เด็กติดโควิด-19 เพิ่ม เตือนพ่อแม่ระวัง อย่าพาเชื้อเข้าบ้าน

แม่ยูมิ

5 years ago

โควิด-19 ไม่ได้รักเด็กอีกต่อไป หลังจากเริ่มมีข่าว เด็กติดโควิด-19 เพิ่มขึ้น จากเคสแรก เด็ก 8 ขวบติดจากปู่ย่า ต่อมาไม่นานเด็ก 6 เดือนติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ซึ่งเป็นเคสที่อายุน้อยที่สุดในไทย และในยามที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในบ้านเรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ เชื้อได้มีการแพร่กระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ก็ทำให้พบ เด็กติดโควิด-19 เพิ่มที่โคราชอีก 2 รายค่ะ

โดยล่าสุด (26 มี.ค. 2563) ได้มีการรายการสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด –19 ในจังหวัดนครราชสีมา พบผู้ป่วยเพิ่ม 4 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 ขวบ 2 เดือน ติดจากญาติ และอีกเคสหนึ่งเป็นเด็ก 9 ปี ติดเชื้อจากแม่ที่กทม.

จะเห็นได้ว่า ในเด็กเล็ก แม้เราจะให้เขาอยู่แต่ในบ้าน เขาก็ยังสามารถได้รับเชื้อจากผู้ใหญ่ที่ยังเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะไปทำงาน หรือไปทำธุระ จับจ่ายใช้สอยของจำเป็นเข้าบ้านก็ตาม แม้จะใส่หน้ากาก หรือพกแอลกอฮอล์ล้างมือ ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้ใหญ่ที่ออกนอกบ้าน จะไม่พาเชื้อเข้าบ้าน มาติดลูกหลานที่ยังมีภูมิต้านทานไม่เท่าผู้ใหญ่

ทีมแม่ ABK จึงมีคำแนะนำดีๆ ให้บ้านนี้ปลอดเชื้อโควิด-19 ต้องเริ่มต้นที่พ่อแม่ มาร่วมมือกันดูแลตัวเองเพื่อคนที่คุณรัก ป้องกัน เด็กติดโควิด-19 กันเถอะ

เมื่อจำเป็นต้องออกนอกบ้าน

วางแผนก่อนออกจากบ้าน ทำรายการกิจกรรมที่ต้องออกไปทำ เช่น รายการสถานที่ที่ต้องไป ของที่ต้องซื้อ
วัดอุณหภูมิร่างกายก่อนออกจากบ้าน
สวมหน้ากาอนามัย / หน้ากากผ้าทุกครั้ง ไม่สวมนาฬิกา เครื่องประดับ เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
พกเจลล้างมือ / สเปรย์แอลกอฮอล์
ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก หรือใบหน้า
สวมชุดคลุม หากผมยาวควรใส่หมวก
หากไปซื้อของเลือกเวลาและสถานที่ที่คนไปน้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟท์
รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร
รีบไปรีบกลับ

อ่านต่อ วิธีป้องกันโควิด-19 เมื่อกลับมาถึงบ้าน คลิกหน้า 2

เมื่อกลับมาถึงบ้าน

ทำความสะอาดและกำจัดเชื้อโรคภายในรถด้วยแอลกอฮอล์
ถอดรองเท้านอกบ้าน ไม่ใส่เข้าบ้านโดยเด็ดขาด
หากสวมชุดคลุม แขวนไว้นอกบ้าน
ทิ้งหน้ากากอนามัยในถังที่ปิดมิดชิดนอกบ้าน
หากมีหน้ากากผ้าที่ต้องการทำความสะอาดแล้วใช้ซ้ำให้เก็บไว้นอกบ้าน
ล้างมือด้วยสบู่ / เจล ก่อนเปิดประตูบ้าน
ไม่นั่งเก้าอี้ หรือโซฟาในบ้าน ก่อนอาบน้ำ
ทำความสะอาดกระเป๋า โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา กุญแจ ด้วยการฉีดพ่นแอลกอฮอล์
ถอดเสื้อฟ้าแยกจากเสื้อฟ้าที่ใส่ในบ้าน เพื่อแยกซัก
การซักเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ใช้ผงซักฟอกได้ตามปกติ หรืออยากให้มั่นใจยิ่งขึ้นสามารถซักด้วยน้ำร้อน อุณหภูมิ 60-90 องศาเซลเซียสได้
อาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ให้สะอาดปลอดเชื้อก่อน จะได้เล่นกับลูกอย่างสบายใจไร้กังวล
คิดถึงลูกแค่ไหน อย่าเพิ่งรีบเข้าไปหอม กอด เล่นกัน เพราะตัวคุณพ่อคุณแม่อาจมีเชื้อโรคติดอยู่ เมื่อลูกสูดดมเข้าไปอาจติดเชื้อได้ทันที

เมื่ออยู่บ้าน

ล้างมือถูสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร
หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก
เมื่อไอหรือจามควรใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปาก จมูก แล้วนำไปทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด
วันที่มีแดด ให้เปิดหน้าต่างบ้าน เพื่อระบายให้อากาศถ่ายเท
กินอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลางส่วนตัวเมื่อรับประทานอาหารร่วมกัน
ทำความสะอาดบ้าน และกำจัดเชื้อโรค ทุกครั้งที่มีคนเข้า-ออกบ้าน โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องมีการสัมผัสบ่อยครั้ง เช่น ลูกบิด มือจับประตู ห้องน้ำ โถส้วม หัวฉีดชำระ กระเป๋า พื้นผิวโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ราวจับ สวิตช์ไฟ พื้นและพื้นผิวครัว ก๊อกน้ำ รีโมท กุญแจ โทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ค
พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัวให้แข็งแรง ให้กำลังใจคนในครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกัน เมื่ออยู่บ้าน ติดต่อสื่อสารให้กำลังใจญาติ พี่น้อง พ่อแม่ที่อาศัยอยู่ต่างที่กัน ผ่านทางโทรศัพท์ ไลน์
ตรวจสอบสุขภาพ วัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน หากพบว่ามีไข้ อุณหภูมิมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับอาการทางเดิน
หายใจ เช่น ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย ให้ไปพบแพทย์ โดยแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือแจ้ง 1669
ดูรายชื่อโรงพยาบาล และเกณฑ์ที่เข้าข่ายตรวจฟรี

เชื่อว่าไม่มีคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนหรอกค่ะ ที่อยากพาเชื้อโรคเข้าบ้าน แต่อาจมีบางข้อที่นึกไม่ถึง ฉะนั้น Checklist ข้างต้นนี้สามารถช่วยคุณและครอบครัวได้ และที่สำคัญ ควรทำตามให้ได้ทุกข้อ เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่คุณรักนะคะ