วางแผนการศึกษาให้ลูก ลงทุนเรื่องการศึกษาช่วงวัยไหนดีที่สุด เพื่อให้ลูกได้ต่อยอดอาชีพในฝัน
เริ่มคิด วางแผนการศึกษาให้ลูก ควรเน้นช่วงวัยไหนดี
พ่อแม่ทุกคนย่อมคาดหวังให้ลูกเติบโตไปแล้วเอาตัวรอดในสังคมได้ มีงานมีการทำที่ดี มีชีวิตสุขสบายไม่ต้องลำบาก นอกจากการอบรมสั่งสอนเลี้ยงดูในวัยเด็กแล้ว สิ่งที่พอจะมอบให้ได้ก็คือ โอกาสทางการศึกษาที่ดีที่สุด เพื่อเป็นใบเบิกทางให้ลูกได้เรียนรู้ ค้นพบตัวเอง และมีอาชีพที่ดีในอนาคต
แต่การลงทุนในการศึกษาช่วงวัยไหนถึงจะดีที่สุด?
จากกระทู้พันทิปเรื่อง “หากมีทุนการศึกษาให้ลูกสักก้อนหนึ่ง จะไปเน้นหนักในการศึกษาช่วงใดดีครับ” มีคนมาแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยเจ้าของกระทู้ได้โพสต์ว่า
“หากคุณมีทุนการศึกษาให้ลูกสักก้อน โดยก้อนนี้จะเป็นเงินที่จะเอาไว้ให้ลูกเรียนตั้งแต่ อนุบาล ถึง ปริญญาตรี เอาแค่ค่าเรียนอย่างเดียว คุณจะเอาทุนก้อนนี้ไปเน้นการศึกษาช่วงใดครับ อนุบาล ประถม ม.ต้น ม.ปลาย มหาวิทยาลัย? โดยทุนนั้นอาจจะมี สัก 3-5 ล้าน”
ความเห็นแรก : สนับสนุนการเรียนภาษาอังกฤษ เช่น ความคิดเห็นที่ 1 “สนทนาภาษาอังกฤษ ควรเริ่มตั้งแต่อนุบาล 3-5 ล้าน …..เหลือ ๆ สำหรับการศึกษาอย่างเดียว เรียนถึง ป.ตรี หากเขาไปได้ดี ก็ควรส่งไปเรียนโท ที่เมืองนอก”
ต่อมามีคนสนับสนุนเรื่องนี้ โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า ช่วงอนุบาล ถึงประถมต้น (อ.1-ป.3) จะให้เรียนภาษาที่ 2 3 (อังกฤษ จีน) ประถมปลาย (ป.4-ป.6) ให้เรียนวิทย์-คณิตฯ เพื่อสอบเขา ร.ร.มัธยม ช่วงมัธยมต้น เด็กจะเริ่มคิดว่าอยากเป็นนั้นเป็นนี้ส่วนนี้ก็ต้อง ตัดสินใจสนับสนุน ช่วง ม.ปลาย ถ้ามีโอกาสควรหาโครงการแลกเปลี่ยน ไปเรียน จีน เกาหลี หรือญี่ปุ่น หรือโซนยุโรปไปเลย มหาวิทยาลัยส่วนนี้ก็ตามศักยภาพและความชอบแล้วที่จะผลักดันให้เรียนอะไรเพื่อสอบในไทย หรือไปเรียนต่อ ตปท.เลยทีเดียวยาว ๆ
แต่บางความคิดมองว่า เงินก้อนควรให้หลังจากลูกเรียนจบ โดยความคิดเห็นที่ 4 อธิบายว่า ถ้าสำหรับเรา เงินก้อนนี้คือหลังจากลูกเรียนจบค่ะ เป็นเงินทุนตั้งตัว เพราะเราคิดว่าการศึกษาระหว่างอนุบาลถึงมัธยมมันไม่จำเป็นต้องลงทุนมากมายอะไร เรื่องภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส หรืออะไรก็แล้วแต่ เด็กหรือคนที่ใช้ได้ดี คือคนที่ได้ใช้ตลอดเวลา ง่าย ๆ คือสอนที่บ้าน พ่อแม่พูดไปเลยตั้งแต่ลูกเกิด จะเป็นพ่อหรือแม่ก็ได้ เด็กจะเป็นเร็ว และเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วงประถมถึงมัธยม เรามองว่ามันคือช่วงที่เด็กค้นหาตัวเอง ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไรกันแน่ 8 วิชาหลัก ไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินมากมายขนาดนั้น เรามองว่าทุ่มเฉพาะทางไปเลยดีกว่า ส่วนมหาวิทยาลัยเน้นขอทุน หรือถ้ามันเป็นคณะที่ต้องใช้เงินก็ลองหาลู่ทางอื่นดูค่ะ ส่วนตัวเราไม่ลงทุนกับการศึกษา เพราะทุกวันนี้การศึกษาฟรีมีมากมาย khanakademy edx coursera คอร์สออนไลน์ของแต่ละสถาบัน อย่าง MIT หรือ wharton ก็ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับค่ะ แต่ถ้ามีแนวเวิร์คชอป หรือฝึกงานจริง เราจะยอมลงทุนค่ะ
