AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

รีวิวครีมกันแดด สำหรับเด็ก ตัวไหนเหมาะกับลูกที่สุด!

รีวิวครีมกันแดด ครีมกันแดดเด็ก …เพราะประเทศไทยอยู่ในเขตใกล้เส้นศูนย์สูตร จึงทำให้มีอากาศร้อน ซึ่งแสงแดดที่ร้อนแรงนี้อาจแผดเผาจนเป็นอันตรายต่อผิวของเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับผิวของลูกน้อยด้วยแล้ว คุณแม่ยิ่งต้องระวังให้มาก

คุณพ่อคุณแม่ควรหาครีมกันแดดดีๆ มาทาให้ลูกตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป เพราะการปล่อยให้ผิวเด็กที่บอบบางสัมผัสกับแดดโดยตรง ไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกแสบผิว ผิวคล้ำขึ้น แต่ยังทำให้ลูกมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังอีกด้วย Amarin Baby & Kids จึงมีวิธีเลือกครีมกันแดดที่ปลอดภัยและเหมาะต่อผิวของลูกมาฝากค่ะ

รีวิวครีมกันแดด สำหรับเด็ก ตัวไหนเหมาะกับลูกที่สุด

การทาครีมกันแดดให้ลูกเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะรังสี UVA และ UVB เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ทำให้ผิวไหม้ตั้งแต่ระดับน้อยถึงรุนแรงมาก ทำให้เซลล์ผิวเสีย แก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอย เป็นฝ้า ตกกระ กระตุ้นการเติบโตของไฝ และทำให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนัง

นอกจากนี้อาจทำให้โรคผิวหนังบางอย่างมีอาการกำเริบได้ เช่น โรคเริม โรคพอร์ไพเรีย (Porphyria) การกินยาหรือใช้ยาบางอย่างอาจทำให้ไวต่อแสงและได้รับอันตรายจากแสงมากขึ้น เช่น ยาปฏิชีวนะบางชนิด หรือยาทาแก้สิวบางตัว จึงต้องระวังการออกแดดเป็นพิเศษ

ซึ่งวิธีป้องกันอันตรายจากแดด คือหลีกเลี่ยงแดดช่วง 11.00 น. – 15.00 น. การใส่เสื้อผ้าแขนขายาว การสวมหมวกปีกกว้าง การถือร่ม ทาครีมกันแดดที่มี SPF 15 ขึ้นไป และควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง

สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปสามารถทาครีมกันแดดของเด็กได้ แต่ถ้าอายุต่ำกว่า 6 เดือนยังไม่ควรใช้ เพราะเนื่องจากผิวหนังยังบอบบางอยู่ อาจมีปัญหาสารเคมีระคายเคืองทำให้แพ้ได้ ปัจจุบันในท้องตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อ สามารถเลือกให้ลูกได้ตามสะดวก

 

และเพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณแม่ๆ ได้พิจารณาเลือกครีมกันแดดสำหรับเด็กเพื่อใช้ทาให้ลูกน้อย วันนี้แม่น้องฮันน่าห์ และทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงมา รีวิวครีมกันแดด ซึ่งเป็น ครีมกันแดดสำหรับเด็ก ให้ได้ดูและเห็นกันจะจะไปเลยว่ากันแดดตัวไหน เหมาะกับลูกน้อยของเรา

โดยแม่น้องฮันน่าห์ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่างานนี้ไม่มีสปอนเซอร์ใดๆ มาสนับสนุนทั้งสิ้น แต่ที่อยากรีวิวให้ดูเพราะ แสงแดดที่แผดเผาตอนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน จึงเป็นห่วงว่าน้องฮันน่าห์ และเด็ก ๆ แสนน่ารักทั้งหลายจะถูกแดดเผาจนผิวไหม้เกรียมและอาจถึงขั้นเป็นโรคมะเร็งที่ผิวหนังได้ จึงขอพลีกายตัวเอง และแอบขอยืมตัวน้องชายซึ่งเป็นเด็กน้อยวัยประถมที่ชอบวิ่งเล่นตากแดด มารีวิวครีมกันแดดให้คุณแม่ๆ ได้ดูกันค่ะ

แต่ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับคำศัพท์ ที่มักจะเจอในครีมกันแดด กันค่ะ เพื่อให้คุณแม่ได้เปรียบเทียบก่อนเลือกซื้อครีมกันแดดในแต่ละยี่ห้อ

อ่านต่อ >> “คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อนซื้อครีมกันแดด” คลิกหน้า 2


ขอขอบคุณเนื้อหา “ครีมกันแดดสำหรับเด็ก เลือกแบบไหนดี?” จากแพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด (เนื้อหาส่วนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการ รีวิวครีมกันแดด ในหน้าถัดไป)

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

การทำงานของ ครีมกันแดด

ส่วนผสมในครีมกันแดดจะทำหน้าที่ในการปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วยการดูดซับรังสี และป้องกันรังสี UV ไม่ให้ผ่านเข้าไปถึงชั้นผิว รวมไปถึงทำให้รังสี UV แตกกระจายออกไปเพื่อไม่ให้เข้าทำร้ายผิวโดยตรง

รังสี UV คือ?

SPF คือ?

SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor  ซึ่งค่าของการปกป้องแสงแดด โดยส่วนใหญ่จะคำนวณจากปริมาณจากการป้องกันรังสี UVB โดยตัวเลขของ SPF บ่งบอกถึงความสามารถในการปกป้องผิวจากการถูกเผาไหม้จากแสงแดด ได้นานเท่าไหร่ เช่น SPF 15 หมายถึง ป้องกันผิวจากการไหม้ได้ 15 เท่า คือถ้าปกติคุณแม่พาลูกน้อยออกไปสู่แดดโดยไม่ได้ทาครีมกันแดดดอาจทำให้ผิวไหม้ภายใน 20 นาที …แต่ถ้าหากทาครีมกันแดด SPF 15 แล้ว จะทำให้การที่ผิวจะถูกแสงแดดทำลายนั้น ต้องใช้เวลา เป็น 15 เท่าของ 20 นาที หรือ ประมาณ 300 นาที (5 ชั่วโมง) ผิวถึงจะถูกไหม้จากแสงแดดได้นั่นเอง

ซึ่งโดยทั่วไป ครีมกันแดด SPF ประมาณ 15 ก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับเด็กที่มีผิวซึ่งไวต่อแดด หรือผิวถูกแผดเผาให้หมองคล้ำได้ง่ายนั้น ใช้ SPF 30 ก็ถือว่าเพียงพอที่จะปกป้องผิวได้แล้ว แต่ถ้าอยากใช้ที่มีค่า SPF เยอะกว่านี้ก็ไม่เป็นไร

เมื่อดูจากค่า SPF และปริมาณการดูดซับรังสียูวีบี พบว่า

⇒ ค่า SPF เท่ากับ 2 จะดูดซับ UVB ได้ 50%
⇒ ค่า SPF เท่ากับ 4 จะดูดซับ UVB ได้ 75%
⇒ ค่า SPF เท่ากับ 8 จะดูดซับ UVB ได้ 87.5%
⇒ ค่า SPF เท่ากับ 15 จะดูดซับ UVB ได้ 93.3%
⇒ ค่า SPF เท่ากับ 20 จะดูดซับ UVB ได้ 95%
⇒ ค่า SPF เท่ากับ 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7%
⇒ ค่า SPF เท่ากับ 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8%
⇒ ค่า SPF เท่ากับ 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%

จะเห็นว่า ค่า SPF หลังจาก 30 แล้ว ค่าที่จะป้องกัน แสง UV ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่ากับ SPF ที่เพิ่มขึ้น เพราะค่า SPF สูง ๆ นั้น ไม่ได้หมายความว่า จะปกป้องแสงแดดได้ดีไปกว่า ค่า SPF ที่ต่ำกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ค่า SPF สูง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย และยังเป็นไปได้ว่าอาจจะมีผลข้างเคียงที่อาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้เช่นอาจจะเกิดผดผื่นคันได้ นอกจากนี้ยังอาจจะทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดรอยด่างขึ้นได้ และยังอาจจะทำให้เป็นคราบสีเหลืองติดเสื้อผ้าอีกด้วย

จึงแนะนำว่าควรใช้ครีมกันแดดค่า SPF สูง (15 ขึ้นไป) ในกรณีที่ต้องตากแดด เป็นเวลานานติดต่อกันและใช้ค่า SPF ต่ำ ในกรณีที่โดนแดดเป็นครั้งคราวระหว่างวัน ซึ่งควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง นะคะ

PA คืออะไร    

ครีมกันแดดใหม่ ๆ ที่วางขายกันในตลาดมักประกอบไปด้วย UVA Filter และค่าที่วัดการป้องกันรังสี UVA เรียกว่า PA PA ย่อมาจากคำว่า Protection Grade of UVA ในขณะนี้ยังไม่มีหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐานในการวัดค่าการดูดซึมของรังสี UVA ดังนั้นจึงถือเอาคำว่า PA เป็นหน่วยวัดรังสี UVA อย่างไม่เป็นทางการ

ค่า PA นั้นจะมี 3 ระดับคือ PA+,PA++ และ PA+++

Hypoallergenic

ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ และไม่ทำให้เกิดการแพ้ แต่แปลว่ามีโอกาสแพ้น้อย (รวมทั้งเครื่องสำอางสำหรับเด็กอ่อนด้วย) เพราะได้ตัดสารบางอย่างที่เสี่ยงต่อการระคายเคืองออกไปเช่น น้ำหอม เป็นต้น และที่สำคัญ ยังไม่มีบริษัทไหนในโลกที่สามารถผลิตเครื่องสำอางที่ไม่แพ้เลยได้ หรือที่เรียกกันว่า Nonhypoallergenic

Non-comedogenic

non-comedogenic หมายถึง ไม่อุดตันรูขุมขน ถ้ามีคำนี้ระบุบนฉลาก ก็สามารถวางใจได้ ว่าครีมกันแดดยี่ห้อนั้นมีความเสี่ยงน้อยที่จะทำให้ผิวของลูกน้อยอุดตัน จนเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง

Water-resistant

ครีมกันแดดที่ดีต้องกันน้ำ เพราะคู่ปรับสำคัญของครีมกันแดดก็คือน้ำ ไม่ว่าจะทาครีมกันแดดแล้วไปว่ายน้ำ หรือจะเป็นเหงื่อไหลไคลย้อยชะล้างครีมออกไปจากผิวหมดจนไม่เหลือประสิทธิภาพการกันแดดเลย โดยมากหากครีมกันแดดระบุว่า Water-resistant ก็จะสามารถทาแล้วเล่นน้ำได้นานสูงสุดไม่เกิน 80 นาที ก่อนที่ครีมกันแดดจะถูกน้ำชะล้างออกไปหมด

Fragrance-free

ปราศจากน้ำหอม หากครีมกันแดดมีส่วนผสมน้ำหอมเยอะ ผิวลูกน้อยของคุณแม่ก็ต้องรับภาระหนักในการซึมซาบน้ำหอมเหล่านี้ ดังนั้นถ้าผิวเด็กที่ค่อนข้างบอบบางและแพ้ง่าย อย่าลืมมองหาคำว่า Fragrance-free หรือ “ปราศจากน้ำหอม” บนฉลากเสมอด้วยนะคะ

 

 

อ่านต่อ >> “รีวิวครีมกันแดดสำหรับเด็ก 11 ยี่ห้อ พลีกายเพื่อลูกน้อยโดยเฉพาะ” คลิกหน้า 3


ขอบคุณข้อมูลจาก : women.kapook.com , women.thaiza.com , marketeer.co.th

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

สำหรับการ รีวิวครีมกันแดด ในครั้งนี้ เป็น ครีมกันแดดเด็ก ที่สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ซึ่งตัวแม่น้องฮันน่าห์เองก็ได้ไปเสาะแสวงหา ครีมกันแดดเด็ก มารีวิวให้ดูทั้งหมด 11 ยี่ห้อด้วยกัน ดังนี้

  1. Pigeon UV Baby Water Milk SPF 15 PA++ ปริมาณสุทธิ 60 g.
  2. kodomo baby sunblock lotion SPF 30 ปริมาณสุทธิ 50 มล.
  3. d-nee kids swim & play sun block lotion SPF 30 ปริมาณสุทธิ 150 มล.
  4. Minus Sun Sunscreen Lotion Kids SPF 40 PA+++ ปริมาณสุทธิ 30 มล.
  5. NIVEA SUN KIDS SWIM & PLAY SPF 50+ ปริมาณสุทธิ 100 มล.
  6. Cancer Council Kids Sunscreen SPF 50+ PA+++ ปริมาณสุทธิ 75 มล.
  7. Banana Boat baby sunscreen lotion SPF 50+ PA++++ ปริมาณสุทธิ 90 มล.
  8. Boots soltan kids Suncare Lotion SPF 50+ Very High ปริมาณสุทธิ 50 มล.
  9. P O Care sun Aloe Moisturizing Sun Lotion SPF 50 PA+++ kids ปริมาณสุทธิ 50 มล.
  10. Biore UV KIDS MILK SPF 50+ PA++++ ปริมาณสุทธิ 90 g.
  11. Watsons High Protection Sunscreen Kids Spray SPF 50 PA+++ ปริมาณสุทธิ 90 มล.

โดยเกณฑ์การทดสอบค รีวิวครีมกันแดด สำหรับเด็กนี้ แม่น้องฮันน่าห์ ทำการวัดผล จาก 3 ขั้นตอน คือ

ก่อนอื่นไปดูกันค่ะว่า ครีมกันแดดเด็ก ที่เราจะรีวิวแต่ละยี่ห้อเป็นแบบไหน  มีส่วนผสมอะไรบ้าง  โดยรายละเอียดนี้เป็นไปตามที่ระบุบนสินค้า

1. Pigeon UV Baby Water Milk SPF 15 PA++ ปริมาณสุทธิ 60 g. เป็นโลชั่นกันแดดสำหรับเด็กแรกเกิดขึ้นไป (ตัวนี้มีคนซื้อมาให้น้องฮันน่าห์ จากญี่ปุ่นค่ะ) เนื้อโลชั่นเป็นน้ำนม เหมาะสำหรับเด็กหรือผู้ที่ผิวแพ้ง่าย เพราะไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารระคายเคืองใดๆ ใช้ได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกและคาโมมายด์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและปกป้องผิวลูกน้อยจากแสงแดด และเค้ายังบอกอีกด้วยว่าผ่านการทดสอบด้านการแพ้และระคายเคืองต่อผิวหนังแล้ว อันนี้มีราคาเมื่อเทียบเป็นเงินไทย ในวันที่ซื้อมาราคาอยู่ที่ 220 บาท

 

2. kodomo baby sunblock lotion SPF 30 ปริมาณสุทธิ 50 มล. โลชั่นกันแดดสำหรับเด็ก  เป็นสูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับเด็กที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย  โดยสูตรนี้ กันได้ทั้ง UVA และ UVB มีการเพิ่มสาร Anti-Rash ช่วยลดผดผื่น ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เหมาะกับผิวของเด็กๆ ราคา 123.50 บาท

 

 

3. d-nee kids swim & play sun block lotion SPF 30 ปริมาณสุทธิ 150 มล. โลชั่นกันแดดสำหรับเด็กขวดนี้ หอมเพราะมีกลิ่นสวีทเบอร์รี่ มี UBA/ UVB filter ช่วยปกป้องผิวบอบบางจากรังสี UBA/ UVB ถึง 30 เท่า และมีวิตามินอี (vitamin E) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ให้เนียนละเอียดอย่างเป็นธรรมชาติ และผ่านการทดสอบทางการแพทย์ว่าอ่อนโยนต่อผิวบอบบางราคา 179 บาท

 

 

