แม่ใจสลาย เมื่อลูกชายวัย 10 เดือน ต้องมาเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาที่ เนอสเซอรี่ แห่งหนึ่ง ซึ่งคุณแม่ได้พาลูกน้อยไปฝากเลี้ยงได้เพียง 6 วัน โดยคุณแม่เล่าว่า พาลูกชายไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่ภายในหมู่บ้านสวัสดี ย่านหลังวัดแพรกษา ซึ่งในวันแรกครูพี่เลี้ยงบริการดีมาก จนทำให้คุณแม่ไว้วางใจ
เนอสเซอรี่ ไม่ปลอดภัยเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่พาลูกชายไปฝากเลี้ยงตามปกติ เวลาประมาณ 13.00 น. ขณะที่คุณแม่ทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่เลี้ยงของเนอสเซอรี่แห่งนี้ว่าให้รีบกลับมาดูลูกชายโดยด่วน และไม่ยอมบอกเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งคุณแม่ต้องเค้นถามทางโทรศัพท์ จึงแจ้งว่าลูกชายไม่มีลมหายใจแล้ว และไม่สามารถบอกอะไรได้มากไปกว่านี้ คุณแม่จึงติดต่อคุณพ่อให้รีบไปดูลูกน้อยที่เนอสเซอรี่
เมื่อคุณแม่ไปถึง ก็พบว่า ลูกน้อยนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนภายในเนอสเซอรี่คนเดียว โดยเด็กคนอื่นๆ ผู้ปกครองมารับกลับบ้านไปหมดแล้ว หลังจากเห็นศพลูก คุณแม่ถึงกับปล่อยโฮ โผเข้ากอดลูกน้อยแนบอก จึงรู้ว่าลูกน้อยเสียชีวิตมาหลายชั่วโมงแล้ว เพราะเริ่มแข็งตัว แต่ไม่มีการแจ้งเรื่องใดๆ ให้คุณแม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบก่อนหน้านี้ คุณพ่อจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ แพทย์ได้เข้ามาชันสูตรเบื้องต้นระบุว่า ลูกชายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง
โดยพี่เลี้ยงแจ้งว่า เพิ่งทราบว่าเด็กชายเสียชีวิตตอนที่โทรไปแจ้งคุณแม่ โดยอ้างว่าพบเด็กเอาผ้ามาปิดจมูกไว้ขณะที่กินนมนอนหลับ จึงหยิบผ้าออกจากหน้าเด็กชายแล้ว แต่เด็กร้องไห้ จึงนำผ้ามาปิดหน้าไว้เหมือนเดิม และมาทราบอีกครั้งจึงรู้ว่าเด็กไม่มีลมหายใจแล้ว
คุณแม่เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นเด็กร่าเริงและแข็งแรง โดยก่อนหน้านี้คุณแม่ได้เลี้ยงดูลูกน้อยเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นลูกคนแรก ซึ่งในวันแรกที่พาลูกชายมาฝากเลี้ยง ทางครูพี่เลี้ยงบริการดีมาก จนคุณแม่ไว้ใจ มีการถ่ายรูป ส่งข้อความทางไลน์ตลอดเวลาว่าลูกน้อยเป็นอย่างไร รับประทานอะไร นอนเวลาไหน และให้ความเชื่อใจกับคุณแม่ว่าเด็กชายเป็นเหมือนบุตรหลาน คุณแม่ไม่ต้องกังวล ทำให้คุณแม่มั่นใจและยอมฝากให้ดูแล ทั้งๆ ที่ทราบดีว่าเนอสเซอรี่แห่งนี้เป็นเนอสเซอรี่เถื่อน ใช้บ้านพักแบบทาวน์เฮ้าท์เปิดเป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็ก
→ Must read : 7 ข้อควรพิจารณา ก่อนเลือกเนอสเซอรี่ให้ลูก!
จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับลูกชายคนแรกในครั้งนี้ ซึ่งตนมองว่าทางเนอสเซอรี่มีพิรุธ จึงขอเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกชายของตน และจะดำเนินการต่อสู้ทางคดีให้ถึงที่สุด
ขอบคุณภาพและข้อมูลข่าวจาก : news.ch7.com
Amarin Baby & Kids ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของหนูน้อยวัย 10 เดือน มา ณ ที่นี้ และขอเป็นกำลังใจให้กับคุณพ่อและคุณแม่ของน้องด้วยนะคะ
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นอุทาหรณ์ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความสำคัญใน การเลือกเนอสเซอรรี่ ให้ลูกน้อย ทาง Amarin Baby & Kids จึงมีสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ เลือกเนอสเซอรรี่ ให้ลูก มาแนะนำค่ะ
อ่าน “เลือกเนอสเซอรี่อย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกน้อย” คลิกหน้า 2
เลือกเนอสเซอรี่อย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกน้อย
เนอสเซอรรี่ คือ สถานรับเลี้ยงเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กในวัยก่อนเข้าโรงเรียน ซึ่งเหมาะกับคุณพ่อคุณแม่ ที่มีเวลาให้ลูกน้อยได้ไม่มากเท่าที่ควร นั่นหมายถึงอาจส่งผลถึงพัฒนาการของตัวลูกน้อยด้วยเช่นกัน ดังนั้นแล้ว เนอสเซอรี่ จึงมีความจำเป็น และเป็นบ้านหลังที่สองของลูกน้อย
แต่หากบ้านหลังที่สองของลูกน้อยที่พ่อแม่ฝากไว้ ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการรับรองเรื่องความปลอดภัย ก็อาจส่งผลร้ายถึงขั้นทำให้ลูกน้อยของคุณเสียชีวิตได้
เพราะปัจจุบันมี ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ หรือ สถาบันพัฒนาเด็กเล็ก ที่ยังไม่ได้เข้าเรียน หรือที่เรียกกันว่า เนอสเซอรี่ เกิดขึ้นมากมาย สำหรับอายุต่ำสุดที่เปิดรับได้จะขึ้นอยู่กับความพร้อมของเนอสเซอรี่แต่ละแห่ง ซึ่งเรื่องนี้ แพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจกุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด ได้แนะนำข้อควรพิจารณาใน การเลือกเนอสเซอรรี่ มาฝาก ดังนี้
- ค่าใช้จ่าย : เหมาะสมกับฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว
- ที่ตั้ง : ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน รับส่งและเดินทางสะดวก ลูกไม่เหนื่อยเกินไป
- นโยบาย ตรงกับความต้องการของพ่อแม่ : เช่น สนับสนุนการให้นมแม่ โดยยินดีป้อนนมลูกแบบจิบดื่มจากถ้วยแทนการให้ดูดจากขวด หรือให้ผลไม้แทนขนมหวาน
- คุณภาพ สถานที่ ปลอดภัย : ไม่มีประตูที่เด็กจะเดินออกไปเองตามลำพังได้ มีทางหนีไฟ ระบบตรวจจับควันไฟ การติดตั้งของเล่นมั่นคงดี มีที่จอดรถห่างจากที่เล่นของเด็ก ไม่แออัด การระบายถ่ายเทอากาศดี หากเป็นห้องแอร์ควรมีเครื่องฟอกอากาศเพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่ลูกจะได้รับโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจควรมีห้องแยกสำหรับเด็กป่วย มีของเล่นที่หลากหลายและเหมาะกับเด็กแต่ละวัย เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการและมีจำนวนเพียงพอ ทางโรงเรียนควรมีกล้องวงจรปิดเพื่อคอยตรวจสอบและย้อนดูเหตุการณ์ได้ในกรณีที่มีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแก่ลูก มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี
- บุคลากร เพียงพอกับจำนวนเด็ก : จะได้ดูแลเด็กอย่างทั่วถึง สุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีโรคติดต่อ ไม่มีประวัติอาชญากรรม รักเด็ก ใจเย็น มีความรู้ความชำนาญในการดูแลเด็ก ไม่เปิดทีวีให้เด็กดู ผ่านการอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิตและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น มีโปรแกรมฝึกพัฒนาการที่แน่นอนสำหรับเด็กแต่ละช่วงอายุ ถ้ามีใบอนุญาตจัดตั้งสถานประกอบการและหลักสูตรที่มีมาตรฐานด้วยก็ยิ่งดี
- ระบบการดูแลสุขภาพเด็ก : มีห้องแยกเด็กป่วย หรือไม่ให้มาเรียนจนกว่าจะพ้นระยะแพร่เชื้อ มีการสังเกตอาการเจ็บป่วยของเด็ก จะได้รีบแยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติก่อนที่จะมีการแพร่ระบาด และรีบโทรศัพท์ตามผู้ปกครองมารับเด็กกลับบ้าน หรือพาไปตรวจที่โรงพยาบาล
อ่าน “หลักสำคัญในการเลือกเนอสเซอรี่” คลิกหน้า 3
หลักสำคัญในการเลือกเนอสเซอรี่
หลักสำคัญในการเลือกเนอสเซอรี่ให้ปลอดภัยและเหมาะกับลูกน้อย หากคุณพ่อคุณแม่คนไหนกำลังคิดที่จะพาลูกน้อยไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่ ควรอ่าน 3 ข้อสำคัญในการเลือกเนอสเซอรี่ให้ปลอดภัยและเหมาะสมกับลูกน้อยกันก่อนค่ะ
3 ข้อสำคัญในการเลือกเนอสเซอรี่ให้เหมาะกับลูกน้อย
หากคุณพ่อคุณแม่ สงสัยว่าแล้วเนอสเซอรี่แบบไหนที่ดีและเหมาะกับลูกของเรา ซึ่งพ่อแม่ส่วนใหญ่กังวลว่าลูกจะพลาดโอกาสหรือเรียนช้ากว่าเพื่อนๆ ถ้าไม่ได้เรียนเรื่องตัวอักษรและตัวเลขตั้งแต่เข้าเนอสเซอรี่ แต่อันที่จริง เด็กๆ ได้เรียนรู้จากการลงมือทำ สำรวจสิ่งรอบๆ ตัวและการเล่นสนุก การเร่งเรียนอาจไม่ใช่วิธีที่ให้ผลดีกว่าอย่างที่คิด
→ Must read : ควรเลือกโรงเรียนอนุบาลที่วันๆ เอาแต่เล่นกับเด็ก ทำไม?
หากมีโอกาสไปเยี่ยมชมเนอสเซอรี่ที่สนใจ ก็ลองถามคำถามเหล่านี้ดู จะได้ตัดสินใจถูกว่าเนอสเซอรี่ที่ว่านี้เหมาะกับลูกของคุณมากน้อยแค่ไหน
1. หลักสูตรและกิจกรรม = เป็นแบบไหน เน้นประเภทสอนร้องเพลงและกิจกรรมที่สอนให้เด็กรู้จักแบ่งปันหรือเปล่า
2. มีเป้าหมายหรือความคาดหวังในตัวเด็ก = หลีกเลี่ยงเนอสเซอรี่ที่เข้มงวดกับเรื่องนี้มากไปนิด (นับ 1-20 ได้ภายในเดือนธันวาคม) และเลือกที่เน้นเรื่องทักษะการเข้าสังคมมากกว่า (เล่นกับเพื่อนๆ ได้ดี ไม่มีปัญหา)
3. แต่ละวันมีกิจกรรมที่เป็นแบบแผนแค่ไหน = การมีกิจกรรมเป็นเรื่องที่ดี แต่เด็กๆ ก็ควรจะได้เล่นตามใจชอบด้วยเช่นกัน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พอจะได้ไอเดียใน การเลือกเนอสเซอรี่ ให้ลูกน้อยกันแล้วหรือยัง และอีกหนึ่งเรื่องที่ควรทำซึ่งนอกจากคุณพ่อคุณแม่จะเป็นผู้เลือกเนอสเซอรี่ให้ลูกแล้ว ก่อนพาลูกเข้าเนอสเซอรี่ ก็ต้องมั่นใจก่อนว่าลูกเรามีความพร้อมทั้งทางด้านล่างกายและจิตใจหรือยังที่จะไปอยู่ในที่ที่ไม่มีพ่อกับแม่ และเมื่อคุณกังวลว่าลูกยังไม่พร้อม ก็คงจะดีกว่าถ้าเลื่อนให้ลูกไปเรียนเทอมหน้าหรือปีหน้า แทนที่จะบังคับให้เขาไปเรียนอย่างไม่มีความสุขและเป็นภาระของโรงเรียนในภายหลังนะคะ
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!!