ด้านความคิดเห็นที่ 5 ก็สนับสนุนความคิดในการให้เงินในวัยทำงาน โดยระบุว่า เงินช่วยถ้าเขาตัดสินใจทำธุรกิจ และเจียดมาเล็ก ๆ ช่วยตอนประถม-อนุบาลนิดหน่อย นอกจากช่วงนั้นเด็กควรหาเงินเรียนเอง ไม่ว่าจะด้วยทุนการศึกษาหรือทำงาน
กระทู้นี้มีคุณพ่อคุณแม่มาแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย และยังมีเด็กมาแสดงความคิดเห็นเช่นกัน โดยเจ้าของคอมเมนท์ระบุว่า ตอนนี้อายุ 19 นะครับ สำหรับผมความเหลื่อมล้ำที่เห็นชัดเลย 2 อย่างที่เด่น ๆ
- ภาษา เป็นไปได้ ผมอยากให้พ่อเเม่ผมส่งผมเก่งภาษาตั้งเเต่เด็กเลย ถ้าได้จะสบาย
- ม.ปลาย เงินมากพอให้เรียนพิเศษ ถ้าไม่สอบหมอก็อาจจะน้อยหน่อย เพราะได้ภาษาเเต่เด็กเหลือเรียนไม่กี่วิชา
คิดว่า 2 อย่างนี้เงินที่เตรียมมาเหลือ ๆ ก็ให้หลังเรียนจบ อันนี้เพิ่มเติม คือส่งให้อยู่ในโรงเรียนที่มีสังคมที่ดี สังคมนี่มีผลมากในด้านความคิด ความรับผิดชอบ อย่างสุดท้ายคือทำให้เห็นว่าการศึกษามันสำคัญ อย่างผมพึ่งมาตระหนักได้ก่อนขึ้น ม.4 ม.ต้นเล่นเกมลูกเดียว ยังดีที่ตอน ม.ต้นสอบเข้าได้ห้อง king จึงได้สังคมดี ๆ ไป ม.ปลายมาเลยกลับตัวทัน เเต่ถ้าต่อนอกก็อีกกรณีหนึ่ง นี่เเค่ต่อในประเทศ
อย่างไรก็ตาม มีพ่อแม่หลายท่านเห็นถึงความสำคัญในการลงทุนการศึกษาตั้งแต่เล็ก เช่นความคิดเห็นที่ว่า “อนุบาลค่ะ รากฐานดี พื้นฐานดี ต่อจากนั้น ไม่ต้องทำอะไรมาก เด็กโตขึ้น หาความรู้เอง ใฝ่เรียนเองได้ ยิ่งยุคนี้ด้วยแล้ว เขาว่าความรู้อยู่ในอากาศ ล่องลอยมาตามสัญญาณเน็ต มีอยู่เต็มในโลกข้อมูลข่าวสาร”
ความคิดเห็นที่ 38 : “อนุบาล-ประถมค่ะ เป็นช่วงที่เค้าค้นหาตัวเอง พัฒนาทักษะทั้งด้านวิชาการและการใช้ชีวิตในสังคม แล้วพอขึ้นมัธยมเค้าต้องรู้จักตัวเองระดับนึงแล้วเนื่องจากมีแบ่งสายการเรียน ถ้าถึงตอนนั้นยังไม่สิ่งที่ตัวเองชอบหรือสิ่งที่ตัวเองถนัดจะแย่เอา” ด้านความคิดเห็นที่ 34 : “พัฒนาการเด็ก เจริญเติบโตไวสุดช่วง 5 ขวบแรก ควรเริ่มตั้งแต่ต้นค่ะ เฉลี่ยกันไป เสริมพัฒนาการด้านสมอง และการปรับตัวหลาย ๆ ด้านดีที่สุดค่ะ เพราะแต่ละช่วงวัยก็มีสิ่งที่ต้องเน้นแตกต่างกัน”
ส่วนความคิดเห็นที่ 41 แนะนำจากประสบการณ์จริงว่า ช่วงเวลา 0-6 ขวบ มีค่ามากที่สุดในการลงทุนกับลูกครับ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องลงทุนกับลูกในช่วงเวลานี้ คือ เวลา ครับ ไม่ใช่เงิน ทุก “วินาที” (ไม่ใช่ชั่วโมงหรือวัน) ที่ได้พูดคุยหรือเล่นกับลูก (ไม่ใช่การลงคอส์สติววิชา) สำคัญมาก ๆ ครับ
การศึกษาช่วงไหนสำคัญที่สุดในชีวิตลูก
จริง ๆ แล้วการศึกษาสำคัญทุกช่วงวัย แต่อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องพิจารณาสำหรับแต่ละครอบครัว ทีมแม่ ABK ได้พูดคุยกับ นพ.ยลัญพล ธิรากุลนันท์ชัย แพทย์ประจำบ้านกุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เจ้าของเพจเลี้ยงลูกให้เป็น สไตล์หมอๆ ในเรื่องการศึกษาลูกเน้นช่วงไหนดี โดยคุณหมอให้ความคิดเห็นว่า ถ้าพูดถึงว่าการศึกษาในช่วงเวลาใดสำคัญในช่วงชีวิต ถ้าให้หมอตอบตามตรงคือทุกช่วงเวลาสำคัญหมด เพราะในแต่ละช่วงเวลาเด็กจะมีการเจริญเติบโตทางสมองและความคิด
ในมุมมองเรื่องการลงทุนด้านการศึกษา วัยอนุบาลก็เป็นช่วงวัยที่ค่อนข้างสำคัญต่อชีวิตของลูก นพ.ยลัญพล เสริมว่า ช่วงวัยอนุบาลถือเป็นวัยที่สำคัญของชีวิตลูก เพราะเป็นวัยที่สร้างพื้นฐานทักษะการใช้ชีวิต และสภาวะทางอารมณ์
“ในช่วงแต่ละเวลาการคิดหรือการเจริญเติบโต หรือการมองโลกก็ต่างกัน เช่นในวัยเด็กเล็ก ที่ยังมองว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล การให้ลูกได้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิต การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเด็กเล็กเป็นวัยที่สร้างพื้นฐานทักษะการใช้ชีวิต และสภาวะทางอารมณ์ แต่คุณพ่อคุณแม่เองก็เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาของเด็กด้วย เพราะถึงจะเป็นวัยไปโรงเรียน แต่เวลาอีกเกินครึ่ง ลูกก็จะอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองอยู่ดี” นพ.ยลัญพล แนะนำ
ส่วนการให้ความสำคัญกับลูกในแต่ละช่วงวัย เจ้าของเพจเลี้ยงลูกให้เป็น สไตล์หมอๆ อธิบายว่า ถ้าลองแบ่งเป็นช่วงแต่ละวัยก็จะเป็น ดังนี้
- อนุบาล – เป็นวัยที่อยากรู้ อยากเห็น ควรจะเปิดโอกาสให้ลูกได้ถาม ไม่ควรทำว่าสิ่งที่ลูกอยากรู้อยากเห็นเป็นเรื่องผิดหรือไร้สาระ ด้วยการตอบสนองที่เหมาะสมจะเป็นการสร้างพื้นฐานทางความคิด และทักษะการใช้ชีวิต โดยวัยอนุบาลจะเป็นวัยที่ได้เข้าสังคม เรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นนอกจากคนในครอบครัวด้วย
- ประถมศึกษา – ประถมจะเป็นวัยที่อยากลองทำอะไรต่าง ๆ หาประสบการณ์ใหม่ ๆ เป็นช่วงที่จะพัฒนาสติปัญญา พัฒนาทักษะทางร่างกาย ในวัยนี้คุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุนในกิจกรรมต่าง ๆ ที่ลูกอยากจะทำ แต่ต้องไม่เป็นอันตราย หมั่นชื่นชมเมื่อลูกทำได้ดี หรือหากลูกล้มเหลว ลองพูดคุยกับลูกว่าเราจะทำอย่างไรดี เปิดโอกาสให้ลูกได้คิดและลงมือทำเอง
- วัยรุ่น – มักเป็นวัยที่เริ่มต้องการค้นหาตัวเอง ต้องการอิสระในการใช้ชีวิต และเริ่มติดเพื่อน ในฐานะพ่อแม่สิ่งที่เราควรทำคือ เปิดใจให้มาก ๆ พูดคุยกับลูกตรงไปตรงมาและไม่ใช้อารมณ์ สิ่งใดที่ทำแล้วดี แน่นอนว่าต้องชื่นชม สิ่งไหนที่ทำแล้วไม่ดี พูดกับลูกตรง ๆ ว่าทำไมพ่อแม่ถึงคิดว่าไม่ดี สิ่งไหนที่ไม่อยากให้ลูกทำ บอกไปเลยตรง ๆ ว่าไม่อยากให้ทำ พูดคุยกับลูกให้มาก ๆ ลูกจะได้มาพูดคุยกับเราได้เมื่อมีปัญหา แต่ต้องพูดคุยด้วยเหตุผล ยกเว้นตอนมีอารมณ์โกรธหรือโมโห ควรมาคุยกันตอนอารมณ์เย็นลงจะดีกว่า
นอกเหนือจากการศึกษาแล้ว พ่อแม่ก็ควรจะใกล้ชิดลูกตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้ลูกเปิดใจพูดคุยถึงสิ่งที่สนใจ เมื่อลูกได้ค้นพบตัวเอง ค้นพบความชอบ ก็ควรจะผลักดันและให้คำแนะนำอย่างเหมาะสม
อ้างอิงข้อมูล : https://pantip.com/topic/40201301
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
10 เคล็ดลับ เลี้ยงลูกให้ฉลาดรอบรู้ เก่ง ดี มีสุข ฉลาดทันคน เอาตัวรอดได้
เคล็ดลับ เลี้ยงลูกให้เก่ง ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เริ่ม 1 – 7 ขวบ