AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

วิธีเลือกทุเรียน เอาใจแม่ สุก-ห่ามแค่ไหน จัดได้ไม่ผิดหวัง

วิธีเลือกทุเรียน ให้อร่อยถูกใจเป๊ะไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนชอบกินกรอบนอกนุ่มใน บางคนชอบกินสุกจัด หวานเจี๊ยบแบบได้กลิ่นโชยมาแต่ไกล ส่วนใหญ่ก็จะยกให้เป็นหน้าที่ของพ่อค้าแม่ค้า เลือกผลที่ใช่ แต่มีหลายครั้งผิดหวังเสียเงินฟรี แถมทุเรียนลูกหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 300 – 400 บาท แม่ๆหลายคนอยากรู้เคล็ดลับเลือกทุเรียนให้อร่อยๆด้วยตัวเองได้อย่างไร  Amarin Baby & Kids มีคำตอบเรื่องนี้มาให้แล้วค่ะ

วิธีเลือกทุเรียน แบบไหน ห่าม-สุกจัดได้ กันโดนหลอกขาย

เข้าสู่หน้าร้อนของทุกปี คุณแม่หลายคนตั้งตารอคอยจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติแสนอร่อยของราชาผลไม้ไทยอย่าง “ทุเรียน” ที่มีให้กินแบบฟินสุดๆ เฉพาะช่วงเดือนมีนาคม – กรกฎาคมเท่านั้น ไม่ว่าคุณแม่กำลังแพ้ท้องอยากกินทุเรียนเป็นพิเศษ  แม่ให้นมลูก หรือคุณแม่ทั่วไปก็ไม่อยากพลาดช่วงเวลาแสนสุขนี้ แต่ด้วยลักษณะพิเศษของทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้เปลือกหนา มีหนามแหลมคม จึงไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ว่าทุเรียนลูกนั้นสุกกำลังกิน หรือดิบเคี้ยวไม่ออกกันแน่ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะซื้อทุเรียนให้ถูกใจทุกครั้ง

ก่อนเลือกทุเรียนให้ถูกใจ ต้องรู้จักทุเรียนก่อน

ทุเรียนบ้านเรามีหลายสายพันธุ์ มาจากต่างแหล่งเพาะปลูกจึงทำให้รสชาติของทุเรียนแต่ลูกไม่เหมือนกัน ดังนั้นต้องมาทำความรู้จักกับทุเรียนให้มากขึ้นกันก่อน สายพันธุ์ทุเรียนที่นิยมรับประทานอย่าง หมอนทอง ชะนีไข่ ก้านยาว และพวงมณี หลงลับแล ภูเขาไฟ เป็นต้น

โดยมาจากแหล่งปลูกให้เลือกหลากหลาย ทั้ง ทุเรียนจากภาคตะวันออก – จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด (ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มิถุนายน) หรือทุเรียนจากภาคใต้—ชุมพร นครศรีธรรมราช และยะลา (ช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม) หรือทุเรียนนนท์ พรีเมี่ยมจากจังหวัดนนทุบรี(ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน) และ ทุเรียนลับแล (ช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม) เป็นต้น

ทุเรียนที่วางจำหน่ายในท้องตลาด จะไม่ใช่ทุเรียนที่รอจนสุกคาต้นแล้วร่วงลงมา แต่เกษตรกรจะตัดทุเรียนก่อนสุก โดยนิยมตัดผลในช่วงทุเรียนสุกระยะ 70 % เพื่อเผื่อเวลาสำหรับการขนส่งและวางขาย เมื่อถึงมือลูกค้าจะได้สุกพอดี ไม่เละเกินไป หากใครซื้อทุเรียนระยะอ่อนกว่านี้อาจได้ทุเรียนอ่อนหรือดิบเกินไป ซึ่งระยะทุเรียนที่อร่อยที่สุดจะอยู่ที่ระยะ 70 – 90 % เท่านั้น

วิธีเลือกทุเรียน ให้อร่อยต้องดูอะไรบ้าง

ทีม ABK ขอแนะนำ วิธีเลือกทุเรียน แบบง่ายๆมาแนะนำให้แม่ทั้งหลายใช้เป็นไกด์สำหรับซื้อทุเรียนด้วยตัวเอง  กระบวนการสุก ของทุเรียนเกิดขึ้น เนื้อเปลี่ยนแปลงแป้งเป็นน้ำตาล ทำให้สีเหลืองอ่อนค่อยๆเข้มขึ้น ลักษณะเนื้อทุเรียนมี 3 ระดับคือ

      “สุกจัด” หมายถึงระดับความสุกประมาณ 90 % ขึ้นไป ซึ่งนิยมกินในทุเรียนบางชนิด เช่น พันธุ์ชะนีไข่ แต่ไม่เป็นที่นิยมนัก

