คุณพ่อคุณแม่เคยได้ยินเรื่อง สแกนลายนิ้วมือ ไหมคะ? ว่ากันว่า การสแกนลายนิ้วมือลูก จะช่วยให้เราได้รู้ถึงศักยภาพในตัวลูก และส่งเสริมจุดเด่น ช่วยพัฒนาจุดด้อยให้ลูกได้
สแกนลายนิ้วมือ ช่วยให้เข้าใจลูกมากขึ้น จริงหรือ?
อ้อคือคุณแม่ฟูลไทม์ ที่มีลูกชายวัย 7 ขวบ เลี้ยงลูกเอง รับ ส่งลูกเอง ดูแลตัวติดกันทั้งวันทั้งคืน
โดยมีคุณพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัวทำงานหาเงิน และเป็นผู้ช่วยมือวางอันดับหนึ่งในการดูแลลูกคนเดียวของเรา
ตอนช่วงที่ลูกชายคลอดสักระยะ เพื่อนรอบข้างที่มีลูกวัย 2-3 ขวบ ต่างมาเล่าให้ฟัง ถึงความน่าทึ่งของนวัตกรรมใหม่ในการสแกนลายนิ้วมือของลูก ว่าทำให้เข้าใจลูก เรียนรู้ รับมือลูกได้มากขึ้น ความดีงามมีมากสำหรับคนเป็นพ่อแม่มือใหม่ แต่ในใจตัวเองฟังแล้วก็แอบค้านลึกๆ ว่า ลูกของเรา เราเลี้ยงเอง ทำไมล่ะ? เราจะไม่รู้ ทำไมต้องพาลูกไปสแกนลายนิ้วมือ เพื่อให้เครื่องมาอ่านนิสัย พฤติกรรมของลูก แล้วต้องเสียเงินด้วยนี่นะ เมินเสียเถอะ เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า!
จนเวลาเลยผ่านมา ลูกชายจอมซนขึ้นชั้นประถม จากมุมมองตัวเองที่คิดว่าอยู่ใกล้ชิดลูก เลี้ยงลูกไม่ยากก็เปลี่ยนไปด้วยเพราะวัยที่โตขึ้น อยู่กับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ลูกเริ่มมีพฤติกรรมที่แปลกจากเดิม
ลูกจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงขึ้นมาก ชอบออกคำสั่งกับเพื่อนคนรอบข้างแม้กระทั่งพ่อแม่ อยากเป็นผู้นำ ไม่อยากยอมแพ้ไม่ชอบความรุนแรง กลัวที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ พาไปเรียนว่ายน้ำ เรียนดนตรีเรียนกอล์ฟ เจออะไรใหม่ๆ ก็จะกลัวกังวลไปก่อนทุกทีตัวแม่เองก็ต้องเรียนรู้ และงัดทฤษฎีต่างๆ มาใช้กับเขา บางทีก็อ่อนใจเฝ้าถามตัวเองว่าเราผิดพลาดอะไร ตอนไหนหรือเปล่า? จนปรึกษาเพื่อนที่ทำงานเธอกำลังหาข้อมูล และจะพาลูกสาวตัวน้อยไปทำสแกนลายนิ้วมือพอดี จึงแนะนำให้ไปด้วยกันที่ myDNA เธอบอกว่า myDNA เดินทางง่ายนั่งรถไฟฟ้าปรู้ดเดียวถึง เหมาะกับคนเป็นแม่อย่างเรา
หากยังไม่แน่ใจก็ไม่ต้องสแกนลายนิ้วมือ แค่ไปเป็นเพื่อนก่อนก็ได้ตนเองเลยตอบตกลง ไหนๆ ก็ปิดเทอม กำลังว่างๆ พอดี
การตัดสินใจไปกับเพื่อนครั้งนี้ บอกกับตัวเองไว้ว่า เราจะลองเปิดใจสักครั้งเพื่อลูก เพราะที่ผ่านมาตัดสินว่าการสแกนลายนิ้วมือว่าไม่เหมาะ เพราะการบอกต่อๆ กันมาแต่เพียงเท่านั้น