AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

การเลี้ยงลูก ให้ประสบความสำเร็จ พ่อแม่ต้องเป็นทีมเดียวกัน!!

Credit Photo : Shutterstock

การเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะหนึ่งหรือสองคนหากอยู่ภายใต้ครอบครัวเดียวกัน พ่อแม่ต้องสมัครสมานสามัคคีร่วมมือกันในทุกเรื่อง  เพื่อให้ลูกๆ ได้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งแน่นอนว่าพ่อแม่ควรเป็นทีมเดียวกันในการเลี้ยงลูก ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำแนะนำทำอย่างไรพ่อแม่ถึงจะเป็นทีมเดียวกันในการเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ มาฝากกันค่ะ

 

การเลี้ยงลูก ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องยาก

เคยตั้งคำถามกันไหมคะว่าถ้าวันนึงเรามีลูกเราอยากให้ การเลี้ยงลูก ของครอบครัวเราเป็นไปในแนวทาง หรือรูปแบบไหน เชื่อว่าไม่ว่าจะฝ่ายคนเป็นพ่อ หรือฝ่ายคนเป็นแม่ จะต้องมีบ้างที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันในบางเรื่อง

ผู้เขียนรู้จักกับครอบครัวนึงที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน พ่อแม่รักกันนะคะ แต่ก็ทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง ซึ่งเรื่องที่ได้ยินบ่อยๆ คือ พ่อไม่อยากให้ลูกเรียนกิจกรรมพิเศษในวันเสาร์ อาทิตย์ เพราะกลัวลูกเครียด และเหนื่อย แต่แม่อยากให้ลูกเรียนกิจกรรมพิเศษเพิ่ม เพื่อที่ลูกจะได้มีความถนัดเพิ่ม ถามว่าเหตุผลของทั้งพ่อกับแม่ครอบครัวนี้ผิดไหม ไม่ผิดค่ะ เพราะถ้ามองให้ลึกลงไปคือ ทั้งสองคนหวังดีกับลูก และอยากที่จะมอบสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตและอนาคตที่ดีของลูก

แต่จะดีกว่าไหมถ้าพ่อแม่ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงแนวทางของแต่ละคนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คุยถึงข้อดีข้อเสียและเลือกอย่างที่ดีที่สุดให้กับลูก พูดง่ายๆ คือ พ่อแม่ต้องมีความเป็นทีมเดียวกัน เพราะตอนนี้ยังเหมือนกับว่าอยากให้ลูกทำอะไรตามใจฉันมากกว่าจะถามความสนใจจริงๆ ของลูก ถ้าพ่อแม่มีความขัดแย้งกันถ้าจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ลูกเกิดความสับสนในใจขึ้นมาได้ว่า ตกลงจะเชื่อพ่อหรือแม่ดี

บทความแนะนำ คลิก>> ข้อคิดดีๆ ในการเลี้ยงลูกของพ่อกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ กับ น้องชูใจ

งงไหมคะพอบอกว่า “พ่อแม่ต้องทีมเดียวกันในการเลี้ยงลูก” เชื่อว่าพ่อแม่ในอีกหลายๆ ครอบครัวยังไม่เข้าใจถึงวิธีการเลี้ยงลูกทีมเดียวกัน ว่าต้องทำ ต้องเริ่มยังไง ไม่ยากค่ะขอแค่สละเวลาเพียงเล็กน้อย แล้วอ่านคำแนะนำที่นำมาให้นี้กันค่ะ

อ่านต่อ เลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ พ่อแม่ต้องเป็นทีมเดียวกัน หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

พ่อแม่ควรเป็นทีมเดียวกันในการเลี้ยงลูก

อย่างที่เกริ่นไปค่ะว่า การเป็นทีมเดียวกันของพ่อแม่นั้นสำคัญมากๆ สำหรับการเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ แต่พ่อแม่จะเป็นทีมเดียวกันยังไง ต้องปรับ ต้องเตรียมอะไรบ้าง ผู้เขียนขออนุญาตส่งต่อคำแนะนำดีๆ ในเรื่องนี้จากคุณหมอภา ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าถ้าพ่อแม่ได้อ่านแล้ว จะเข้าใจถึงความเป็นทีมเดียวกันอย่างแน่นอนค่ะ

พ่อแม่ทะเลาะกัน หรือทีมเดียวกัน ความรู้สึกถูกเปรียบเทียบ ต้องแข่งขัน สำคัญมากกับทัศนคติของเด็กๆจง”สร้างบรรยากาศในบ้าน” ให้ทุกคนร่วมมือกัน ไม่ใช่แข่งขันกัน ต้องไม่ใช่บรรยากาศที่ แม่ถูกเสมอ พ่อผิดตลอดอันนี้ต้องเชื่อพ่อ อย่าเชื่อแม่นะ ดูพี่สิ พี่เค้าเก่ง ไม่งอแงเลย เห็นมั้ย น้องตั้งใจ หนูไม่เห็นตั้งใจแบบน้องเลย นี่คือบรรยากาศของการแข่งขัน เปรียบเทียบ !!

ตอนเล็กๆ ลูกหมอทั้ง 2 คนจะได้ฟังนิทาน ทีมเดียวกัน

คนเราเกิดและโตมาจากเรือคนละลำ วันนึง เมื่อเรือ2 ลำ มาเจอกัน คน 2 คน จึงซื้อเรือลำใหม่ และตัดสินใจมาอยู่ด้วยกันในเรือ หลังจากนั้น 2 คน เริ่มมีเจ้าตัวเล็ก

หมอมักบอกลูกว่า เมื่อทุกคนอยู่ในเรือลำเดียวกันต้องช่วยเหลือกันทำให้เรือล่องไปข้างหน้าได้อย่างดี เพราะบางทีอาจมีคลื่นระหว่างทางลูกบอกว่า หรือมีสัตว์ร้าย เราต้องช่วยกันต่อสู้ เรือรั่ว ก็ต้องช่วยกันอุด อันนี้ ลูกจินตนาการ เริ่มเกิดความรู้สึกสนุกอินตามเรื่อง ทุกคนในบ้าน ต้องมองไปข้างหน้าเหมือนกันพ่อแม่ พูดคุยตกลงทิศทางการเดินไปข้างหน้ากัน พูดคุยแนวทางการดูแลลูกให้เหมือนกันเด็กๆ ก็ช่วยเหลือในสิ่งที่เด็กๆทำได้ เช่น

ใครสำเร็จเรื่องอะไร ก็ชื่นชมความสำเร็จร่วมกัน เหมือนความสำเร็จนั้น เป็นของเราทุกคน การทำให้บรรยากาศในบ้านเป็นบรรยากาศของการร่วมมือกัน ไม่ใช่การแข่งขันหรือเปรียบเทียบ

หมอเชื่อว่า เด็กๆ จะรู้สึกอบอุ่น รู้สึกมีทิศทาง รู้สึกมีเพื่อนที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน แล้วการก้าวไปข้างหน้าของบ้านเราก็จะง่ายขึ้นอีกด้วย ถ้าทุกคนช่วยเหลือกันทำให้มันดีบ้านก็จะมีความสุข

พึงระวังตรงนี้ให้ดี !!

การทำให้เด็กๆ เกิดความรู้สึกเปรียบเทียบ แข่งขัน เป็นทัศนคติที่ปลูกฝังเด็ก ให้ “รู้สึกถึงความขาด” การต้อง แก่งแย่ง แข่งขัน เพื่อให้ได้มา ซึ่งเป็นทัศนะการมองโลกที่ไม่ถูกต้อง !! “เราต้องทำให้เด็กๆ รู้สึกว่า โลกนี้อุดมสมบูรณ์ไม่จำเป็นต้องแย่ง ต้องแข่งกับใคร ไม่จำเป็นต้องไปดึงใครลง เพื่อให้เราก้าวหน้าขึ้น เราสามารถ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมาได้ ด้วยตัวเราเอง เราสามารถก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ มีความสุขอย่างแท้จริงได้ด้วยการพัฒนาตัวเราให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน

สำคัญที่สุดคือ การโฟกัสที่ตัวเรา แทนที่จะมองหรือเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะทำให้เรามีสมาธิ มีเวลามอง จุดเด่นของเรา และมีเวลาพัฒนาตัวเราได้มากกว่า การพัฒนาตัวเรา นับทุกความสำเร็จแม้ก้าวเล็กๆ ของเรา ไปพร้อมกับการสอนให้ลูกรู้สึกชื่นชมยินดีกับความสำเร็จของคนอื่นจะทำให้ลูกมีทัศนคติที่ถูกต้อง ก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ง่ายที่สำคัญลูกจะมีความสุข สงบใจจากภายในอย่างแท้จริง

ทีมเดียวกัน ในบ้าน เป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังทัศนคติที่ใช่ เมื่อเติบโตไปสู่โลกกว้างที่สังคมอาจสอนทัศนคติ แข่งขันเปรียบเทียบให้กับเด็ก เด็กจะมีความแข็งแกร่งจากภายใน ไม่เดินไปผิดทิศทางค่ะ

มาทำให้ทุกคนในบ้าน ช่วยกันพายเรือไปข้างหน้า อย่างมีความสุขกันนะคะ

ทีมเดียวกันสำคัญมาก จำให้ขึ้นใจ หลักคิดบ้านติดปีก คือเรื่อง  “ความสุข ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน” ทำตรงนี้ให้ได้ จะเป็นกุญแจไขไปสู่ทุกสิ่ง

วันก่อนหมอเพิ่งอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง สนับสนุนเรื่องนี้ เขาบอกว่า

 “ความสัมพันธ์ที่ดีจะสนับสนุนให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ง่าย ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่จะบั่นทอน ดูดพลังงานและทำให้เราห่างไกลหรือไปถึงเป้าหมายของเราได้ช้าลง”  

เมื่ออยู่ทีมเดียวกันแล้ว จะขึ้นเรือหรือนั่งรถ จะไปยังไง ก็สุขใจและไปได้ไกลแน่นอน

บทความแนะนำ คลิก>> 13 วิธีเลี้ยงลูกอย่างสร้างสรรค์

อ่านคำแนะนำจากคุณหมอแล้ว คุณพ่อคุณแม่คิดเหมือนผู้เขียนไหมคะว่า เราในฐานะพ่อแม่สำคัญมากๆ ที่ต้องเล่นบทบาท ให้เป็นทีมเดียวกัน พูดเหมือนกันในแนวทางเดียวกัน และไม่ทะเลาะ หรือขัดแย้งกันในการเลี้ยงและอบรมสั่งสอนลูก  เพราะไม่เช่นนั้นแทนที่จะส่งเสริมให้ลูกมีต้นทุนชีวิตเพื่อให้ประสบความสำเร็จในอนาคต อาจกลายเป็นทำให้ลูกล้มเหลวในชีวิตแทนก็เป็นได้ค่ะ

อ่านต่อ 4 เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้มีความสุข หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

4 เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้มีความสุข

มีคำถามจากแฟนๆ ผู้อ่านถามมาว่า “อยากเลี้ยงลูกให้มีความสุข” ควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดี? ความสุขในที่นี้คือ “ลูกมีความสุข”

พญ.นลินี เชื้อวณิชชากร กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม ได้ให้เคล็ดลับการเลี้ยงลูกให้มีความสุข ไว้ดังนี้…

1. สร้างให้เป็นนิสัย – เป็นคนสุขง่าย

วิธีที่ลูกจะเป็นคนที่มีความสุขได้อย่างยั่งยืน คือ การพัฒนาให้เป็นคนที่มีความสุขง่ายๆ จนติดเป็นนิสัย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ทำได้ด้วยการช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จกับสิ่งที่เขาทำ (ไม่ใช่ล้มเหลวตลอดเวลา) โดยเวลาที่เขาเล่น หรือเผชิญกับปัญหาอะไรในชีวิตประจำวัน แทนการเข้าไปช่วยคิดช่วยทำแทน คุณพ่อคุณแม่ควรกระตุ้นให้เขาคิดด้วยตัวเองก่อน และช่วยสนับสนุนเขาโดย

2. ปลูกฝังให้ลูกมีวินัยในตนเอง

สิ่งสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่ความฉลาด แต่เป็น “วินัยในตนเอง” ของคนๆ นั้น ซึ่งเด็กที่มีวินัยในตนเอง คือ เด็กที่รอคอยได้ รับมือกับความคับข้องใจหรือความเครียดได้ เป็นคนที่รับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม โดยคุณพ่อคุณแม่เริ่มได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก ฝึกให้เขารอ โดยใช้การนับ ไม่ยอมตามใจเขาเพียงเพราะเขางอแงอาละวาดเวลาไม่ได้ดั่งใจ สร้างกฎกติกาว่าลูกจะได้ของพิเศษที่นอกเหนือจากของใช้ที่จำเป็นในโอกาสใดบ้าง ไม่ใช่จะได้ทุกครั้งที่ต้องการ ฝึกมารยาทสังคมเบื้องต้นเวลาออกไปนอกบ้าน เช่น เข้าคิว ไม่ส่งเสียงดังในที่สาธารณะ ไม่ทิ้งขยะลงพื้น (โดยหวังว่าคนอื่นจะให้อภัยเพราะว่ายังเด็ก) รักษาของที่ใช้ร่วมกับคนอื่นไม่ทำเสียหาย หรือถ้าทำก็แสดงความรับผิดชอบ เช่น ไม่กดลิฟท์เล่น ไม่ขีดเขียนตามกำแพง เป็นต้น

3. เพิ่มเวลาเล่นอิสระให้กับลูก

พบว่าเด็กยุคนี้มีเวลาเล่นน้อยลงกว่ายุคก่อนๆ เพราะมัวแต่ใช้เวลาหน้าจอ หรือคร่ำเคร่งเรียนและกวดวิชา หรือทำกิจกรรม พิเศษต่างๆ โดยยังไม่ถึงวัยอันควร เด็กจำนวนมากขาดโอกาสได้เล่นอิสระที่เด็กสร้างสรรค์เอง และเล่นร่วมกับเพื่อนๆ ทั้งๆ  ที่การเล่นอิสระโดยไม่ต้องติดกรอบหรือทำตามที่ผู้ใหญ่สั่ง เป็นการฝึกฝนทักษะเบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับเขา โดยเฉพาะ อย่างยิ่งพัฒนาการด้านสติปัญญา สังคมและอารมณ์ของเด็ก ที่โทรทัศน์ หรือคอมพิวเตอร์ไม่สามารถสอนหรือปลูกฝังได้

หากอยากให้ลูกมีความสุขและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข คุณพ่อคุณแม่ต้องยอมลงทุนเพิ่มเวลานี้ให้กับลูก ยอมตัดใจ และข่มใจที่จะไม่ทำตามกระแสคนรอบข้างที่พาลูกไปเรียนพิเศษตามที่ต่างๆ มากมายค่ะ

4. สร้างสิ่งแวดล้อมเพื่อต้อนรับความสุข (ให้เข้ามาในชีวิตของเรา)

หากอยากให้ความสุขอบอวลอยู่ในบ้านและครอบครัว  คุณพ่อคุณแม่จะต้องอาศัยทั้งเวลาและความพยายาม โดยต้องทั้ง สร้างสิ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่และลูกมีความสุข คือ หากิจกรรมทำร่วมกันในครอบครัว และกำจัดอุปสรรคที่จะทำให้ สมาชิกในครอบครัวไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งมักจะเป็นโทรทัศน์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไอโฟน ไอแพ็ด ที่มาดึงให้ สมาชิกในครอบครัวอยู่ในโลกของตนเอง

ทั้งนี้ กิจกรรมที่ควรทำร่วมกันในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ คือ การได้อยู่พร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร ได้กินข้าวมื้อเย็นร่วมกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนสิ่งที่สมาชิกแต่ละคนไปทำในช่วงกลางวัน และสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก

เอาเป็นว่าทุกเรื่องที่อยากสนับสนุนส่งเสริมลูก ขอให้พ่อแม่หันหน้าเข้าหากัน ปรึกษา ศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้ละเอียด ดึงเอาข้อดี ข้อเสียที่ลูกจะได้รับ แล้วค่อยตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งที่ดีที่สุด แล้วค่อยส่งต่อให้ลูกกันนะคะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย 

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก

กุมารแพทย์แนะ“งด” เลี้ยงลูกด้วยมือถือ และจอทุกชนิดในเด็ก 2 ขวบปีแรก
เลี้ยงลูก แบบโบราณกับสมัยใหม่ แบบไหนดีกว่ากัน?


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คุณหมอภา เพจหมอภา/Jeerapa prapaspong
พญ.นลินี เชื้อวณิชชากร กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม นิตยสาร Amarin Baby & Kids