ยาสำหรับเดินทาง เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับการพาลูกไปเที่ยว เพราะเราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นการจัดเตรียมยาให้พร้อม จะช่วยให้คุณแม่อุ่นใจเมื่อต้องเดินทางไกล
เช็คลิสต์! ยาสำหรับเดินทาง พาลูกเที่ยว พกยาอะไรบ้าง?
เมื่อแม่ต้องจัดกระเป๋าเพื่อพาลูกเที่ยว สิ่งสำคัญที่คุณแม่ห้ามลืมคือ ยาสำหรับเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อต้องไปในสถานที่ที่หาซื้อยาได้ลำบาก หรือ เมื่อลูกมีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถหาซื้อยาได้จากร้านขายยาทั่วไป เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถคาดเดาถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทางได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการป่วยหรืออุบัติเหตุต่าง ๆ ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่จัดเตรียมยาให้พร้อม และหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็จะมียาเพื่อบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจได้มากขึ้นเมื่อต้องเดินทางไกล
ยาสำหรับเดินทาง ที่จำเป็นสำหรับเด็กมีอะไรบ้าง?
-
ยาแก้ปวด ลดไข้
แนะนำเป็นยาน้ำพาราเซตามอล (paracetamol) ยานี้จัดว่าเป็นยาสามัญประจำบ้าน มีความปลอดภัยค่อนข้างสูงหากใช้ตามปริมาณที่กำหนด คุณพ่อคุณแม่สามารถหาซื้อได้จากร้านขายยาทั่วไป ตามร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน แต่ข้อควรระวังในการใช้ยาพาราเซตามอลคือปริมาณยาจะต้องเหมาะสมกับน้ำหนักตัวของลูก โดยปริมาณหรือขนาดยาที่จะให้แต่ละครั้งก็คือ ตัวยาพาราเซตามอลปริมาณ 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวเด็ก 1 กิโลกรัม ไม่ว่าเด็กจะมีอายุเท่าใดก็ควรทานยาตามน้ำหนักตัวเท่านั้น และควรทานทุก ๆ 4-6 ชั่วโมงหรือเมื่อมีอาการ (อ่านต่อ วิธีการคำนวณปริมาณยาให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวในเด็ก)
2. ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก
การที่จะต้องไปอยู่ต่างถิ่น ทั้งอากาศ และอาหารการกินมักจะไม่เหมือนที่อยู่ที่บ้าน ลูกน้อยจึงมีโอกาสเกิดอาการแพ้ได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการจาม น้ำมูกไหล อาการคัน ผดผื่น ลมพิษขึ้น ยาแก้แพ้จึงเป็นยาที่สำคัญอันดับต้น ๆ ที่ควรพกเมื่อเดินทางด้วย
3. ยาแก้ไอ บรรเทาอาการไอ
เช่นเดียวกับการเตรียมยาแก้แพ้ คือเมื่อมีอาการแพ้ อาจจะทำให้ลูกน้อยไอได้ ทั้งไอแบบมีเสมหะและไอแบบไม่มีเสมหะ โดยยาน้ำแก้ไอ ละลายเสมหะสำหรับเด็กที่เหมาะสม คือมีตัวยาคาร์โบซิสเตอีน เช่น Amicof, Carbomed, Carsemex, Elflem, Flemex, Rhinathiol, Siflex (อ่านต่อ ยาแก้ไอ เด็ก ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย)
4. ยาลดกรด ขับลม แก้ท้องอืด
ได้แก่ simethicone เป็นยาที่ปลอดภัยในเด็ก ช่วยลดการเกิดฟอง ใช้บรรเทาอาการท้องอืด เนื่องจาก มีแก๊สมากในกระเพาะอาหารและลำไส้ ปริมาณยา simethicone ที่เหมาะสมกับอายุได้แก่
- อายุต่ำกว่า 2 ปี : 20 มก./ครั้ง วันละ 4 ครั้ง หรือ เมื่อมีอาการ
- อายุ 2-12 ปี : 40 มก./ครั้ง วันละ 4 ครั้ง หรือ เมื่อมีอาการ
อ่านต่อ แก้ปัญหาลูกน้อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง เลือกยาตัวไหนให้ลูกดี?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ เช็คลิสต์! ยาสำหรับเดินทาง พาลูกเที่ยว พกยาอะไรบ้าง?
เช็คลิสต์! ยาสำหรับเดินทาง พาลูกเที่ยว พกยาอะไรบ้าง?
5. ยาแก้คลื่นไส้ อาเจียน
เมื่อต้องขึ้นรถลงเรือ เด็กบางคนอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อยากที่จะอาเจียน ยาที่นิยมใช้ในเด็ก ได้แก่ domperidone มีคุณสมบัติในการยับยั้งการทำงานของตัวรับสารสื่อ ประสาท โดปามีน (dopamire receptor antagonist) เนื่องจากยาถูกดูดซึมได้ดี และถูกเปลี่ยนแปลงทางร่างกายได้เร็ว จึงเหมาะที่จะใช้ ในคนแก่ หรือเด็กเล็ก ขนาดยาที่ใช้ (syrup 5 มก./5 มล.)
- เด็ก : 0.2-0.4 mg/kg/dose ทุก 4-8 ชม.
6. เกลือแร่แก้ท้องเสีย ท้องร่วง
การเดินทางไปสถานที่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่บ้านของตน ในบางครั้งอาจเลือกกินไม่ได้ จึงอาจทำให้ลูกน้อยมีอาการท้องเสียจากแพ้อาหาร อาหารเป็นพิษ หรือติดเชื้อไวรัสที่ทำให้ท้องเสียได้ง่าย แต่เพราะอาการท้องเสียเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยขับเชื้อโรคที่เป็นภัยออกจากร่างกาย จึงไม่ควรให้ลูกน้อยใช้ยาแก้ท้องเสีย อีกทั้งองค์การอาหารและยายังไม่มีการรับรองยาที่ใช้สำหรับทารกที่มีอาการท้องเสีย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจบรรเทาอาการและช่วยให้ลูกน้อยสบายตัวขึ้นได้โดยการให้ดื่มผงเกลือแร่ เพราะอาการท้องเสียอย่างรุนแรงจะทำให้เด็กสูญเสียของเหลวและเกลือแร่ในร่างกายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะขาดน้ำตามมา
อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ควรเตรียมไปด้วย
- ช้อนตวง หรือ ไซริงค์สำหรับป้อนยาลูก
- น้ำเกลือล้างจมูก ขวดเล็กหรือขวดใหญ่ (ตามปริมาณที่ใช้ตลอดการเดินทาง) หรือจะพกเป็นซองน้ำเกลือล้างจมูก แล้วนำไปละลายกับน้ำสะอาดเมื่อต้องการใช้ก็ได้เช่นกัน
- พลาสเตอร์ยา
- ยาที่ใช้ทาภายนอก เช่น ยาทาแก้ผดผื่น ยาทาหลังยุงกัด ยากันยุง แอลกอฮอล์ล้างแผล เป็นต้น
นอกจากนี้ ก่อนที่จะหยิบยาเข้ากระเป๋า อย่าลืมอ่านฉลากยาที่จะนำไปให้ละเอียด ดูถึงปริมาณยาที่ลูำกต้องทาน วันหมดอายุ และวิธีการเก็บรักษายา เพราะการเก็บรักษายาที่ผิดวิธี ก็อาจทำให้ยาเสื่อมประสิทธิภาพในการรักษาได้
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ลูกชอบอมมือ-เอามือเข้าปาก พรากชีวิตลูกได้จากโรคท้องเสียในเด็ก
แพ้อาหาร ภัยเงียบที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ไข้หวัดธรรมดา ไซนัสอักเสบ ภูมิแพ้ แตกต่างกันอย่างไร?
รวมข้อควรรู้ การเตรียมตัว เมื่อต้อง พาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก
ขอบคุณข้อมูลจาก : บทความพิเศษจาก วารสารกุมารเวชศาสตร์ มกราคม – มีนาคม 2556,
Pobpad, www.gedgoodlife.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่