      “กรอบนอกนุ่มใน” หมายถึงระดับความสุกประมาณ  75 – 90 % เป็นเนื้อที่คนนิยมกินมากที่สุด โดยเฉพาะพันธุ์หมอนทอง

       “ดิบแข็ง” หมายถึงระดับความสุกน้อย 70 % เนื้อทุกเรียนยังแข็ง ไม่มีรสหวาน รับประทานไม่ได้

ปัญหาคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่า เนื้อที่อยู่ภายในเปลือกหนานี้สุกระดับไหน  ข้อมูลจากรายการเกษตรซ่อนรูป ออกอากาศเมืี่อวันที่ 12 และ 21 กันยายน 2562 ทางช่องอมรินทร์ทีวี ได้ให้วิธีเลือกทุเรียน  5 อย่างหลักๆ ดังต่อไปนี้

น้ำหนักผล

ทุเรียนพันธุ์เดียวกัน ขนาดลูกเท่ากัน ให้ลองยกขึ้นพร้อมๆกัน หากลูกไหนมีน้ำหนักเบากว่าแสดงว่าเป็น “ทุเรียนแก่” ที่สุกพร้อมกิน เพราะเนื้อได้เปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาลแล้วจึงมีน้ำหนักน้อยลง แต่”ทุเรียนอ่อน” กินไม่ได้นั้นจะหนักกว่า

 

เสียงเคาะ

คนขายส่วนใหญ่จะใช้ไม้เคาะทุเรียนแล้วฟังเสียง หากเป็นเสียงดังโปร่งๆ ก้องๆ คล้ายมีอากาศอยู่ แสดงว่าเป็นทุเรียนแก่ เพราะหลังเก็บเกี่ยวสักระยะ ทุเรียนจะคายน้ำออก ทำให้เนื้อร่อนไม่ติดเปลือก จึงเกิดช่องว่างทำให้มีเสียงดังกล่าว ขณะที่ทุเรียนอ่อน เคาะแล้วเสียงจะแน่นกว่า

ลักษณะหนามและพู

ทุเรียนตัดใหม่ที่ยังอ่อนอยู่หนามจะยังเป็นสีเขียวทั้งหมด เรียงตัวห่างกัน หนามแข็งใช้มือบีบไม่เข้า แต่หลังจากวางบ่มไว้สัก 3 – 7 วัน สีของหนามจะเข้มข้นเริ่มจากส่วนปลายไล่ลงมาจนกลายเป็นสีน้ำตาลแดง และหนามจะเริ่มเบียดชิดกัน สามารถใช้มือบีบเข้าหากันได้ไม่ยาก ส่วนพูของทุเรียนแก่จะนูนขึ้นเห็นได้ชัด แต่ทุเรียนอ่อน ผลจะดูเป็นทรงกลมมากกว่า

 

อ่าน เทคนิคเลือกทุเรียนให้โดนใจ พร้อมวิธีแก้ซื้อมากินไม่ได้ หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ขั้วและก้าน

ขั้วและก้านของทุเรียนแก่จะมีสีน้ำตาลเข้ม แห้ง ลูบแล้วสากมือเพราะคายน้ำออกมามาก ส่วนทุเรียนอ่อนขั้วยังติดกับเปลือก มีสีเขียวอยู่ ก้านยังเป็นสีน้ำตาลอ่อนและอวบเต่ง

ปากปลิง

หรือรอยต่อบริเวณก้านทุเรียนที่แบ่งเป็นปล้องๆ ปากปลิงของทุเรียนสุกแล้วจะบวมโต หรือแตกออกมา ขณะที่ทุเรียนยังสุก ปากปลิงจะเรียบติดกันเป็นแท่งยาว

เกร็ดน่ารู้ “ดูตรงนี้ไม่รู้หรอก ทุเรียนสุกไหม”

*ดมกลิ่น

ใครคิดว่าทุเรียนสุกจะกลิ่นแรง รู้หรือไม่ ทุเรียนบางพันธุ์อาจไม่มีกลิ่น ขณะที่บางพันธุ์ก็มีกลิ่นตั้งแต่ยังอ่อน กลิ่นแรงของทุเรียนอย่างเดียวบอกไม่ได้ว่าสุกหรือยัง

*สีเปลือก

เปลือกที่มีสีเขียวเข้ม หรือเขียวอ่อนไม่สามารถบอกได้ว่าทุเรียนสุกหรือไม่ แต่สีไม่เหมือนกันในแต่ละลูกขึ้นอยู่ว่าโดนแดดมากหรือน้อย ทุเรียนลูกหนึ่งอาจมีสีไม่เสมอกันทั้งหมด

ซื้อทุเรียนสุกไม่พอ แก้ไขอย่างไร

แม่ๆเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ไหมคะ พ่อค้าทุเรียนเจาะเปลือกให้ดูเนื้อ ลองกดดูแล้วนิ่มกินได้ แต่พอซื้อกลับมาบ้าน เนื้อไม่สุกทั้งหมด นี่คือลักษณะเฉพาะของทุเรียนเป็นบางสายพันธุ์ โดยเฉพาะ “หมอนทอง” ที่จะไม่สุกพร้อมกันทั้งลูก แต่จะเริ่มสุกจากล่างขึ้นบน

ทั้งนี้เกษตรกรส่วนใหญ่จะป้ายฮอร์โมนเอสทีรีนก่อนจัดส่ง เพื่อให้อุณหภูมิในผลสูงขึ้น เร่งการคายน้ำ และทำให้แป้งเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเท่ากันจึงสุกเท่ากันเมื่อถึงมือคนซื้อ ฮอร์โมนดังกล่าวจะสลายได้เอง ไม่ตกค้าง สังเกตง่ายๆว่า ทุเรียนป้ายฮอร์โมนจะสุกจากบนลงล่าง ทุเรียนสุกปลอดยา จะสุกจากล่างขึ้นบน

แต่ถ้าใช้ วิธีเลือกทุเรียน แล้วแต่ยังได้ทุเรียนไม่แก่พอที่ต้องการ ยังสามารถบ่มทุเรียนให้สุกต่อได้ 2 แบบ

ทุเรียนที่ยังไม่แกะ ให้ห่อด้วยผ้าหรือกระดาษ วางในอุณหภูมิห้องปกติ ไม่ควรวางบนพื้นปูนหรือกระเบื้อง (โดยไม่ห่อ) เพราะอุณหภูมิด้านที่สัมผัสพื้นลดลง ทำให้สุกไม่เท่ากัน

ส่วนทุเรียนแกะแล้ว ไม่ควรเก็บในกล่องปิดสนิท เพราะทุเรียนบางพันธุ์น้ำเยอะ เละไว การเก็บในกล่องทำให้เน่าเร็ว วิธีดดีที่สุดคือ ไม่ต้องแกะออกจากพู แล้วใช้แผ่นพลาสติกถนอมอาหารห่อไว้ เก็บไว้รอสุกตามต้องการโดยไม่เน่าก่อน

“แม่ชอบกินทุเรียน” ได้ประโยชน์อะไรบ้าง

นอกรสหวานหอมเฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากผลไม้ชนิดอื่น จะทำให้ทุเรียนกลายเป็นผลไม้โปรดของคุณแม่หลายคนแล้ว ผลไม้ชนิดนี้ยังให้สารอาหารมีประโยชน์มากมาย โดยในทุเรียน 100 กรัมจะให้พลังงานราว 174 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรตซึ่งให้พลังงานแก่ร่างกาย 27.09 กรัม ไขมัน 5.33 กรัม เส้นใยอาหาร 3.8 กรัม โปรตีน 1.47 กรัม นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุอีกหลายชนิด ได้แก่ โฟแลต สุดยอดวิตามินสำหรับลูกในครรภ์ วิตามินซี วิตามินบี1 บี 6 บี 12 ซึ่งใช้สร้างเล็บ ผม และผิวหนังของทารก โพสแทสเซียมช่วยควบคุมปริมาณน้ำในร่างกาย ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม และธาตุเหล็ก

แม้จะไม่มีข้อห้ามการกินทุเรียนในคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือคุณแม่ให้นม ซึ่งต้องพิถีพิถันในการเลือกอาหารเป็นพิเศษ เพราะมีผลต่อลูกน้อย แต่ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายเป็นสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น แม่ท้องต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไปเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ แพทย์จึงแนะนำให้คุณแม่กินทุเรียนได้ไม่เกินวันละ 2 เม็ด เช่นเดียวกับกล้วยไข่ ซึ่งเป็นผลไม้รสหวานเช่นกัน

ส่วนคุณแม่ให้นมที่กังวลว่า กินทุเรียนแล้วจะลงน้ำนม มีกลิ่นเหม็นลูกกินไม่ได้ ความจริงขึ้นอยู่กับปริมาณที่กิน เพราะอาหารทุกอย่างที่กินเข้าไป ทารกสามารถรับรู้กลิ่นรสผ่านนแม่ได้ ดังนั้นถ้าอยากกินจริงๆ ก็ไม่ควรกินเกิน 1 – 2 พูต่อวัน  เพราะเด็กบางคนอาจไม่กลิ่นทุเรียน อาจทำให้ลูกงอแงและพาลไม่อยากกินนม หรือเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน อุจจาระเปลี่ยนสี  แผลร้อนในในปากลูก หรือท่อน้ำนมของคุณแม่อุดตันได้

 บทความน่าสนใจอื่นๆ 

กินทุเรียน ช่วยให้ท้องง่าย จริงหรือ?

แม่ท้องกินทุเรียน ช่วยให้ลูกฉลาดได้จริงหรือ!?

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids