ลูกความจำดี เรียนเก่ง ในช่วง 1-3 ปีเป็นช่วงวัยทองของสมอง ที่จะสามารถจดจำ และเรียนรู้ได้อย่างมากมาย หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเรียนเก่ง มีความจำดีต้องเริ่มปูรากฐานความรู้ให้แข็งแรงตั้งแต่ช่วงวัยนี้ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี 7 เคล็ดลับสร้าง ลูกความจำดี เรียนเก่ง มาฝากทุกครอบครัวให้ได้ทราบกันค่ะ
ลูกความจำดี เรียนเก่ง : สมอง มีหน้าที่อะไร ?
สมองมีหน้าที่ควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว พฤติกรรม และภาวะธำรงดุล (homeostasis) เช่น การเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต สมดุลของเหลวในร่างกาย และอุณหภูมิ เป็นต้น หน้าที่ของสมองยังเกี่ยวข้องกับการรู้ (cognition) อารมณ์ ความจำ การเรียนรู้การเคลื่อนไหว (motor learning) และความสามารถอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้1
สมองคืออวัยวะที่สำคัญของร่างกายมนุษย์ สมองเป็นศูนย์รวมของความคิด ความทรงจำ จินตนาการ การวางแผน และการแก้ปัญหาต่างๆ สมองจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก หากได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสมและถูกวิธี
Good to know… “สมองเด็กแรกเกิดจะมีน้ำหนักประมาณ 30-40% ของผู้ใหญ่ และเพิ่ม เป็น 60% เมื่ออายุ 4 ขวบ ช่วง 6 ปีแรกของชีวิตเป็นช่วงที่สมองมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วที่สุด และวัย 1-3 ปี เป็นวัยทองแห่งการเรียนรู้ ความเฉลียวฉลาด และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์2”
ลูกความจำดี เรียนเก่ง ด้วย 7 เคล็ดลับ
สมองของลูกจะมีพัฒนาการการเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ส่วนสำคัญต้องได้รับการสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่เป็นสำคัญ เพื่อให้ลูกได้มีการเรียนรู้ มีความจำดี ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียนรู้ของลูกในอนาคต การจะสร้างให้สมองของลูกทำงานประสานกันได้ดี ไม่ใช่เรื่องยาก เรามีเคล็ดลับฝึกสมองให้กับลูกน้อย จากคำแนะนำของ ดร.แพง ชินพงศ์3 ดังนี้…
1. เขียนสมุดบันทึก
คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ลงในสมุดบันทึกเป็นประจำทุกวัน วิธีนี้นอกจากจะช่วยฝึกทักษะเรื่องของภาษาในการเขียนและการลำดับเรื่องราวอย่างเป็นขั้นเป็นตอนแล้ว ยังช่วยฝึกให้ลูกรู้จักการรวบรวมความคิดและฝึกการจดจำเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอในแต่ละวันที่ผ่านมาได้
2. เล่นเกมพัฒนาความจำ
คุณพ่อคุณแม่ควรหากิจกรรมเกมที่ช่วยฝึกความจำให้แก่ลูก เช่น เกมครอสเวิร์ด เกมปริศนาอักษรไขว้ เกมหาคำศัพท์ เกมบิงโก เกมต่อจิ๊กซอว์ เกมเหล่านี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำของสมองเป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยให้มีสมาธิและฝึกความอดทนในการที่จะต้องพยายามแก้ปัญหาให้สำเร็จ
3. ดนตรีช่วยเพิ่มความจำ
ดนตรีเป็นสื่อที่นอกจากจะช่วยคลายเครียด พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการให้แก่เด็กแล้ว ยังช่วยเพิ่มทักษะในด้านความจำของเด็กที่ได้ผลดีเป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะการที่เด็กได้ฟังเพลง ร้องเพลงและเล่นเครื่องดนตรี เด็กๆ จะต้องใช้ความจำในเรื่องของการจดจำทำนอง เนื้อร้องและจังหวะของแต่ละบทเพลง นอกจากนี้การเล่นเครื่องดนตรี เด็กๆ ต้องฝึกอ่านโน้ตดนตรี ซึ่งเป็นการฝึกในเรื่องของความจำโดยตรง
4. ฝึกสมาธิ
การฝึกสมาธิเป็นวิธีการที่ดีมากอย่างหนึ่งในการช่วยเพิ่มพลังความจำอย่างได้ผล การทำสมาธิสำหรับเด็กเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องให้เด็กฝึกจิตให้สงบด้วยการนั่งสมาธิเอามือประสานกันวางไว้ที่ตัก เพราะบางครั้งวิธีนี้อาจใช้ไม่ได้สำหรับเด็กบางคนเนื่องจากเขาอาจรู้สึกอึดอัด แต่การทำสมาธิสำหรับเด็กง่ายๆ คือหมายถึงการที่เขาได้พักสงบกับตนเอง เช่น การที่เด็กได้นอนหนุนตักคุณพ่อคุณแม่ใต้ต้นไม้อย่างเงียบสงบในเวลาประมาณ 15 นาที ก็เป็นการฝึกสมาธิได้แล้ว การฝึกสมาธิจะช่วยผ่อนคลายความเครียดและช่วยเตรียมให้สมองได้เปิดรับการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ และจดจำบทเรียนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
อ่านต่อ >> “ลูกความจำดี เรียนเก่ง ด้วย 7 เคล็ดลับ” หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกเป็นเด็กที่มีพัฒนาการการทำงานที่ดี เรียนรู้ได้อย่างชาญฉลาด ปัจจัยสำคัญต้องเกิดจากการถูกกระตุ้น ให้ได้คิด ได้ทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ การฝึกให้ลูกเป็นเด็กคิดนอกกรอบ คิดเป็น ทำเป็น และคิดแบบมีจินตนาการ จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้ลูกเป็นที่ประสิทธิภาพทางความคิดได้ค่ะ เอาเป็นว่าเรามาช่วยกัน กระตุ้น พัฒนาการ สมองลูก ทำงานดี กันตั้งแต่ตอนที่ลูกยังเป็นเด็กเล็กๆ กันดีกว่าค่ะ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >> 10 วิธี กระตุ้น พัฒนาการ สมองลูก ทำงานดี
5. รับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มความจำ
คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้ทานอาหารที่มีคุณค่าและช่วยเพิ่มความจำ เช่น ผัก ผลไม้ ซึ่งมีวิตามินบีสอง กรดโฟลิก ที่ช่วยป้องกันสมองเสื่อม นอกจากนี้ควรให้ลูกทานเนื้อสัตว์ อาหารทะเล เพราะมีธาตุเหล็กที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองซีกซ้ายในเรื่องของความจำได้
6. การออกกำลังกาย
เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของความจำของเด็กได้เป็นอย่างดี เพราะขณะที่เด็กได้เคลื่อนไหวร่างกายไม่ว่าจะเดิน กระโดด วิ่ง จะส่งผลในการกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ทำให้สมองพร้อมที่จะเปิดรับต่อการจดจำในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้กิจกรรมการออกกำลังตามจังหวะเพลง เช่น แอโรบิคแด๊นซ์ ยังช่วยพัฒนาความจำของเด็กผ่านในการจดจำท่าเต้น ทำนอง และจังหวะของเพลงด้วย
7. นอนหลับพักผ่อน
คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกนอนอย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง และไม่ควรให้ลูกนอนเกินวันละ 9 ชั่วโมง เพราะการนอนมากทำให้ความตื่นตัวน้อยลงและทำให้ลูกเกิดความซึมเซา ซึ่งมีผลทำให้ประสิทธิภาพของความจำลดน้อยลง นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรให้ลูกนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน เพราะจะทำให้เด็กขาดสมาธิซึ่งทำให้ความสามารถในการจดจำลดน้อยถอยลงไปด้วยเช่นกัน3
อยากให้ลูกฉลาด เรียนเก่ง ทำยังไงดี? อย่างแรกเลย คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลเรื่องอาหารและโภชนาการของลูกอย่างใกล้ชิดค่ะ “อาหารบำรุงสมอง” สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมองลูกน้อย ช่วยให้สมองแจ่มใส ความจำดี และมีสมาธิมากขึ้นได้ อ่านเพิ่มได้ที่ >> 10 สุดยอด “อาหารบำรุงสมอง” ลูกน้อย
อยากให้ ลูกความจำดี เรียนเก่ง พ่อแม่ต้องหมั่นเติมความรู้ใหม่ๆ ให้ลูกได้ฝึกการใช้สมองกันมากๆ เพราะสมองยิ่งใช้ยิ่งแข็งแรง และสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ …ด้วยความห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก!
เล่นกระบะทราย พัฒนาสมองลูก ได้จริงหรือ?
7 วิธี เสริมความฉลาด สร้างเซลล์สมอง ลูกน้อย
6 เคล็ดลับ สร้างความสุขให้ลูกรัก สมองเติบโต
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
1สมอง. th.wikipedia.org
2Dr.Somsri Nawarat.วัยทองแห่งการเรียนรู้ ?. gotoknow.org
3ดร.แพง ชินพงศ์. manager.co.th