AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

7 ประเทศดูแลเด็กๆ อย่างไรเมื่อ โรงเรียนเปิดเทอม 2563

โรงเรียนเปิดเทอม 2563 หลังวิกฤติไวรัสโคโรนาเริ่มคลี่คลาย หลายประเทศก็เริ่มเปิดเมืองและกลับมาใช้ชีวิตประจำวันบางอย่างได้บ้างแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าโรคระบาดครั้งนี้ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้ชีวิตของผู้คนบนโลกทุกเพศทุกวัย ส่วนที่โดนเต็มๆ เลยก็คือลูกๆ ของเราที่ต้องกลับไปรวมกลุ่มกันที่โรงเรียน

ประเทศต่างๆ ดูแลนักเรียนอย่างไร ช่วงโรงเรียนเปิดเทอม 2563 

แม้บ้านเราจะยังปิดเทอมยาวอีกหลายเดือน แต่ตอนนี้บางประเทศเริ่มกลับมาเปิดเทอมกันแล้ว ไหนลองไปส่องนโยบายประเทศต่างๆ กันหน่อยซิว่า เขามีวิธีดูแลนักเรียนหลังการแพร่ระบาดอย่างไร เพื่อให้เด็กๆ ปลอดภัยและมีสุขอนามัยที่ดี  Amarin Baby & Kids ชวนคุณพ่อคุณแม่ไปส่องวิธีการของประเทศต่างๆในการดูแลเด็กๆ อย่างน้อยก็เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูล และอาจนำมาปรับใช้ยามที่ลูกของเราต้องเดินกลับเข้ารั้วประตูโรงเรียนเช่นกัน

แนวทางดูแลเด็กของ 7 ประเทศทั่วโลก รับ โรงเรียนเปิดทอม 2563 

จีน

จุดเริ่มต้นของเชื้อไวรัสโคโรน่า และมีจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ตายชีวิตจำนวน แม้ปัจจุบันรัฐบาลจะประกาศให้ประชาชนออกมาใช้ชีวิตต่างปกติได้แล้ว แต่ก็ยังเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กๆ ที่เน้นเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing), โดยกำชับให้เด็กๆ สวมหน้ากากอนามัย, กำหนดเส้นทางเดินเข้า-ออกห้องเรียนไม่ให้เกิดความแออัด ติดตั้งกล้องวัดอุณหภูมิเพื่อคัดกรองนักเรียนที่มีไข้สูงก่อนเข้าโรงเรียน โรงเรียนบางแห่งทำคอกกั้นโต๊ะเรียน และกั้นโต๊ะในโรงอาหารเหมือนเวลาสอบ เพื่อไม่ให้นักเรียนอยู่ใกล้ชิดกันมากเกินไป

เครดิตภาพ : thetop10news.com

เยอรมนี

โรงเรียนทั่วไปในเยอรมนีจะทยอยกลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 4 พฤษภาคม โดยเริ่มจากเด็กประถมปลายและนักเรียนที่ต้องสอบไล่หรือกำลังจะจบการศึกษา โดยให้อำนาจกับผู้ว่าการรัฐเลือกว่า จะให้โรงเรียนเปิดเป็นบางส่วน หรือเลื่อนกำหนดเปิดเรียนทุกชั้นออกไปทั้งหมด

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทุกโรงเรียนต้องประกาศมาตรการเพื่อสุขอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคมให้เด็กๆทราบเพื่อเตรียมตัวล่วงหน้า ถึงกระนั้นก็ยังมีเสียงบ่นเจือความกังวลอยู่ว่า ทางโรงเรียนจะสามารถจัดเตรียมสบู่, แผ่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค และชุดป้องกันโรคได้เพียงพอตอดช่วง โรงเรียนเปิดเทอม 2563 นี้ หรือไม่

เดนมาร์ก

สำหรับโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษา ของเดนมาร์กปิดไปเมื่อ 5 สัปดาห์ก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้ง เมื่อยอดผู้ติดเชื้อรายวันลดลง โดยในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา นักเรียนหลายหมื่นคนเริ่มกลับไปเรียนหนังสือ โดยตัดสินใจเองได้ว่า ตัวเองจะรักษาระยะห่างทางสังคม 2 เมตรอย่างไร

โรงเรียนอนุบาลส่วนใหญ่ จะแบ่งนักเรียนในหนึ่งห้องออกเป็น 2 กลุ่ม โดยมีครู 1 คนดูแลนักเรียนราว 10 – 11 คน และถ้าเป็นไปได้เด็กๆ จะออกไปเรียนนอกห้องที่อากาศเปิดโล่ง หรือเล่นเป็นกลุ่มย่อยเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อ ส่วนอีกหลายคนอาจเลิกเรียนเร็วกว่า เพื่อแบ่งกันใช้อุปกรณ์การเรียนต่างๆ โดยไม่ทำเกิดการแออัดในห้องเรียน

ส่วนโรงเรียนประถมศึกษา จะจัดโต๊ะนักเรียนให้ห่างกัน 6 ฟุต บางวิชาเรียนในโรงยิมกว้างๆ ขณะที่คุณครูจะคอยเตือนให้เด็กๆ ล้างมืออย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง ทั้งนี้คนเดนมาร์กไม่นิยมสวมหน้ากากอนามัยกันนัก

อ่านต่อ มาตรการดูแลเด็กช่วงเปิดเทอม หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ไต้หวัน

ลองมาส่องดูประเทศไต้หวัน ที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลกว่ารับมือกับไวรัสโคโรน่าได้อย่างสุดสตรอง และกลับอนุญาติให้ โรงเรียนเปิดเทอม 2563 ได้รวดเร็วตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยกำหนดมาตรการเข้มงวดให้ นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนทั้งหมดจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด จัดโต๊ะเรียนแบบแยกกัน เปิดหน้าต่างและช่องระบายลมให้อากาศถ่ายเท งดกิจกรรมกีฬาและพละศึกษา หากโรงเรียนไหนตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 คน จะต้องยกเลิกการเรียนการสอนทันที

เครดิตภาพ : www.straitstimes.com

สวีเดน

ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดประเทศสวีเดนดูจะจัดการกับสถานการณ์แบบสบายๆกว่าประเทศอื่นในยุโรป เพราะโรงเรียนประถม และมัธยมต้นยังคงเปิดให้มีการเรียนการสอนตามปกติ แต่กลับประกาศปิดโรงเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยแทน ที่เป็นเช่นนี้เพราะทางสวีเดนเห็นว่าเด็กเล็กไม่ใช่ผู้แพร่เชื้อหลัก ทั้งนี้ก็ยังมีกฎห้ามไม่ให้ทำกิจกรรมที่รวมตัวกันเกิน 50 คน พร้อมทั้งขอความร่วมมือชาวสวีเดนทุกคนเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งไม่ได้เป็นการบังคับด้วยกฎหมาย

 

สเปนและอิตาลี

สเปนเป็นอีกหนึ่งประเทศในยุโรปที่กำลังเผชิญการระบาดอย่างหนักหน่วง ดังนั้นจึงยังไม่มีวี่แววว่าจะให้ โรงเรียนเปิดเทอม 2563 ในเร็วๆนี้ เพราะอย่างน้อยทั้งประเทศก็จะล็อกดาวน์ไปถึงวันที่ 9 พฤษภาคม สเปนถือว่ามีมาตรการเข้มงวดมาก และห้ามเด็กๆออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด (หากไม่มีเหตุจำเป็น) แต่ยาแรงแบบนี้ก็ช่วยให้สเปนลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้อย่างต่อเนื่อง แต่กว่าชาวสเปนจะกลับไปเป็นปกติได้ต้องใช้เวลาอีกระยะ

ส่วนอิตาลีนั้นมีคำสั่งปิดโรงเรียนตั้งแต่ 4 มีนาคมเป็นต้นมา และยังไม่มีกำหนดว่าจะกลับมาเปิดเรียนอีกเมื่อไร เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในอิตาลีนั้นสูงมาก  บรรดาคุณพ่อคุณแม่ชาวอิตาลีต้องรับหน้าที่ดูแลเด็กเล็กด้วยตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้สูงอายุสัมผัสใกล้ชิดกับหลานๆ ลดการติดเชื้อในครอบครัว ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศยังคงดำเนินไปจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคมเป็นอย่างน้อย

สำหรับประเทศไทยนั้น คณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้เลื่อนเปิดเทอมประจำภาคเรียน 1/2563 ไปเป็นวันที่ 1 กรกฎาคมในทุกระดับชั้น ส่วนหลังเปิดเทอมแล้วจะมีมาตรการการดูแลเด็กๆ อย่างไร คุณพ่อคุณแม่คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ที่แน่ๆ อย่าลืมฝึกลูกสวมหน้ากากอนามัยจนเป็นนิสัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ เหมือนที่เราทำระหว่างหยุดอยู่บ้านเพื่อหมอกันด้วยนะคะ

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

อาการเสี่ยงโควิด จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรู้รส?

แนะ!12 กิจกรรมให้ลูกทํา สุดเจ๋ง เมื่อต้องอยู่บ้านหนีโควิด19+ปิดเทอมยาว

วิธีดูแลใจเด็กๆ ในช่วงวิกฤติโควิด-19


แหล่งข้อมูล www.telegraph.co.uk

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids