การเลี้ยงลูกแบบพ่อแม่ชาวเยอรมัน เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่สุดยอดเหมือนกันค่ะ สำหรับคนเยอรมันแล้วเขาจะมีแนวทางในการเลี้ยงลูกแบบให้อิสระ และก็จะให้ความสำคัญกับการสอนให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง รู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีแนวทาง 5 อย่างในการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ชาวเยอรมันมาบอกกันค่ะ
การเลี้ยงลูกแบบพ่อแม่ชาวเยอรมัน
อยากทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่า การเลี้ยงลูกแบบพ่อแม่ชาวเยอรมัน เขามีการเลี้ยงดูลูกกันอย่างไร ซึ่งแนวทางการเลี้ยงลูกแบบพ่อแม่ชาวเยอรมัน จะเหมือนหรือแตกต่างจากของไทยอย่างไรบ้าง ทั้งนี้สภาพสังคมและระบบการศึกษาของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกัน บางอย่างอาจเป็นเรื่องที่ดูแล้วไม่ปลอดภัยหรือไม่เหมาะสมในสังคมหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่อีกสังคมยอมรับได้ไปซะอย่างนั้น อย่างไรก็ตามเด็กๆ ชาวเยอรมันนั้นได้ชื่อว่าเป็นเด็กนักเรียนที่เก่งและจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของการวัดระดับการศึกษาเลยทีเดียว
บทความแนะนำ คลิก>> การเลี้ยงลูกในโลกยุคไอที ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
หลายๆ คนคงคิดว่าพ่อแม่ชาวเยอรมันนั้นจะต้องเข้มงวดกับลูก แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่ชาวเยอรมันนั้นให้อิสระกับลูกมาก และให้ความสำคัญกับการสอนให้เด็กเป็นตัวของตัวเองและรู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ พวกเขาให้เด็กๆ ได้มีโอกาสที่จะตัดสินใจด้วยตัวเองและเติบโตขึ้นมาอย่างมีความเชื่อมั่น แนวคิดหลักของพ่อแม่ชาวเยอรมัน มีดังนี้
อ่านต่อ 5 แนวทางการเลี้ยงลูกของคนเยอรมัน หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
5 แนวทาง การเลี้ยงลูกของพ่อแม่ชาวเยอรมัน
1. ไม่เร่งให้ลูกอ่านหนังสือ
โรงเรียนอนุบาลที่ประเทศเยอรมันยังไม่สอนให้เด็กอ่านหนังสือค่ะ โดยจะให้เด็กเริ่มอ่านหนังสือเมื่อเข้าชั้นประถม ช่วงอนุบาลจะเน้นการเล่นและฝึกทักษะด้านการเข้าสังคมให้กับเด็กๆ มากกว่า แม้กระทั่งชั้นประถมต้นก็ยังไม่เน้นเรื่องวิชาการ โดยเด็กๆ ประถมต้นจะได้เรียนเพียงครึ่งวัน โดยมีช่วงพักเพื่อออกมาทำกิจกรรมด้านนอกถึง 2 คาบ แม้ว่าโรงเรียนในเยอรมันจะเน้นการเล่นและกิจกรรม แต่จากการทดสอบขององค์กรการศึกษาชั้นนำ ผลการเรียนของนักเรียนชาวเยอรมันอายุ 15 ปี ในวิชาการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ นั้นมีคะแนนสูงเกินค่าเฉลี่ย เมื่อเทียบกับนักเรียนจากประเทศอื่นๆ
2. ปล่อยให้เด็กเล่นกับไฟ (แต่ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ด้วยค่ะ)
พ่อแม่ชาวเยอรมันให้ลูกทดลองเล่นกับไฟและจุดประทัดในคืนวันปีใหม่ได้ ตราบใดที่ตรวจสอบความปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้การได้ทดลองจุดและควบคุมไฟยังอยู่ในหลักสูตรของการเรียนชั้นประถมของบางโรงเรียนอีกด้วย
3. เด็กๆ สามารถไปไหนมาไหนคนเดียว
เด็กชั้นประถมที่ประเทศเยอรมันสามารถเดินไปโรงเรียนเองคนเดียวได้แล้ว แถมบางครอบครัวยังให้ลูกขึ้นรถไฟใต้ดินไปโรงเรียนเองด้วยซ้ำ แต่นั่นเป็นเพราะที่ประเทศเยอรมันนั้นปลอดภัยมาก การลักพาตัวเด็กหรือเด็กหายนั้นแทบจะไม่มีเลย พ่อแม่ชาวเยอรมันจึงกังวลแค่เรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนเท่านั้นค่ะ
4. จัดงานปาร์ตี้รับเปิดเทอม
ชาวเยอรมันให้ความสำคัญกับ 3 เหตุการณ์ต่อไปนี้มาก โดยจะจัดงานฉลองใหญ่ให้กับทั้ง 3 เหตุการณ์เลยค่ะ
1) วันที่ลูกเข้าชั้นป.1
2) วันที่ลูกเริ่มโต (อายุ 14 ปี)
3) วันที่ลูกแต่งงาน
แต่ละครอบครัวจะจัดงานปาร์ตี้ มีของขวัญ ของเล่น และขนมมากมาย สำหรับงานวันเปิดเรียนป.1 เด็กๆ จะได้อุปกรณ์การเรียนและของขวัญอื่นๆ เพื่อเป็นการบอกเด็กๆ ว่าถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง เด็กๆ จะเริ่มโตขึ้นมาอีกขั้น ไม่ใช่เบบี๋อย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว
ส่วนงานวันที่ลูกเริ่มโต จะจัดเมื่อลูกอายุ 14 ปี เด็กๆ จะได้ของขวัญและมีงานปาร์ตี้ภายในครอบครัว เพื่อเป็นการบอกเด็กๆ ว่าถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่สำคัญอีกครั้ง ลูกๆ จะเริ่มโตขึ้นและจะต้องรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการศึกษาหาความรู้และตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง
บทความแนะนำ คลิก>> แนวทางการเลี้ยงลูก ดีๆ แม้จะรวยแค่ไหน ก็ต้องเลี้ยงลูกแบบจน
5. พาลูกออกไปวิ่งเล่นข้างนอกทุกวัน
คนเยอรมันจะมีคำพูดว่า “ไม่มีวันที่อากาศไม่ดีหรอก มีแต่วันที่เราแต่งตัวไม่เหมาะกับอากาศเท่านั้น” ทุกโรงเรียนต่างก็รณรงค์เรื่องการเล่นนอกบ้านว่ามีผลดีกับเด็กอย่างไรบ้าง รวมทั้งที่ประเทศเยอรมันก็มีสวนสนุกดีๆ สำหรับเด็กอยู่ทั่วไปหมด พ่อแม่จึงสะดวกที่จะพาลูกๆ ไปทุกวัน ไม่ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหน คุณพ่อคุณแม่ก็จะพาลูกออกมาอยู่ดีค่ะ แถมบางครอบครัวยังให้ลูกเดินออกมาเองอีกด้วย
สำหรับประเทศไทยเราคงยังทำแบบชาวเยอรมันไม่ได้ เนื่องด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งเรื่องความปลอดภัยและสภาพแวดล้อม แต่เราสามารถปรับเอาแนวคิดเรื่องของการไม่เร่งให้ลูกเรียนจนเกินไป หรือการให้เด็กๆ รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองมาใช้ได้ค่ะ นอกจากนี้ยังได้เห็นมุมมองและแนวคิดของพ่อแม่ในสังคมที่แตกต่างจากเราอีกด้วยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
วิธีการเลี้ยงลูกอย่างชาญฉลาด ของ ‘เจ้าชายวิลเลียม’ ดยุกแห่งเคมบริดจ์ (อังกฤษ)
ต้นแบบอันทรงคุณค่า วิธีการเลี้ยงลูกของสมเด็จย่า ที่ควรนำมาเป็นแบบอย่าง
ที่มา: http://time.com/3720541/how-to-parent-like-a-german/