AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

พบ! 10 ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด

พ่อแม่ระวัง ก่อนซื้อผักให้ลูกกิน นี่คือ ผักสดในตลาด 10 ชนิด ซึ่งตรวจพบว่าเป็น ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด จะมีผักชนิดใดบ้างตามมาดูกันเลย

ผัก ถือเป็นแหล่งอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อุดมไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารพฤกเคมี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ช่วยสร้างเสริมสุขภาพของลูกน้อยให้แข็งแรง ทั้งยังมีคุณสมบัติในการป้องกันโรคได้อีกด้วย

และถึงแม้ว่าการกินผักเป็นประจำส่งผลดีต่อสุขภาพ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ปัญหาการตกค้างของสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงในผัก ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายของลูกน้อยเป็นอย่างมาก เพื่อความปลอดภัยคุณพ่อคุณแม่จึงควรใส่ใจเป็นพิเศษในการล้างผักให้สะอาด

พบ! 10 ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด

ซึ่งข้อมูลจากการตรวจการตกค้างของสารเคมีอยู่ในพืชผักที่จำหน่ายในท้องตลาดล่าสุด พบว่า… มีผักสด ที่เป็น ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด อยู่ 10 ชนิด ได้แก่

อ่านต่อ “อันตรายที่ลูกจะได้จากผักที่สารเคมีตกค้าง” คลิกหน้า 2

อันตรายที่ลูกจะได้จาก ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด

ซึ่งทั้ง ผักสด 10 ชนิด ที่กล่าวมาข้างต้นที่มีการตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในปริมาณสูง หากลูกน้อยได้รับยาฆ่าแมลงตกค้างในปริมาณมากจะทำให้เวียนศีรษะ หน้ามืด ท้องร่วง อาจเกิดหัวใจวายและตาย …แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อยๆ ค่อยๆ สะสมในร่างกายจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็ง

นอกจากนี้ยังตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้ออีโคไลและเชื้อซาลโมเนลลา ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษในผักที่นิยมรับประทานเป็นผักแบบสดๆ เช่น ผักกาดหอม ต้นหอม ผักชี กะหล่ำปลี ผักชีฝรั่ง โหระพา สะระแหน่ ใบบัวบก ถั่วพู แตงกวา

ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ในการเพาะปลูก โดยเชื้อเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในลำไส้ของสัตว์และถูกขับถ่ายออกมากับมูลของสัตว์ เมื่อนำปุ๋ยจากมูลสัตว์มาใช้ในการเกษตรเชื้อโรคนี้ก็อาจปนเปื้อนในผลผลิตได้ เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารได้

วิธีล้างผักก่อนนำมาปรุงอาหาร เพื่อลดสารเคมีตกค้างในผัก

ก่อนซื้อผักในตลาดสดมากิน คุณแม่ควรคำนึงถึงความปลอดภัยในการกินผัก ซึ่งก่อนกินหรือนำผักไปปรุงอาหาร ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันสารเคมีตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ด้วยวิธีล้างดังนี้

ล้างด้วยน้ำไหล

แช่น้ำก่อนล้าง

วิธีที่ 1

วิธีที่ 2

ซึ่งทั้ง 3 วิธีนี้ สามารถลดสารเคมีตกค้างจนไม่ก่อให้เกิดอันตรายได้

อ่านต่อ >> สารเคมีตกค้างในผัก
ส่งผลต่อสติปัญญาของลูกน้อยอย่างไร” คลิกหน้า
3

สารเคมีตกค้างในผัก ส่งผลต่อสติปัญญาของลูกน้อยอย่างไร

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่า สารเคมีที่ตกค้างในอาหารหลายตัวนั้น มีความสัมพันธ์กับพัฒนาการทางสมองของเด็ก เช่นสารเคมีที่ชื่อ ‘คลอร์ไพริฟอส’ (Chlorpyrifos) ซึ่งมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียชี้ให้เห็นว่า… สารดังกล่าวมีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก นำไปสู่การมีระดับสติปัญญาที่ต่ำจากการที่สารเข้าไปสะสมในร่างกาย ส่งผลต่อโครงสร้างสมอง

จากการสำรวจของ ‘เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช’ (Thailand Pesticide Alert Network หรือ Thai-PAN) ในปี 2559 ชี้ว่าคลอร์ไพริฟอส เป็นสารที่พบตกค้างในผักและผลไม้มากที่สุดอันดับ 2 ในไทย ทำให้หลายคนมองว่าปัญหาสารเคมีตกค้างในอาหารนั้นมีความเกี่ยวโยงกับปัญหาสติปัญญาของเด็ก

 

คลอร์ไพริฟอส (chlorpyrifos) : เป็นวัตถุมีพิษทางการเกษตร (pesticides) เป็นสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช ในกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต (organophosphate compound) รูปแบบส่วนใหญ่ของสารในกลุ่มนี้ เป็นสารอินทรีย์ที่มีฟอสฟอรัสเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ โคลีนเอสเทอเรสแบบถาวร เป็นพิษตกค้างของคลอร์ไพริฟอส

 

โดยนายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI) เห็นว่าภาครัฐมองเรื่องปัญหาทางสถิติสติปัญญาเด็ก เน้นไปที่เพียง 3 ประเด็นคือ โภชนาการ พฤติกรรม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งในความเป็นจริงนั้นมีปัจจัยอื่นอีกหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย

ซึ่งนายวิฑูรย์ ยังได้กล่าวอีกว่า…มีสารตัวอื่น ๆ อีกที่ส่งผลต่อสมองของเด็ก อย่างที่เป็นประเด็นกันอยู่ คือ “พาราควอต” สารตัวนี้สามารถเข้าไปสู่สมองได้แล้วทำลายระบบประสาทได้ งานวิจัยจากหลาย ๆ แหล่งก็พบ เป็นเรื่องน่ากังวล เพราะพบว่าสารเหล่านี้ตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมทั้งอาหารและผักผลไม้

อีกทั้งในต่างประเทศได้ตั้งข้อสงสัยที่เชื่อมโยงกันระหว่างสารเคมีในอาหารกับโรคที่เกี่ยวกับพัฒนาการในเด็ก มีปัจจัยเรื่องสารเคมีแน่ ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ในหลายประเทศเช่นสหรัฐฯ ก็มีการพบข้อสงสัยเช่นกันว่า… สารเคมีที่พบตกค้างในอาหารบางตัว เกี่ยวข้องกับ โรคออทิสติก ในเด็ก

ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงจาก ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด เมื่อคุณแม่ซื้อมากจากตลาดสดทุกครั้งก็อย่าลืมล้างทำความสะอาดตามวิธีที่กล่าวมาข้างต้นด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก :


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.anamai.moph.go.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids