การแสดงความรักระหว่างพ่อแม่ลูก ที่ง่ายและสามารถทำได้ทุกวันนั่นก็คือการมอบอ้อมกอดให้กัน ภาษาสื่อรักทางกายด้วยกอดยังเป็นเหมือนยาวิเศษช่วยให้ลูกห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ และช่วยเพิ่ม EQ ความฉลาดทางอารมณ์ ทีมงาน Amarin Baby & Kids จะมาชวนคุณพ่อคุณแม่มา กอดลูก ทารก เพื่อเสริมความฉลาดทางอารมณ์ให้ลูกตั้งแต่ตอนที่พวกเขายังเป็นเด็กเล็กกันค่ะ
กอดลูก ทารก มีผลดียังไง?
หากพ่อแม่จะแสดงความรักด้วยการ กอดลูก ทารก ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย สังคมของครอบครัวไทยอาจไม่ชินกับการบอกรัก กอด หอมแก้ม เหมือนกับครอบครัวชาวต่างชาติที่เขาแสดงความรักด้วยการกอด จุ๊บแก้มกันจนเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก
การโอบกอดที่เป็นวัฒนธรรมเคยชินแบบฝรั่ง อาจจะไม่ชิดสักเท่าไหร่นักสำหรับครอบครัวไทย ที่ถ้าจะมีกอด มีหอมกันบ้างส่วนใหญ่จะเห็นว่าเป็นครอบครัวสมัยใหม่ที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ
นพ.ประกอบ ผู้วิบูลย์สุข ได้อธิบายถึงผลลัพธ์จากการที่พ่อแม่โอบกอดลูก ดังนี้ “การกอดหรือการสัมผัสทางกายเป็น 1 ใน 3 ทางรับรู้ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์นอกเหนือจากการมองเห็นและการได้ยิน การรับรู้ทางประสาทรับรู้เหล่านี้มีผลต่อ การเจริญพัฒนา และมีสุขภาพจิตที่ดีในอนาคต
เมื่อแรกเกิดสิ่งที่ทารกรับรู้ได้ง่ายที่สุดคือ การสัมผัส เพราะประสาทตาและหูยังไม่พัฒนาเต็มที่ การรับรู้ทางผิวหนังให้ ข้อมูลหลายอย่าง ทั้งความสุขและความเจ็บปวด เด็กเล็กๆนั้นไวต่อประสาทสัมผัสมากกว่าผู้ใหญ่ จากการที่เด็กเล็กๆ ไวต่อ การสัมผัส จึงมีการแนะนำให้มีการสัมผัสเด็กตั้งแต่แรกเกิด ไม่ว่าจะเป็นการลูบตัวเบาๆ หรือการกอด เพราะเป็นสื่อสัมพันธ์ ซึ่งจะบอกเด็กได้ถึงความอ่อนละมุน ความเอ็นดูเอาใจใส่และความรักที่แม่มีต่อลูก”[1]
การโอบกอดไม่ใช่เรื่องน่าเขินอาย หากใครจะมองว่าทำไมพ่อแม่ลูกครอบครัวนี้ชอบกอด ชอบหอมกันจัง ก็ขออย่าได้ใส่ใจกับสายตาที่ไม่เคยชินของคนรอบข้าง เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าการกอดเหมือนเป็นการให้วัคซีนยาวิเศษที่สามารถช่วย ปกป้องลูกให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นผู้เชี่ยวชาญยังสนับสนุนให้กอดตั้งแต่แรกเกิด ขณะให้นมลูก ยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะช่วยส่งเสริมให้ลูกมี EQ พัฒนาการด้านอารมณ์ที่ดีมากด้วยละค่ะ
อ่านต่อ เทคนิคช่วยแก้เขิน เมื่ออยากกอดลูก คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อยากกอดลูก แต่เขินจัง ทำไงดี?
จะว่าไปการโอบกอดเป็นสิ่งที่พ่อแม่สามารถแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใยได้อย่างง่ายมาก แต่ก็ยังมีพ่อแม่อีกมากที่บอกว่า การกอดยากนะ เขินด้วย ไม่ได้กอดมาตั้งแต่เด็ก พอลูกโตมาหน่อยอยากจะกอดก็ไม่กล้า กลัวถูกแซว กอดแล้วเดี๋ยวลูกวิ่งหนี!!
