สัญลักษณ์บนเสื้อผ้า มีไว้บอกว่าเสื้อผ้าตัวนั้นๆ จะต้องดูแลอย่างไร ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีวิธีการในการดูแลที่แตกต่างกันไป ลองมาดูกันดีกว่าว่าแต่ละอันหมายถึงอะไรบ้าง?

สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามบนผลิตภัณฑ์สิ่งทอ หรือเสื้อผ้าโดยเฉพาะกับเสื้อผ้าของลูกน้อย นั่นก็ คือ ป้ายหรือฉลาก สัญลักษณ์บนเสื้อผ้า ที่แนะนำวิธีดูแลรักษา ซึ่งภาษาหรือป้ายสัญลักษณ์บนเสื้อผ้า เป็นภาษาที่ทุกคนเข้าใจได้ง่าย ส่วนใหญ่จะนิยมใช้สัญลักษณ์แสดง การอธิบายหรือแนะนำด้วยภาษา ดังนั้น คุณแม่จึงควรจะเข้าใจสัญลักษณ์และความหมายที่ปรากฏอยู่บนป้ายผ้านั้น ๆ เป็นอย่างดี สิ่งที่จะระบุบนป้ายผ้าหรือฉลากคือ

1. ขนาดหรือ เบอร์ของสินค้า เพื่อความสะดวกในการเลือก
2. ชนิดเส้นใยที่ใช้ทำ ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นร้อยละ เช่น ฝ้าย100% หรือโพลีเอสเตอร์ 65% ฝ้าย 35%
3. คำแนะนำในการดูแลรักษา ซึ่งแสดงเป็นคำอธิบาย หรือแสดงเป็นสัญลักษณ์ก็ได้

สัญลักษณ์บนเสื้อผ้า (ซักอบรีด) ที่คุณแม่บ้านควรรู้!

♦ สัญลักษณ์เกี่ยวกับการซักด้วยเครื่อง

• สัญลักษณ์เกี่ยวกับการซักด้วยเครื่อง มีทั้งการเลือกใช้อุณหภูมิของน้ำ ความแรงในการปั่น และข้อแนะนำอื่นๆ

♦ สัญลักษณ์เกี่ยวกับน้ำยาฟอกขาว

• สำหรับสัญลักษณ์เกี่ยวกับน้ำยาฟอกขาว ก็มีสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น สามารถใช้น้ำยากฟอกขาวได้ ใช้ได้เฉพาะน้ำยาฟอกขาวที่ไม่มีคลอรีน และห้ามใช้น้ำยาฟอกขาว

♦ สัญลักษณ์เกี่ยวกับการปั่นแห้ง

• การปั่นแห้งก็เป็นสิ่งที่ควรระมัดระวัง เพราะเสื้อตัวโปรดอาจเสียหายได้ หากเลือกใช้การปั่นแห้งผิดวิธี โดยสัญลักษณ์เกี่ยวกับการปั่นแห้ง ได้แก่ การตั้งค่าความร้อน และความแรงในการปั่น

♦ สัญลักษณ์เกี่ยวกับการตาก

• สัญลักษณ์เกี่ยวกับการตากก็มีความสำคัญไม่แพ้สัญลักษณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการผึ่งแห้ง การตากหมาด การตากแนวราบ การตากในที่ร่ม การห้ามตาก และ การห้ามบิด

♦ สัญลักษณ์เกี่ยวกับการรีดผ้า

• สัญลักษณ์ที่น่าจะสำคัญที่สุด น่าจะเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับการรีดผ้า เพราะการเลือกใช้อุณหภูมิในการรีด หรือ เสื้อผ้าบางตัวจะห้ามให้ไอน้ำ หรือบางตัวก็ไม่ให้รีดเลยคะ

♦ สัญลักษณ์เกี่ยวกับการซักแห้ง

• และสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับการซักแห้ง ก็มีสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น สามารถใช้สารละลายหรือน้ำยาซักแห้งได้ทุกชนิด ใช้ ได้แค่เฉพาะ PCEน้ำยาซักแห้งแบบพิเศษ เป็นตัวทำละลายไขมัน และคราบสกปรกบนเนื้อผ้า ที่เป็นที่รู้จักกันก็น้ำยาเปอร์คลอโรเอทิลีน (Perchloroethylene) และสามารถใช้ได้เฉพาะ HCS [สารทำละลายประเภทซิลิโคน (Silicone) หรือไฮโดรคาร์บอน (Hydrocarbon)] เท่านั้น

อ่านต่อ >> “รวมภาพสัญลักษณ์บนเสื้อผ้า
และความหมายที่คุณแม่บ้านควรรู้!” คลิกหน้า 2

รวมภาพ สัญลักษณ์บนเสื้อผ้า
และความหมายที่คุณแม่บ้านควรรู้!

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : www.digitalmedia.co.th

*ทั้งนี้บนป้ายสำหรับการดูแลรักษาเสื้อผ้าแต่ละอัน จะต้องเรียงลำดับจากบนลงมาล่างเสมอ
ถ้ามีเครื่องหมาย x กากบาทบนสัญลักษณ์ใดๆ ก็ตามจะมีความหมายว่า ห้าม สำหรับคำขยายต่าง ๆ
จะต้องสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

 

วิธีการดูแลเสื้อผ้าสำหรับลูกน้อย

เมื่อคุณแม่มีการคลอดลูกน้อยออกมา คุณแม่ย่อมต้องมีการเตรียมตัวเพื่อซื้อเสื้อผ้าเด็กแรกเกิดไว้ ซึ่งเสื้อผ้าเด็กแรกเกิดนั้นต้องมีการทำความสะอาดอย่างดีเพราะว่าภูมิคุ้มกันของทารกแรกเกิดนั้นยังน้อยอยู่อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อต่างๆได้เช่นภูมิแพ้และอื่นๆทั่วไป ซึ่งวิธีการดูแลเสื้อผ้าเด็กแรกเกิดนั้นเราสามารถที่จะปฏิบัติได้และวิธีเลือกเสื้อผ้าเด็กแรกเกิดนั้นเป็นอย่างไรเรามาดูกัน

การเลือกเสื้อผ้าเด็กแรกเกิด

ในขั้นตอนการเลือกเสื้อผ้าเด็กแรกเกิดนั้นควรเลือกเสื้อผ้าเด็กที่มีลักษณะทำมาจากผ้าฝ้าย 100% เพราะเสื้อผ้าเด็กที่ทำมาจากผ้าฝ้ายนั้นปราศจากสารเคมี และน้ำหอมรวมถึงสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองบนผิวหนังต่างๆ และผ้าฝ้ายยังระบายอากาศได้ดีอีกด้วย จึงเหมาะสมแก่การเลือกเสื้อผ้าเด็กแรกเกิดเป็นอย่างมากแต่ผ้าฝ้ายยังมีราคาสูงมากกว่าผ้าปกติแต่ถ้าหากว่าเราต้องการที่จะหาเสื้อผ้าเด็กแรกเกิดก็ควรเลือกซื้อให้พอเหมาะพอควรและได้ทั้งสุขภาพกายและใจของเด็กแรกเกิด

⇒ Must read : วิธีเลือกเสื้อผ้าให้ทารกวัย 3 เดือนขึ้นไป

⇒ Must read : ทารกแรกเกิดควรสวมเสื้อผ้าแบบไหน? เมื่ออยู่ในห้องแอร์

⇒ Must read : เลือกรองเท้าให้ลูก อย่างไร? ให้เหมาะกับวัยหัดเดิน

อ่านต่อ >> “วิธีการดูแลเสื้อผ้า และคำแนะนำในการซักผ้าเด็กทารก” คลิกหน้า 3

 

