูที่คำสั่ง “การควบคุมการเล่นอัตโนมัติ”  ซึ่งสามารถเลือกลบ “การเล่นตัวอย่างตัวอย่างโดยอัตโนมัติ” หรือ “เล่นตอนถัดไปของซีรีส์” ได้

5. เช็กได้ตลอด ลูกดูเนื้อหาอะไรบ้าง?

ถึงพ่อแม่จะไม่สามารถนั่งเฝ้าหน้าจอพร้อมกับลูกได้ตลอดเวลา แต่ใน  Parental Control มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้รู้ได้ว่าแต่ละวันลูกดูอะไรบ้างได้ง่ายๆ ด้วยการเข้าไป “บัญชี” เลือก “โปรไฟล์ของลูก” แล้วเลือกดูที่ “กิจกรรมรับชม” ข้อมูลจะแสดงผลรายการที่ลูกเลือกดูทั้งหมดมาให้  และหากคิดว่าเนื้อหาใดไม่เหมาะสม สามารถแจ้งปัญหาพร้อมให้คำแนะนำได้  ประวัติการดูทั้งหมดนี้ ผู้ปกครองสามารถดาวน์โหลดเป็นเอกสารมาเก็บไว้ติดตามลูกได้

6. ตั้งรหัสส่วนตัวของพ่อแม่

เนื่องจากผู้ใช้ Netflix สามารถเลือกเปลี่ยนโปรไฟล์เป็นคนอื่นในครอบครัวได้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกเข้าโปรไฟล์ของคุณพ่อ คุณแม่ และอาจเข้าไปดูเนื้อหาที่ไม่เหมาะกับเด็กๆ จึงออกแบบฟังก์ชั่นให้ตั้งค่ารหัสส่วนตัวของแต่ละโปรไฟล์ได้ และต้องใส่รหัสก่อนเข้าใช้ทุกครั้ง ฟังก์ชั่นนี้จำกัดเฉพาะผู้ใหญ่ โปรไฟล์ของเด็ก ไม่สามารถล็อกได้

เลือก “บัญชี”  แล้วเข้า “โปรไฟล์พ่อหรือแม่”  เลือก “ล็อกโปรไฟล์”  จากนั้นใส่รหัส login Netflix แล้ว “ตั้งรหัสผ่าน 4 ตัว”

นอกจากดูแลการใช้สื่อของลูกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ควรทำ   คือ การใช้เวลาร่วมกันของคนในครอบครัว โดยเฉพาะช่วงโควิดที่ทุกคนได้อยู่บ้านกันมากขึ้น ควรจะโอกาสนี้หากิจกรรมอื่นๆ ทำร่วมกัน เช่น ทำอาหาร ปลูกผัก งานประดิษฐ์ทำความสะอาดบ้าน เล่นกีฬาในร่ม เพื่อพัฒนาทักษะรอบด้านของลูกน้อยแบบไม่ต้องรอเปิดเทอม

 

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

7 กิจกรรมเล่นกับลูก ได้จินตนาการ เสริมพัฒนาการลูกดีทุกด้าน

แนะ!12 กิจกรรมให้ลูกทํา สุดเจ๋ง เมื่อต้องอยู่บ้านหนีโควิด19+ปิดเทอมยาว

ส่อง “18 ดาราเลี้ยงลูก” อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ! วันๆ ทำอะไรกันบ้าง?