4. Minus Sun Sunscreen Lotion Kids SPF40 PA+++ ปริมาณสุทธิ 30 มล. โลชั่นกันแดดสำหรับเด็ก สูตรพิเศษเนื้อบางเบา กันน้ำ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้สำหรับทาทั่ว บริเวณใบหน้าและลำตัว ช่วยปกป้องผิวเด็กจากอันตรายของแสงแดด รังสี UVA และ UVB  อ่อนโยน และปราศจากน้ำหอม ซึ่งเป็นสาเหตุของการระคายเคืองผิว ราคา 209 บาท

 

 

 

5. NIVEA SUN KIDS SWIM & PLAY SPF 50+ ปริมาณสุทธิ 100 มล. ครีมกันแดดสำหรับเด็กที่มีความสามารถในการกันน้ำสูง ลูกน้อยจึงสนุกได้สุดๆ ในทุกกิจกรรม ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณแล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวเด็ก ประสิทธิภาพเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี Broad Spectrum ปกป้องผิวจากรังสี UVA1 ,UVA2 และ UVB  ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย Penthenol ไม่ทำให้ผิวแห้งเสีย หยาบกร้าน ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณแล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวเด็ก ราคา 419 บาท

 

6. Cancer Council Kids Sunscreen SPF 50+ PA+++ ปริมาณสุทธิ 75 มล. โลชั่นป้องกันแดดสำหรับเด็ก ปกป้องผิวที่บอบบางได้อย่างสูงสุด ไม่มีน้ำมันหอมระเหย ผ่านการทดสอบการระคายเคืองแล้ว ป้องกันแสงแดดสูงถึง 50 เท่า ปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB และยังกันน้ำได้ด้วย ราคา 380 บาท

 

 

 

7. Banana Boat baby sunscreen lotion SPF 50+ PA++++ ปริมาณสุทธิ 90 มล. โลชั่นกันแดดสำหรับปกป้องผิวเด็กอ่อน หรือผู้มีผิวแพ้ง่าย เนื้อครีมบางเบาซึมซาบเร็วไม่อุดตันรูขุมขน อุดมไปด้วยอโลเวร่าและวิตามินอี ช่วยปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้นกับผิว ไม่ระคายเคืองตา ใช้ได้แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย พร้อมช่วยปกป้องผิวจากการเผาไหม้ของแสงแดดถึง 50 เท่า พร้อมปกป้องทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง กันแดดได้ยาวนาน กันน้ำดีเยี่ยม แนะนำสำหรับเด็กอ่อนอายุ 6เดือน – 2ปี ราคา 420 บาท

 

 

8. Boots soltan kids Suncare Lotion SPF 50+ Very High ปริมาณสุทธิ 50 มล.โลชั่นกันแดดสำหรับผิวหน้า มีคุณสมบัติในการกันน้ำเป็นพิเศษ สำหรับผิวที่บอบบางของเด็ก การปกป้องจากรังสี UVA มีส่วนผสมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับผิวที่บอบบางของเด็ก โลชั่นนี้ซึมซาบสู่ผิวได้ง่ายและช่วยให้ความชุ่มชื่นอย่างต่อเนื่องช่วยลดความแห้งตึง และยังผ่านการทดสอบด้านผิวหนังแล้ว ราคา 265 บาท

 

 

9. P O Care sun Aloe Moisturizing Sun Lotion SPF 50 PA+++ kids ปริมาณสุทธิ 50 มล. กันแดดเนื้อฟลูอิด บางเบา สำหรับเด็ก และผิวแพ้ง่าย ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ทาได้ทั้งใบหน้าและผิวกาย ป้องกันได้ทั้ง รังสี UVA และ UVB ราคา 239 บาท

 

 

10. Biore UV KIDS MILK SPF 50+ PA++++ ปริมาณสุทธิ 90 g. ครีมกันแดดสูตรน้ำนมอ่อนโยนช่วยปกป้องผิวเด็กๆ จากรังสียูวี และเป็นครีมกันแดดสูตรกันน้ำด้วย ทั้งยังปราศจากแอลกอฮอล์ ไม่มีสีและน้ำหอม และเหงื่อระดับ Water Resistance ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายราคา 420 บาท

 

 

 

11. Watsons High Protection Sunscreen Kids Spray SPF 50 PA+++ ปริมาณสุทธิ 90 มล. สเปรย์กันแดดสูตรน้ำ เนื้อบางเบา สำหรับเด็ก มีค่าการปกป้องแสงแดดสูงสุดจากรังสี UVA PA+++ และ UVB SPF 50 ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ระคายเคืองผิว ผสาน 3 คุณค่าในหนึ่งเดียว ซึ่งได้รับรางวัลนวัตกรรมสารสกัดธรรมชาติ ราคา 320 บาท

 

อ่านต่อ >> “รีวิวครีมกันแดดสำหรับเด็ก 11 ยี่ห้อ พลีกายเพื่อลูกน้อยโดยเฉพาะ” คลิกหน้า 4

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อันดับแรกในการ รีวิวครีมกันแดด สำหรับเด็ก แม่น้องฮันน่าห์ขอรีวิวคุณสมบัติ “ความเหนอะ” และ “ความสามารถในการกันน้ำ” กันก่อนค่ะ ซึ่งการทดสอบทั้ง 2 อย่างนี้ก็เพื่อ ดูความเหนอะและการปาดเกลี่ยง่ายของเนื้อครีมที่ถูกป้ายลงไปบนผิวหนังของลูกน้อยว่าจะเป็นอย่างไร? ซึ่งความเหนอะ ในที่นี้คือถ้าครีมที่เหนียวหนืดมากไป เด็กๆ อาจไม่ค่อยชอบทา และเกลี่ยครีมยากอีกด้วย