วิธีการดูแลเสื้อผ้า และคำแนะนำในการซักผ้าเด็กทารก

วิธีการดูแลเสื้อผ้านั้นหลังจากที่ซื้อมาก็ควรที่จะนำเสื้อผ้าไปซักก่อนที่จะนำมาให้เด็กแรกเกิดใส่ เพราะว่าเสื้อผ้านั้นอาจจะมีเศษฝุ่นต่างๆหรือว่าสารเคมีที่ตกค้างอยู่ ซึ่งเราควรที่จะซักให้สะอาดก่อน ส่วนการทำความสะอาดเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มของทารกเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรใส่ใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณพ่อคุณจำเป็นต้องซักผ้าเสื้อผ้าเด็กด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าสูตรพิเศษสำหรับทารกเท่านั้น

สำหรับทารกที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง, โรคผิวหนังอักเสบ, โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือโรคผิวหนังอื่น ๆ ควรจะซักเสื้อผ้าเด็กด้วยน้ำยาซักผ้าเด็ก แต่สำหรับกรณีอื่นคุณสามารถใช้ผงซักฟอกทั่วไปได้

• สำหรับการซักเสื้อผ้าเด็กอุณหภูมิต่ำของน้ำคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันความเสียหายของเสื้อผ้าเด็กด้วยเนื้อผ้าที่ละเอียดอ่อนแนะนำให้อ่านฉลากผลิตภัณฑ์และวิธีการซักบนเสื้อผ้าเด็กด้วยทุกครั้ง
• ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนไปซักเสื้อผ้าของทารกด้วยผงซักฟอกปกติ ควรทำการทดสอบกับเสื้อผ้าของทารกสักหนึ่งตัวและพิจารณาว่าผ้ามีปฏิกิริยาต่อผิวของทารกหรือไม่ หากมีอาการระคายเคืองใดๆ ที่เกิดขึ้นกับผิวหนังของทารกควรเปลี่ยนกลับมาใช้น้ำยาซักผ้าเด็กหรือน้ำยาซักผ้าที่ปราศจากสีและน้ำหอม
• ผ้าอ้อมผ้าเป็นเครื่องนุ่งห่มเพียงอย่างเดียวที่ควรจะซักด้วยน้ำยาซักผ้าเด็กเพื่อป้องกันการเกิดผื่นคัน แต่ไม่ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
• ตามปกติแล้วผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าสำหรับเสื้อผ้าเด็กอ่อน เด็กทารกนั้น ไม่ได้เน้นไปที่การขจัดคราบสกปรกหรือการขจัดรอยเปื้อนบนเสื้อผ้าเป็นหลัก แค่เน้นแค่การทำความสะอาดแบบอ่อนโยน แต่เมื่อลูกของคุณโตขึ้น เราอาจจะไปโฟกัสที่พลังการทำความสะอาดของผงซักฟอกเพื่อขจัดคราบหนักได้ดีขึ้นตามไปด้วย จึงควรเลือกผงซักฟอกที่คุณภาพเหมาะกับวัยของลูกและการทำความสะอาดเป็นหลัก
• ***สิ่งสำคัญที่เราอยากจะเตือนคุณคือ น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกไม่สามารถใช้ด้วยกันได้ทั้งบ้าน โดยเฉพาะถ้าครอบคุณคุณมีเด็ก

⇒ Must read : วิธีซักรองเท้าผ้าใบ ไม่ซื้อใหม่ ก็ขาววิ๊งได้ (สำหรับเปิดเทอม)

การซักเสื้อผ้าเด็กด้วยเครื่องซักผ้า

• อันดับแรกคุณแม่ ควรตรวจสอบ สัญลักษณ์บนเสื้อผ้า ว่าเหมาะสมกับการซักด้วยเครื่องซักผ้าได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าเสียหาย เปื่อยยุ่ย
• เลือกหมวดในการซักผ้าแบบนุ่มนวล เพราะจะช่วยถนอมเนื้อผ้าไม่ให้ระดับการปั่นที่แรงเกินไป ทำลายคุณภาพของใยผ้า
• ทำความสะอาดคราบหนักบนเสื้อผ้าเด็กก่อนนำไปซักเครื่อง เช่น คราบปัสสาวะหรืออุจจาระ เนื่องจากเครื่องซักผ้าทำงานด้วยโปรแกรมการซักแบบนุ่มนวลนั้น อาจไม่สามารถทำลายคราบสกปรกเฉพาะจุดได้
• ควรตั้งอุณหภูมิการซักอยู่ที่น้ำร้อน เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและสลายคราบต่างๆ ที่เกาะอยู่บนเนื้อผ้าให้หลุดออกง่าย เช่นเดียวกับการซักผ้าด้วยมือ
• ควรใส่เสื้อผ้าของลูกน้อยลงไปในถุงซักผ้าก่อนนำไปซัก เนื่องจากแรงปั่นของเครื่องซักผ้าสามารถทำลายเนื้อผ้าได้
• ควรใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กหรือผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อช่วยให้เนื้อผ้ามีความอ่อนนุ่ม และมอบสัมผัสที่อ่อนโยนให้กับลูกน้อยเมื่อสวมใส

การตากเสื้อผ้าเด็ก : ควรนำเสื้อผ้าเด็กไปตากไว้ที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่อับชื้น หรือให้โดนแสงแดดเพราะแสงแดดจะช่วยกำจัดเชื้อโรคได้ดี

การจัดเก็บเสื้อผ้าเด็ก : หลังจากที่ซักตากเรียบร้อย การจัดเก็บเสื้อผ้าคุณน้องหนูก็มีความสำคัญไม่แพ้กันกับหัวข้อข้างต้น เสื้อผ้าเด็กนั้นควรมีการจัดเก็บในที่สะอาด ไม่อับชื้น หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝุ่นละอองหรือพื้นที่ที่มีคนเดินผ่านไปมา เช่นใต้บันได ข้างประตูห้อง รวมทั้งใต้หลอดไฟ เนื่องจากเวลากลางคืนจะมีพวกแมลงทั้งเล็กใหญ่มักจะเล่นไฟ ซึ่งอาจตกลงมาอยู่ในเสื้อผ้าของน้องหนูได้ วิธีที่ดีที่สุดคือจัดเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า โดยไม่อัดแน่นเกินไป หมั่นคอยสะสางเสื้อผ้าเด็กที่ไม่ใช้หรือใส่ไม่ได้แล้วออกจากตู้เสื้อผ้า เพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่อาศัยของสัตว์และแมลงต่างๆ

“เพียงเท่านี้คุณแม่ก็จะมีเสื้อผ้าดีๆให้คุณน้องหนูใส่ได้อย่างสบายใจ”

อย่างไรก็ดี พ่อแม่ทุกคนล้วนแต่ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกน้อยของเขา วิธีการซักผ้าก็สำคัญเช่นกัน มันไม่แตกต่าง ถ้าคุณต้องการแน่ใจว่าผงซักฟอกที่คุณใช้ ปลอดภัยต่อผิวลูกน้อย และเหมาะสำหรับเด็กๆ อย่าลืมเลือกน้ำยาซักผ้าที่เหมาะกับทารก เด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ

คุณควรอ่านคำแนะนำและความปลอดภัย สัญลักษณ์บนเสื้อผ้า ฉลากบนเสื้อผ้าและทุกผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเสื้อผ้าเด็กหรือแม้แต่เสื้อผ้าคุณ  ในขณะที่เสื้อผ้าที่ละเอียดอ่อนของทารกอาจต้องการการจัดการที่แตกต่างกัน ทุกวัน เสื้อผ้าที่สามารถใส่ในเครื่องซักผ้าของคุณ ให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบฉลากก่อนการเลือกอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมกับการซักทุกรอบ

อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!

• เมื่อลูกเป็นผื่นแพ้ผิวหนัง เพราะเครื่องซักผ้า
• Wash clothes เคล็ดลับซักผ้าลูกน้อยให้ สะอาด ปลอดภัย ไม่เหม็นอับชื้น
• แม่ไม่ต้องกลุ้ม! สีตกใส่เสื้อขาว แก้ไขได้ด้วย 4 วิธีนี้!
• เสื้อผ้าเด็ก ตัดเย็บได้ง่ายๆ จากเสื้อผ้าพ่อแม่

---

ขอบคุณข้อมูลจาก : talk.mthai.com , www.thaihealth.or.th