Must Read >> อย่าสร้างช่องว่าง กว้างกว่าอ้อมกอด
ในเมื่ออยากกอดก็ต้องได้กอดค่ะ ความรักจากพ่อแม่ไม่ใช่เรื่องน่าเขินอาย เพียงแต่ต้องทำให้ชินจนเป็นนิสัย เป็นพฤติกรรมที่ขาดไม่ได้ ซึ่งสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย[2] มีข้อแนะนำถึงเทคนิคง่ายๆ ช่วยลดความเขินจากการกอด ดังนี้…
- ให้คิดเสมอว่ากอดเป็นธรรมชาติของคนเรา เรากอดมาตั้งแต่เด็ก ฉะนั้น กอดดีกว่าไม่กอด ลองนึกง่ายๆ ถึงเวลาที่เราเป็นเด็กและพ่อแม่หรือคนที่เรารักมากอด เรารู้สึกอย่างไร?…อบอุ่น รับรู้ได้ถึงความรัก…คนที่เราจะกอดก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกัน
- ต้องลองกอดดูก่อนแล้วค่อยสังเกตปฏิกิริยาว่าเป็นอย่างไร แรกๆ ที่ฝึกกอดอาจถูกปฏิเสธ (โดยเฉพาะกับพ่อแม่ซึ่งห่างหายจากการกอดไปนาน หรือผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการกอด) ให้คิดว่าทุกคนก็ต้องการการกอดทั้งสิ้น เพราะการกอดเป็นการแสดงความรักที่ไม่ต้องใช้คำพูด ฉะนั้น ควรเข้าใจว่าเขาก็อาจจะเขินเช่นเดียวกับเรา ไม่ใช่เขาไม่ต้องการให้กอด และลองกอดบ่อยๆ สักพักก็จะชินกันไป และเมื่อนั้นก็จะตระหนักว่าแท้จริงแล้วลูกก็ต้องการการกอดเช่นเดียวกับพ่อแม่[2]
ครอบครัวไหนที่ยังมีอาการเขินอายกันตอนกอด หรือยังไม่ทันได้กอดกัน ก็อายม้วนซะแล้ว อยากให้ลองนำเทคนิคง่ายๆ นี้ไปปฏิบัติกันดูค่ะ
อ่านต่อ กอดลูก ช่วยเพิ่ม EQ ที่ดีให้ลูกได้ คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
กอดลูก ทารก ภาษารักง่ายๆ ช่วยเพิ่มความฉลาดทางอารมณ์
อยากบอกคุณพ่อคุณแม่ทุกคนให้ทราบว่า อนุภาพแห่งการกอดนั้นยิ่งใหญ่ได้ประโยชน์ต่อตัวลูกอย่างคาดไม่ถึงเลยละค่ะ ไปดูกันว่า กอดลูก แล้วได้ประโยชน์อะไรบ้าง…
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย[3] เผยว่ากรมอนามัยสนับสนุนครอบครัวเติมความรักให้แก่กันด้วยการกอด เพราะการกอดไม่ได้เป็นเพียงการแสดงความรักเท่านั้นแต่ยังมีผลดีต่อสุขภาพป้องกันการเกิดโรคร้าย เช่น
- โรคหัวใจ และภาวะซึมเศร้า
- การกอดจะช่วยเพิ่มปริมาณฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบในเม็ดเลือดแดงในเลือด ทำให้การลำเลียงของออกซิเจนไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกายดีขึ้น
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจเพราะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนออกซิทอกซิน (Oxytocin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความรัก ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง
- ช่วยลดการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียด
- การกอดคนที่รัก สมองจะหลั่ง สารโดปามีน (Dopamine) ก่อให้เกิดความสุข ความพึงพอใจ ความกระฉับกระเฉง
นอกจากนี้คุณหมอยังได้แนะอีกว่า การกอดลูกยังสามารถเพิ่มอีคิวได้ โดยเฉพาะในเด็กทารกที่ได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การอุ้มกอดขณะให้นมลูกจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นและสานสัมพันธ์ความรักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สถาบันวิจัยการสัมผัส คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยไมอามี่ สหรัฐอเมริกา ยังพบว่าการสัมผัสหรือการกอดมีผลต่อกระบวนการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยของเด็ก และยังมีผลต่อการรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหิด ผิวหนังอักเสบ และความเครียดจากอาการบาดเจ็บ ทารกคลอดก่อนกำหนด และทารกผิดปกติ[3]
ความฉลาดทางอารมณ์เป็นหนึ่งในพัฒนาการที่สำคัญกับการดำเนินชีวิตของลูกในอนาคตมากค่ะ เพราะเคยมีงานวิจัยออกมาว่าคนที่จะประสบความสำคัญในชีวิต จะต้องมี EQ มาเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาถึงจะเป็นเรื่องของ IQ เพราะอะไรรู้ไหมคะ เหตุผลคือเด็กที่มีระดับสติปัญญาสูงใช่ว่าทุกคนจะเอาตัวรอด ทำงานร่วมกับคนอื่นได้อย่างประสบผลสำเร็จ แต่ผิดกับเด็กที่มี EQ มาเป็นพื้นฐานตั้งแต่เริ่มแรก นั่นจะช่วยให้เขาสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นเป็นทีมได้อย่างประสบผลสำเร็จ ฉะนั้นการปูพื้นฐานให้ลูกเป็นเด็กที่มีพัฒนาการด้านอารมณ์จึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ที่สำคัญ การกอด ก็ยังช่วยส่งเสริมให้ลูกมี EQ ที่ดีแบบไม่ต้องเสียสตางค์เลยสักบาทค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
เด็กไฮเปอร์ ไม่ชอบให้กอด
สุดซึ้ง “น้องทาม“ เด็กไร้แขน กับฝันเล็กๆ แค่อยากได้กอดแม่
ทำไมอุ้มกอดจึงเป็นสิ่งที่อุ่นใจที่สุดของเบบี๋
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
[1]นพ.ประกอบ ผู้วิบูลย์สุข. การโอบกอดลูก. www.doctor.or.th
[2]สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย
[3]ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย. กอด เพิ่มอีคิวลูกน้อย. www.thaihealth.or.th