AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

กลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม ประถมศึกษาฝีมือพ่อแม่

 

ถ้าถามว่าความสุขของคนเป็นพ่อเป็นแม่คืออะไร เรามักจะได้คำตอบอย่างรวดเร็วจนแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด นั่นก็คือ “ทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก” คำตอบนี้สั้นง่ายแต่กินใจน่าดู ดังนั้น เราจะพาคุณผู้อ่านไปดูฝีมือของกลุ่มคุณพ่อคุณแม่ตัวอย่าง ที่ได้รวมตัวลงมือลงแรงสร้างสรรค์การเรียนการสอน เพื่อให้ลูกๆ ของพวกเขาได้รับสิ่งที่เหมาะสมและดีที่สุด

ถ้ามีคำถามว่าดีแค่ไหนน่ะหรือ ก็ดีจนต้องบอกต่อไงคะ

 

 

รวมตัว…สร้างกลุ่ม

เรามีนัดกับคุณแม่อ้อ-สุทธิพร สายเพ็ชร์ หนึ่งในสมาชิกของ 6 ครอบครัวที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม มาช่วยบอกเล่าความเป็นมาเป็นไปของกลุ่มเรียนเล็กๆ กลุ่มนี้ “คุณแม่เปิ้ล-วริศรา เมธาวิศาลเป็นผู้จุดประกายความคิดนี้ขึ้นมาค่ะ เพราะว่าพวกเรายังติดใจการเรียนการสอนจากโรงเรียนอนุบาลที่ลูกเรียนอยู่ เด็กๆ ยังสนุกกับการเรียนรู้แบบนั้น แต่พอไปหาโรงเรียนประถมก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่ พวกเราจึงรีบช่วยกันต่อยอด”

หลังจากได้แนวคิดแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ร่วมแรงลงมือทำทันที และโชคดีที่ได้ผู้นำทีมอย่างคุณครูสุ-สุวาณี พงศ์วัชร์ เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน จากจุดเริ่มต้นของครอบครัวเล็กๆ ในปี 2550 จนกระทั่งวันนี้ ครอบครัวปฐมธรรมใหญ่ขึ้น (นิดหน่อย) แต่ยังอบอุ่นเหมือนเช่นเคย

 

 

เรียนรู้จากของจริง

“ที่นี่เราเรียนกันแบบบูรณาการ เน้นกระบวนการสร้างทักษะการเรียนรู้ค่ะ เด็กๆ ต้องสังเกต บันทึก วิเคราะห์และเชื่อมโยงให้ได้ มีการเอาธรรมชาติมาเป็นสื่อ และทุกๆ วันศุกร์เราก็จะยกบ้านกันไปทัศนศึกษานอกห้องเรียนไปดูของจริงกัน คราวนี้ไม่ใช่เฉพาะเด็กๆ ที่สนุกล่ะ คุณพ่อคุณแม่ก็สนุกด้วยค่ะ” คุณแม่อ้อบอกเล่าให้เราฟังด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มเปี่ยมสุข

“ส่วนหลักสูตรที่ใช้สอนก็อิงกับหลักสูตรแกนกลางโดยมีคุณครูตูน-วชิราภรณ์ สิทธิสมาน เป็นผู้ดูแลค่ะ เราสอนตามหลักสูตรกำหนด แต่แตกต่างที่วิธีที่เราปรับให้เหมาะสมขึ้น เราเน้นให้เด็กจดบันทึก ถ้ายังเล็กอยู่เขียนไม่คล่องก็วาดรูปเอาค่ะ

“เรามีคุณครูประจำ 4 ท่าน และยังมีครูพิเศษอย่างอาจารย์วัชระ อยู่สวัสดิ์ สอนวิชาธรรมชาติ ครูพิเศษเฉพาะด้าน สอนศิลปะ โขน และดนตรีไทย แม้สัดส่วนครูต่อนักเรียนถือว่ามากอยู่ แต่พอเป็นคุณครูที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมีวิธีการสอนที่ปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ต่างๆ เด็กๆ จึงได้รับความรู้อย่างเต็มที่ อีกทั้งคุณครูสามารถค้นหาและต่อยอดศักยภาพของเด็กแต่ละคนได้ด้วย

“เราจะเรียนคละชั้นในวันไปทัศนศึกษา วิชาธรรมชาติ และศิลปะ แต่ในวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทยนั้นแยกเรียนตามระดับชั้น ตอนเย็นหลังบ่ายสามโมง เราก็จะไปเรียนวิชาพลศึกษากันที่มหาวิทยาลัยมหิดล”

 

 

 

อยู่กันแบบครอบครัว

ความพิเศษของบ้านปฐมธรรมก็คือแต่ละบ้านมีการส่งตัวแทนแวะเวียนมาให้ความรู้เด็กๆ แบบไม่มีกั๊ก โดยตัวแทนเป็นคนที่มีความรู้ ความถนัดและประสบการณ์ในแต่ละด้าน เช่น คุณพ่อโก้ที่ร่ำเรียนและเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ ก็มาช่วยสอนวิทยาศาสตร์ เด็กๆ จะถูกกระตุ้นให้สงสัยด้วยคำถาม และสนุกไปกับหาคำตอบจากการทดลอง หรือคุณยายอารมณ์ที่ถนัดงานฝีมือ ก็สละเวลามาสอนวิชาการงานอาชีพ (วันที่เราไปสัมภาษณ์เห็นเด็กๆ กำลังขะมักเขม้นกับการทำตุ๊กตาล้มลุกเพื่อนำไปบริจาคให้เด็กๆ ที่มูลนิธิเด็ก อีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำกันทุกปี) ส่วนคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่ไม่ถนัดเรื่องวิชาการหรือไม่มีเวลาว่างพอก็จะช่วยกันทำหน้าที่อื่นๆ ไปตามโอกาส อย่างเช่น ช่วยขับรถพาเด็กๆ ไปทัศนศึกษา หรือเตรียมขนมของว่าง เห็นพลังของคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้วทึ่งจริงๆ ค่ะ

 

 

 

วัดผลจากความสุข

“ที่บ้านปฐมธรรมเรายังไม่เน้นการแข่งขันค่ะ เรายังไม่เชื่อว่ามันควรจะเกิดขึ้นในช่วงประถม เราควรจะรอเมื่อเขาโต ใจเขาพร้อมก่อน ตอนนี้หน้าที่ของเราคือทำให้เขาสนุก พอสนุกแล้วเขาก็จะรักที่จะเรียนรู้เอง พวกเราเชื่ออย่างนั้นนะคะ” ถึงแม้ว่าคุณแม่อ้อจะย้ำกับเราว่าไม่ได้เน้นเรื่องวิชาการจนเกินไป จนทำให้เด็กๆ ขยาดกับการเรียน แต่สิ่งที่เราได้เห็นในสมุดบันทึกความรู้ของเด็กๆ แต่ละคน เราเชื่อค่ะว่าเด็กๆ ไม่ได้เก็บเกี่ยวแต่ความสนุก เขาได้เรียนรู้จริงและเป็นการเรียนรู้แบบมีความสุขด้วยสิ…

 

Information

baanpathomtham.com หรือ Facebook: baanpathomtham

 

บทความโดย: กองบรรณาธิการ