ส่วนการทดสอบความกันน้ำ  ถ้าลูกไปวิ่งเล่นกลางแดด อาจมีเหงื่อออก นั่นอาจทำให้เหงื่อมีผลกับครีมกันแดด หรือหากต้องการทากันแดดเพื่อลงไปเล่นน้ำกลางแจ้ง ก็จะช่วยให้ คุณแม่ได้พิจารณาดูก่อนที่จะเข้าถึง การกันแดดนั่นเอง

โดยการ รีวิวครีมกันแดด ในครั้งนี้จะแบ่งเป็น การรีวิวบนแขนขวาและแขนซ้าย ซึ่งการรีวิวบนผิวแขนขวา จะเป็นครีมที่มี ค่า SPF 15 – SPF 40 ได้แก่ Pigeon SPF 15 , kodomo SPF 30 , d-nee SPF 30 และ Minus SPF 40

การรีวิวบนผิวแขนซ้าย จะเป็นครีมที่มี ค่า SPF 50 ได้แก่ NIVEA SPF 50 , Cancer Council SPF 50 , Banana Boat SPF 50 , Boots soltan SPF 50 , P O Care SPF 50 , Biore SPF 50 และ Watsons SPF 50

รีวิวครีมกันแดด ทดสอบความเหนอะ

ความเหนอะ ⇒ ทดสอบโดยทาเนื้อครีมลงบนผิวแล้วปาดดูเนื้อครีม

รีวิวครีมกันแดด ทดสอบความเหนอะ

สรุปการรีวิวทดสอบด้านความเหนอะ และ Texture (สี ลักษณะ สัมผัส) คะแนนเต็ม 5
ความหมาย : 0-1 เหนอะหนะมาก , 2-3 เหนอะหนะปานกลาง , 4 เหนอะหนะน้อย , 5เหนอะหนะน้อยที่สุด

  1. Pigeon ด้วยความที่เป็นน้ำนมสีขาว เมื่อทาครีมลงไปจึงทำให้ไม่มีความเหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ตัวนี้แม่น้องฮันน่าห์ให้ 5/5
  2. kodomo อันนี้กลิ่นเหมือนแป้งโคโดโมะของเค้าเองเลย ส่วนเนื้อครีมเป็นสีขาว บางเบา ไม่เหนอะหนะมาก แต่อาจเกลี่ยซึมผิวยากนิดนึง ให้ 4/5 ค่ะ
  3. d-nee กลิ่นหอมมาก เนื้อครีมเป็นแบบโลชั่นทาตัวทั่วไป ทาง่าย ไม่ค่อยเหนอะหนะ ได้ 4/5 ค่ะ
  4. Minus อันนี้คือเป็นแบบโลชั่นที่เนื้อครีมเป็นน้ำ บางเบามาก ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย ทาปุ๊บซึมเข้าผิวปั๊บ ไม่ต้องเกลี่ยเลยค่ะ ให้ 5/5
  5. NIVEA เนื้อครีมเป็นสีขาว เกลี่ยทาง่ายไม่เหนอะเท่าไร ให้ 4/5 ค่ะ
  6. Cancer Council ตัวนี้เนื้อครีมเป็นสีครีม มีความเหนอะมาก ยากต่อการกลี่ยทา คือทาวนซ้ำหลายรอบมาก และด้วยเนื้อครีมที่หนา ทำให้ทายาก ซึมเข้าผิวช้า ให้ 2/5 ค่ะ
  7. Banana Boat ตัวนี้เนื้อครีมสีขาว ไหลเยิ้มมาเป็นน้ำเลยตอนเท พอทาปาดไปที่ผิว เหมือนทาง่าย แต่แอบมีความเหนอะนิดๆ  ซึมเข้าผิวช้า ให้ 3/5 ค่ะ
  8. Boots soltan มีกลิ่นหอมนิดๆ แต่เนื้อครีมเป็นขาวเข้ม จับตัวเป็นเหมือนก้อนเล็กๆ แต่ไม่แข็ง แต่จะไหลออกมาเกินความต้องการ ทำให้เวลาบีบ ครีมจะเลอะอยู่ที่ปากหลอดเต็มไปหมด เนื้อครีมดูเหมือนทาง่าย แต่เหนอะอยู่มาก ให้ 2/5 ค่ะ
  9. P O Care ตัวนี้เป็นเนื้อครีมสีขาว ตอนปาดมีความเหนอะหนะผิว และมีความมันด้วย ทาซึมเข้าผิวยากนิดนึง ให้ 2/5 ค่ะ
  10. Biore ตัวนี้เนื้อครีมเป็นน้ำนมสีขาว เช่นเดียวกับ Pigeon เลย ทาง่าย เกลี่ยง่ายไม่เหนอะหนะ ให้ 5/5 ค่ะ
  11. Watsons อันนี้เป็นแบบสเปรย์ค่ะ เนื้อครีมจึงเป็นน้ำสีขาว ไม่เหนอะหนะเท่าไร แต่ทานานกว่าจะซึมเข้าผิว ให้ 3/5 ค่ะ

ความหนืด ทดสอบโดยเทครีมลงบนกระดาษและดูการไหลของครีม

รีวิวครีมกันแดด ทดสอบความหนืด

 

สรุปการรีวิวทดสอบความหนืดของครีมกันแดด จากวิธีการ :

ขั้นที่ 1 บีบครีมกันแดดลงบนกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะจนครบทุกยี่ห้อ
ขั้นที่ 2 จากนั้นพลิกกระดาษตั้งขึ้น เพื่อให้ครีมไหลลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก
ขั้นที่ 3 แล้วจัดกลุ่มความหนืดของครีมกันแดด ตามการไหลลงของครีมแต่ละยี่ห้อ ได้ดังนี้

รีวิวครีมกันแดด กลุ่มที่ 1 : มีความหนืดน้อย – น้อยที่สุด

รีวิวครีมกันแดด กลุ่มที่ 2 : มีความหนืดน้อย

รีวิวครีมกันแดด กลุ่มที่ 3 : มีความหนืดปานกลาง

 


รีวิวครีมกันแดด “ความสามารในการกันน้ำ” ทดสอบโดยการนำแขนที่ทาครีมไปหมุนวนในสระน้ำ 2 ครั้ง (การวนในสระน้ำ เพื่อจำลองเปรียบเทียบเมื่อลูกลงว่ายน้ำ)

สรุปการรีวิวทดสอบการกันน้ำของครีมกันแดด คะแนนเต็ม 5 ซึ่งต้องบอกก่อนว่าบางตัวอาจไม่ได้กันน้ำโดยเฉพาะ แต่ก็อยากให้เห็นว่าถ้าลูกเล่นแล้วเหงื่อชุ่มจะเป็นอย่างไร นอกจากนั้นคุณแม่ควรเลือกซื้อแบบมีสูตรกันน้ำด้วย สำหรับเด็กที่จะไปว่ายน้ำกลางแจ้งหรือที่ทะเล

ความหมาย : 0-1 กันน้ำไม่ได้ , 2-3 กันน้ำได้น้อย , 4 กันน้ำได้ปานกลาง , 5 กันน้ำได้ดี

รีวิวครีมกันแดด บอกให้จุ่มน้ำ น้องชายก็วนใหญ่เลยค่ะ กลัวไม่เห็นภาพจริง ว่าถ้าเล่นน้ำแล้วจะเป็นอย่างไร
  1. Pigeon รอบแรกพอกันน้ำได้ รอบที่สองยังมีร่องรอยครีมเหลืออยู่ แต่เนื้อครีมหายเกือบหมด ให้ 3/5 ค่ะ
  2. kodomo รอบแรกครีมมีหายไปนิดหน่อย แต่รอบสองเกือบไม่เหลืออะไรเลย ให้ 2/5 ค่ะ
  3. d-nee รอบแรกหายไปเยอะเลย รอบสองเกือบมองไม่เห็นครีมแล้วนะคะ ให้ 1/5 ค่ะ
  4. Minus ตัวนี้ระบุไว้ว่าเป็นครีมแบบกันน้ำ จึงกันน้ำได้ดีจริงๆ ทั้งการวนน้ำ 2 ครั้ง ได้ 5/5 เลยค่ะ
  5. NIVEA วนน้ำรอบแรกกันน้ำได้ วนน้ำรอบสองก็ยังพอกันน้ำได้อยู่ เพราะบนฉลากระบุด้วยว่ามีความสามารถในการกันน้ำ ให้ 4/5 ค่ะ
  6. Cancer Council ยี่ห้อนี้กันน้ำได้ดีในการวนแขนทั้งสองรอบค่ะ ด้วยความที่เนื้อครีมหนา และบนฉลากระบุด้วยว่ากันน้ำได้ ให้ 5/5 เลยค่ะ
  7. Banana Boat พอวนน้ำทั้งสองรอบ ครีมหายไปเกือบหมดเลยค่ะ ให้ 3/5 นะคะ
  8. Boots soltan วนรอบแรกยังกันน้ำได้ แต่พอวนน้ำรอบสองครีมหายไปเยอะเหมือนกัน ตัวนี้ให้ 3/5 ค่ะ
  9. P O Care รอบแรกยังพอมีครีมติดอยู่ แต่รอบสองครีมหลุดไปเกือบหมด ให้ 2/5 ค่ะ
  10. Biore รอบแรกพอได้นิดหน่อย รอบสองเกือบไม่เหลือเลย เอาไป 1/5 ค่ะ
  11. Watsons วนน้ำรอบแรกครีมจะไปหมดแล้ว วนน้ำรอบสองครีมหายวับไปเลยค่ะ ให้ 1/5 ค่ะ

อ่านต่อ >> “รีวิวครีมกันแดดสำหรับเด็ก 11 ยี่ห้อ พลีกายเพื่อลูกน้อยโดยเฉพาะ” คลิกหน้า 5

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

รีวิวครีมกันแดด สำหรับเด็ก 11 ยี่ห้อ พลีกายเพื่อลูกน้อยโดยเฉพาะ

กับการ รีวิวครีมกันแดด ในระยะเวลา 1.30 ชั่วโมง (ตามเวลาทั่วไปที่เด็กๆ ใช้ในการวิ่งเล่น) 35°C โดยการรีวิวครีมกันแดด ปิ้งย่างครั้งนี้ ขอใช้ตัว “น้องข้าวปั้น” น้องชายของแม่น้องฮันน่าห์เองค่ะ น้องเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนด้วย เห็นวิ่งตากแดดบ่อยก็น่าจะทนแดดได้ดี แม่น้องฮันน่าห์ก็เลยขอยืมตัวมาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่องานนี้โดยเฉพาะ ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ

บรรเลงลงครีมเรียบร้อย พร้อมปล่อยปิ้ง 1.30 ชั่วโมง ตั้งแต่ 16.30 น. -18.00 น.

ปล่อยให้วิ่ง 1 ชั่วโมง มีพักกินน้ำ แต่แอบดูแล้วยังไม่เกรียมเท่าไหร่ ก็เลยขออีกสักครึ่งชั่วโมงนะคะคุณน้อง…^^

เป๊งๆ!! ครบเวลาแล้ว เย้ๆ  น้องข้าวปั้นวิ่งมาหาแบบหน้าแห้งๆ ตัวดำปี๋เลย พร้อมความดีใจ ที่จะได้ลอกสก็อตเทปออกแล้ว เรามาดูผลไปพร้อมกันเลยค่ะ ว่าเวลา 1.30 ชั่วโมง ครีมกันแดดตัวไหน จะมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไรบ้าง…

.

.

.

ซึ่งจากภาพสีปกติข้างต้นที่เห็น อาจจะดูโทนสีไม่ชัดนะคะ แม่น้องฮันน่าห์จึงขอปรับภาพ เป็นโทนสีขาว-ดำ เพื่อที่จะได้เห็นความแตกต่างของความเข้มของสีสิวอย่างชัดเจน ตามภาพด้านล่างนี้ค่ะ

สรุปการ รีวิวครีมกันแดด ทดสอบประสิทธิภาพของความกันแดด ในเวลา 1.30 ชั่วโมง  โดยมีคะแนนเต็ม 5 คะแนน ผลดังนี้

  1. Pigeon ตามภาพเลยค่ะไม่มีการปรับแสงสีใดๆ คือผิวดูไม่ดำหรือไหม้แดดเลย ขาวสีเดียวกับส่วนที่ไม่โดนแดดเผา (ตรงที่แปะสก็อตเทป) งานนี้ Pigeon ได้ 5/5
  2. kodomo ดูคล้ำๆ นิดหน่อย ให้ 4/5 ค่ะ
  3. d-nee ดูคล้ำไม่ต่างจาก kodomo เท่าไหร่ แต่คล้ำกว่า ให้ 3/5 ค่ะ
  4. Minus สีที่เห็นด้วยตาเปล่าดูใกล้เคียง kodomo จึงให้ 4/5 เท่ากัน
  5. NIVEA มองด้วยตาเปล่าใกล้เคียงกับ Pigeon เลย ให้ 5/5 เท่ากันค่ะ
  6. Cancer Council ดูคล้ำอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ NIVEA ที่อยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่คล้ำเกินไป ให้ 4/5 ค่ะ
  7. Banana Boat ดูไม่คล้ำแต่ก็ไม่ขาว ถ้ามองด้วยตาเปล่าคือดูดีกว่า Cancer Council ที่อยู่ข้างๆ กันค่ะ ให้ 3/5 ค่ะ
  8. Boots soltan อันนี้คือคล้ำหนักมาก เหมือนไม่ช่วยกันแดดเลย ให้ 1/5 ค่ะ
  9. P O Care ดูแล้วสีคล้ายๆ Banana Boat ค่ะเลยขอให้เท่ากัน 3/5 ค่ะ
  10. Biore มองด้วยตาเปล่า ดูแล้วผิวแบบเกรียมๆไป ให้ 3/5 ค่ะ
  11. Watsons อันนี้ก็ดูดีนะคะ ดูผิวไหม้น้อยมาก ให้ 4/5 เลยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับผลการปิ้งย่าง 1.30 ชั่วโมงของเด็กน้อย อันนี้ก็น่าจะช่วยให้คุณแม่เลือกได้แล้ว แต่ถ้าใครยังไม่หนำใจ ลองไปดู 2.30 ชั่วโมง กับการปิ้งย่างพลีกาย จากแม่น้องฮันน่าห์ตัวจริงเสียงจริงกันค่า ^_^

อ่านต่อ >> “รีวิวครีมกันแดดสำหรับเด็ก 11 ยี่ห้อ พลีกายเพื่อลูกน้อยโดยแม่น้องฮันน่าห์” คลิกหน้า 6

รีวิวครีมกันแดดสำหรับเด็ก 11 ยี่ห้อ โดยแม่น้องฮันน่าห์

ในเวลา 2.30 ชั่วโมง กับความร้อน 35-38 °C

ภาพแผ่นหลังของแม่ฮันน่าห์ รีวิวครีมกันแดด แบบพลีชีพ

เริ่มบรรเลง ครีมเลยจ้า

ภาพแผ่นหลังของแม่ฮันน่าห์ รีวิวครีมกันแดด แบบพลีชีพ ร้อนมากกกกกกก

ทาวนไปค่ะ ท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผา คือทำเอาหลังแสบร้อนไปเลย แต่เดี๋ยวคงชินค่ะ ^^”

ภาพแผ่นหลังของแม่ฮันน่าห์ รีวิวครีมกันแดด แบบพลีชีพ

ผ่านไป 1 ชั่วโมง ครีมแห้งหมดแล้ว ขออีก 1.30 ชั่วโมงนะคะ พร้อมทำกิจกรรมอื่นๆ ไปด้วย

ภาพหลังแม่ฮันน่าห์ รีวิวครีมกันแดด แบบพลีชีพ

มาแล้วๆ อันนี้แกะสก๊อตเทปออก และเช็ดครีมออกแล้ว ถ่ายให้ดูกันสดๆ เลยค่ะ

ภาพหลังแม่ฮันน่าห์ รีวิวครีมกันแดด แบบพลีชีพ

ขออนุญาตมาสรุปผลในร่มนะคะ จากภาพที่เห็น ในเวลาปิ้งย่างรวม 2.30 ชั่วโมง กับความร้อนซึ่งมีอุณหภูมิที่ 35-38 °C ผลที่ออกมา คือ ดูใกล้เคียงกันมาก ทั้งนี้ทั้งนั้นจากภาพสีปกตินี้ คุณแม่ๆ อาจมองเห็นความเข้มของเฉดสีผิวที่เปลี่ยนไปได้ไม่ชัดเจน

จากการ รีวิวครีมกันแดด แม่น้องฮันน่าห์จึงขอปรับภาพเป็น โทนสีขาว-ดำ เพื่อให้ดูกันแบบชัดๆ อีกครั้ง ตามภาพด้านล่างนี้เลยค่ะ

ภาพหลังแม่ฮันน่าห์ รีวิวครีมกันแดด แบบพลีชีพ

จากการเปรียบเทียบภาพทั้งในโทนสี และภาพในโทนสีขาว-ดำ จะเห็นได้ว่า ความเข้มของสีผิวที่เกิดขึ้นจากทุกยี่ห้อ ไม่ได้มีผลที่ชัดเจนว่าแตกต่างกันสักเท่าไร ทั้งนี้ อาจเนื่องมาจาก แม่น้องฮันน่าห์ไม่ได้นอนปิ้งย่างอยู่กับที่ แต่มีการทำกิจกรรมอื่นๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อจำลองการเคลื่อนไหวร่างกายกลางแจ้งแบบการใช้จริงในชีวิตประจำวันทั่วไป ซึ่งการทำกิจกรรมดังกล่าว ทำให้ร่างกายมีเหงื่อออกมาตลอดเวลา และตามหลักการความเป็นจริงแล้ว คุณหมอและรวมถึงข้อมูลการใช้ครีมกันแดดบนฉลากสินค้า ได้มีการแนะนำไว้ว่า การทาครีมกันแดดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพดีสุด ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที และต้องทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหลังออกแดด ดังนั้นผลของประสิทธิภาพในการกันแดดที่แม่น้องฮันน่าห์ทดสอบรีวิวในครั้งนี้ จึงออกมาเป็นอย่างที่คุณแม่ๆ เห็นกันค่ะ ^^

*แต่อย่างไรก็ดี ในการทำทดสอบ รีวิวครีมกันแดด ครั้งนี้ แม้ผลที่ออกมาว่าความเข้มของสีผิวทั้งหมดในบริเวณที่ทาครีมจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่สิ่งที่แม่น้องฮันน่าห์อยากให้คุณแม่สังเกตดูภาพด้านล่าง คือตรงบริเวณผิวที่ล้อมกรอบสีเหลือง ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดค่ะ จึงทำให้มีลักษณะการไหม้เกรียมอย่างเห็นได้ชัด 

ภาพหลังแม่ฮันน่าห์ รีวิวครีมกันแดด แบบพลีชีพ

ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้คุณแม่ ให้ความสำคัญในเรื่องการใช้ครีมกันแดด ทาเพื่อป้องกันผิวลูกน้อยซึ่งอาจถูกแสงแดดเผาให้เกิดความไหม้เกรียม  Amarin Baby & Kids จึงสนับสนุนให้คุณแม่ใช้ครีมกันแดดทาผิวให้ลูกน้อยกันค่ะ

**การรีวิวครีมกันแดดในครั้งนี้ เป็นการพิสูจน์ผลด้วยตาเปล่า ซึ่งไม่ได้ใช้กล้อง UV ในการทดสอบเกี่ยวกับการป้องกันรังสี UV 

***การรีวิวในครั้งนี้แม่น้องฮันน่าห์ไม่ได้ทดสอบในเรื่องของการแพ้ครีมนะคะ เพราะเรื่องการแพ้ครีมในเด็ก เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ซึ่งเด็กแต่ละคนก็ย่อมมีความแข็งแรงหรือบอบบางของผิว ในการแพ้ที่แตกต่างกันออกไป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กลับการพลีกายครั้งนี้ หวังว่าคงมีประโยชน์ และเป็นตัวช่วยในการเลือกครีมกันแดดให้กับลูกน้อยได้ไม่มากก็น้อยนะคะ  แต่ก็คงไม่มีเด็กคนไหนวิ่งเล่นได้นานเกิน 2-3 ชั่วโมงโดยไม่หลบร่มหรอกนะคะ ซึ่งถ้าจะวิ่งนานขนาดนั้นและในอุณหภูมิที่ร้อนจัดก็อาจทำให้เป็นลมแดด หรือป่วยได้ ซึ่งหากคุณแม่กลัวลูกน้อยผิวไหม้ดำและเป็นมะเร็งผิวหนัง คุณแม่ต้องหมั่นทาครีมกันแดดให้ก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง นะคะเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพต่อการทนแดดของครีมแต่ละตัว …แล้วครั้งหน้าแม่น้องฮันน่าห์จะมารีวิวอะไรให้ดูอีก รอติดตามกันได้เลยนะคะ  ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  ^^

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!

Summary
Review Date
Reviewed Item
รีวิวครีมกันแดด ครีมกันแดดเด็ก 11 ยี่ห้อ = Pigeon , kodomo , d-nee , Minus , NIVEA , Cancer Council , Banana Boat , Boots soltan , P O Care , Biore , Watsons
Author Rating
5