ส้ม ถือเป็นผลไม้ยอดฮิตและมีประโยชน์ แต่คุณแม่จะเลือกซื้อส้มดีๆ ที่มีรสหวานอร่อยอย่างไรให้ลูกกิน เรามีเทคนิค วิธีเลือกส้มหวาน อร่อย ไม่เปรี้ยว ไม่ฟ่าม มาแนะนำค่ะ
จะเห็นได้ว่าเมื่อคุณแม่ๆ ไปจ่ายตลาด ก็มักจะต้องมีผลไม้ติดมือมาอย่างสองอย่า เพื่อเอาไว้ให้ลูกน้อยรับประทาน ซึ่งผลไม่ยอดฮิต คงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “ส้ม” ส้มเป็นผลไม้ตระกูล Citrus มีคุณค่าทางอาหารสูง ประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น ให้วิตามินซีสูง แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 โพแทสเซียม แคลเซียม ใยอาหาร ฟอสฟอรัส เหล็ก ซึ่งส้มแต่ละชนิดจะให้คุณค่าทางสารอาหารไม่ต่างกันมากนัก
เผยเคล็ดลับ วิธีเลือกส้มหวาน อร่อย ไม่เปรี้ยว ไม่ฟ่าม
ทั้งนี้เพราะ “ส้ม” มีประโยชน์สำหรับผู้ใหญ่และกับเจ้าตัวเล็ก เป็นอย่างมาก เพราะวิตามินซีในน้ำส้มช่วยการดูดซึมธาตุเหล็ก ตอนที่คุณแม่ป้อนส้มให้ลูก อาจจะเห็นลูกน้อยกะพริบตาถี่ๆ เมื่อลิ้มลอง เพราะส้มมีกรดซิทริคทำให้มีรสเปรี้ยวอ่อน ๆ และภาวะความเป็นกรดจะช่วยให้การย่อยโปรตีนจากนมดีขึ้น
แต่สำหรับพ่อแม่ที่อยากให้เจ้าตัวเล็กดื่มน้ำส้มคั้น ต้องให้หลังลูกน้อยอายุ 6 เดือนขึ้นไปเท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่สามารถให้อาหารเสริมกับเจ้าตัวเล็กได้แล้ว ที่สำคัญการให้น้ำส้มกับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นวัยใดก็ตามควรผสมน้ำในปริมาณครึ่งต่อครึ่ง เนื่องจากส้มจะมีรสชาติเข้มข้นการให้น้ำส้มลูกโดยไม่ผสมอะไรเลย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบดูดซึมของลูกได้
⇒ Must read : น้ำผลไม้ (น้ำส้มคั้น) อย่าให้ลูกอายุน้อยกว่า 1 ขวบกิน!!
พอลูกโตขึ้นจึงค่อยๆ ลดปริมาณน้ำลง จนถึงอายุ 5 ขวบ แล้วค่อยให้น้ำส้มอย่างเดียว เนื่องจากน้ำส้มมีรสหวานมาก การผสมน้ำจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เจ้าตัวเล็กไม่ติดหวานตั้งแต่ตัวน้อยๆ ค่ะ
แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคไตและเบาหวาน ถ้าคิดจะกินส้ม ควรกินด้วยความระมัดระวัง เพราะส้มเป็นผลไม้ที่ให้โปแตสเซียมและน้ำตาลสูง จึงควรกินเป็นผลเพราะจะมีกากใยดีกว่าเป็นน้ำส้มคั้น เพราะน้ำส้มคั้น 1 แก้วต้องใช้ส้มหลายผล
อ่านต่อ >> “เผยเคล็ดลับ วิธีเลือกส้มหวานอร่อย ไม่เปรี้ยว ไม่ฟ่าม” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ลักษณะเด่นที่แตกต่าง ของ “ส้ม” และวิธีเลือกส้มหวาน
ส้มในบ้านเรามีหลายชนิด ทั้งส้มให้ความเปรี้ยวและส้มให้ความหวาน ซึ่งที่ผ่านมาเวลาซื้อส้มจากมาทาน จะรู้สึกลุ้นระทึกมากว่ามันจะอร่อยมั้ย และเชื่อว่าคุณแม่ๆ ส่วนใหญ่จะเฟลมากกว่าฟิน เพราะไม่รู้ทำไมมันถึงได้ยากเย็นนักกว่าจะสุ่มโดนส้มที่มีรสชาติดี (หวานก็ได้ เปรี้ยวก็ได้ ไม่ใช่จืดๆ) และจะหนักกว่าเดิมอีก ตรงที่เนื้อส้มมันชอบมีไตแข็งๆ ทำให้หม่ำแล้วหน้าหมุ่ยตลอดเลย
และเพราะ ส้ม แต่ละชนิดก็มีลักษณะเด่นและการนำไปใช้แตกต่างกันไป ดังนั้นวันนี้ ส้ม ที่แอดมินแม่น้องฮันน่าห์จะนำมาเข้าห้องแลปทดลอง กับ วิธีเลือกส้มหวาน มีรสดีอร่อย ไม่เปรี้ยว ไม่ฟ่าม นั้น ก็จะมีด้วยกัน 6 สายพันธ์ ที่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดและซุปเปอร์มาร์เก็ตในช่วงนี้ ซึ่งจะมีการเลือกดูส้มแต่ละชนิดอย่างไร ว่าแบบไหนหวาน อร่อย ตามมาดูกันเลยค่ะ
ส้มนาเวล
เป็นส้มไร้เมล็ด รสชาติดี เนื้อแน่นฉ่ำน้ำ เปลือกหนา ปอกง่ายไม่ติดเนื้อ เป็น 1 ในผลไม้ตระกูล ซิตรัส (Citrus) ซึ่งเป็นกลุ่มผลไม้ รสเปรี้ยว ที่มีสรรพคุณในการดูแลสุขภาพและความงามอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งนี้ ส้มนาเวล ยังอุดมด้วย ไฟเบอร์ ที่จะช่วยระบบการย่อยอาหาร ทำให้อิ่มนาน
ทั้งนี้วิธีเลือกส้มหวาน อย่างส้มนาเวล โดยปกติจะเป็นส้มนำเข้าจากออสเตเรีย ซึ่งขายในซุปเปอร์มาร์เกต ก็จะมีรสชาติดีอยู่แล้ว ดังนั้นเพียงแค่เลือกดูความสดใหม่ของส้มจากลักษณะภายนอกที่ดูเต่งตึงก็เพียงพอแล้ว
ส้มแมนดาริน
ส้มสายพันธุ์ใหม่ที่คนไทยนิยมรับประทาน มีลักษณะเด่น คือ หวานฉ่ำ เปลือกบาง เนื้อนุ่ม วิธีรับประทานส้มแมนดารินให้อร่อย เนื้อส้มต้องไม่ช้ำ ดังนั้น ควรแกะส้มด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยการฉีกครึ่งผลด้วยมือจากทางก้นผลก่อนแล้วจึงค่อย ๆ แกะเปลือกออกทีละนิดจากก้นผลไปขั้วผล ซึ่งจะทำให้เนื้อส้มช้ำน้อยที่สุด
ส้มโชกุน
ซึ่งวิธีเลือกส้มหวาน อย่างส้มโชกุน ที่แม่น้องฮันน่าห์ ซื้อมาทดลองนั้น เป็นส้มโชกุน ที่แม่ค้ารับมาจากภูเรือ จึงเรียกว่าได้อีกอย่างว่า ส้มภูเรือ ซึ่งส้มโชกุนภูเรือ นี้จะมีลักษณะลูกโต รสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ เมล็ดน้อย อร่อยไม่แพ้ส้มโชกุนที่ จ.ยะลา
และวิธีการเลือก ก็ให้คุณแม่ดูลูกที่มีผิวบาง เรียบ สีไม่เขียวจัด ลูกโต จะได้ส้มที่มีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย กินชุ่มคอ
อ่านต่อ >> “เผยเคล็ดลับ วิธีเลือกส้มหวานอร่อย ไม่เปรี้ยว ไม่ฟ่าม” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ลักษณะเด่นที่แตกต่าง ของ “ส้ม”
และ วิธีเลือกส้มหวาน
ส้มพันธุ์น้ำตาล
หรือ ส้มบางมด เป็นส้มเป็นสายพันธุ์หวานที่ครองใจคนไทยมาโดยตลอด เพราะว่ามีเปลือกร่อน ปลอกง่าย ซังนิ่ม และก็รสชาติหวานแหลม เข้มข้นกว่าที่อื่น
วิธีเลือกซื้อส้มพันธุ์น้ำตาลที่มีรสหวานอร่อย ให้ลูกน้อย คือต้องเลือกส้มที่ผิวเกลี้ยงบางใสเต่งตึง หรือผลที่มีจุดดำในผิวที่เรียกว่าขี้มด จะมีรสหวานแหลม ถ้าเปลือกบางก็จะให้น้ำเยอะ คือบีบแล้วเด้งๆ หน่อย ถ้าบีบแล้วยุบ จะเป็นส้มเปลือกล่อน หรือ ส้มแก่ ตรงขั้วไม่นูน ถ้านูนแสดงว่าฟ่าม
Good to know : ส้มฟ่าม เกิดจากฝนในเดือนมกราคม ที่มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ จะรบกวนการสุกแก่ของส้ม ทำให้เกิด เปลือกเห่อ เนื้อแกรน น้ำค้างไส้ รสชาติไม่จัด จืดๆ มีกลิ่นบูดไม่ชวนกิน
ทั้งนี้ที่ส้มฟ่าม เนื่องมาจากฝนหรือหมอก ที่มีความชื้นสัมพัทธ์สูง ทำให้เปลือกชื้นติดต่อกันนานๆ ธาตุไนโตรเจนที่มีในอากาศ จากฝนและหมอก ซึมซาบเข้าเปลือกได้มาก ทำให้เปลือกมีธาตุไนโตรเจนมากจนเสียดุล รสชาติส้มน้ำส้มจะไม่จัดจืดๆ เปลือกจะขยายตัวเพิ่ม เพราะเนื้อส้มมีขนาดเพิ่ม ทำให้เปลือกพอง เนื้อแห้งๆมากขึ้น
ส้มสายน้ำผึ้ง
ส้มสายน้ำผึ้งก้นบุ๋มจะสุกพอดีกิน หมายถึง จุดตรงกลางด้านล่างผลส้มจะบุ๋มลงไปเมื่อใช้มือกดผิวส้มเบา ๆ ส้มจะแน่นแต่นิ่มเล็กน้อย ไม่แน่นแข็ง และผิวส้มต้องมีสีส้มเสมอกันทั้งลูก บริเวณขั้วไม่เป็นสีเขียว เพราะโดยธรรมชาติผิวส้มจะสุกเป็นสีส้มจากก้นผลขึ้นไปยังขั้วผลหากขั้วผลยังเขียว กดผลส้มแล้วแน่น แสดงว่ายังสุกไม่ได้ที่ รสชาติส้มจะเปรี้ยว
– จุดน้ำมันบนเปลือกส้มสายน้ำผึ้งบอกถึงคุณภาพเนื้อส้ม หากจุดน้ำมันกระจายตัวห่างกันมากและผิวส้มขรุขระ แสดงว่าผลส้มนั้นถูกแดดมากไป เนื้อส้มจะฟ่ามและด้านเป็นสีขาวกินไม่อร่อย
– เปลือกบริเวณขั้วผลนูนขึ้นมาก กดดูแล้วแข็ง แสดงว่าเนื้อส้มบริเวณขั้วผลยังด้านเป็นสีขาว กินไม่อร่อย
– ส้มสายน้ำผึ้งดีต้องแน่นทั้งผล หากด้านข้างแน่น แต่บริเวณขั้วผลบวม เปลือกผลชั้นในที่หุ้มเกล็ดส้มอยู่จะหนากินไม่อร่อย เหตุดังกล่าวเกิดจากธาตุอาหารในดินไม่เพียงพอ
– ใหญ่มากก็จืด ส้มสายน้ำผึ้งผลใหญ่มากเกินไปมักมีรสจืด กินไม่อร่อย
– ฤดูหนาวผลผลิตดีที่สุด โดยทั่วไปผลส้มใช้เวลาเติบโต 9 เดือน ระยะเวลาพอๆ กับการตั้งครรภ์ของคนเราเลยทีเดียว ซึ่งต้นส้มจะเริ่มออกดอกประมาณช่วงเดือนมีนาคม – เมษายนผลผลิตจึงสุกได้ที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป ส้มสายน้ำผึ้งที่สุกในช่วงฤดูหนาวจะมีสีทองทั้งผล แต่หากเป็นส้มสายน้ำผึ้งที่สุกในช่วงฤดูร้อน ผลมักจะมีสีเขียวเจืออยู่บ้าง
ส้มจีน
เป็นส้มที่มีลูกขนาดเล็ก นิยมนำมาไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษ เพราะคำว่าส้มในภาษาจีนจะฟังเหมือนคำว่าทอง และสีก็เหมือนทองด้วย จึงถือเป็นผลไม้มงคลสำหรับชาวจีน
ส้มจีนผลจิ๋ว หรือ SHATANG MANDARIN เป็นส้มเปลือกอ่อนคล้ายส้มเขียวหวานพันธุ์บางมด แต่ผลจะมีขนาดเล็กกว่ามากอย่างชัดเจน รูปทรงของผล กลมแป้นคล้ายผลของลูกจัน เปลือกผลค่อนข้างหนา มีเส้นใยหุ้มเนื้อนิ่ม ผลดิบเป็นสีเขียว เมื่อสุกเป็นสีเหลืองทองสวยงามมาก รสชาติหวานอร่อยมาก ผลที่มีขนาดเล็กจะไม่มีเมล็ด ส่วนผลที่มีขนาดใหญ่หน่อยจะมีเมล็ดน้อยมาก เปลือกผลสุกนิ่มปอกจากผลรับประทานเนื้อได้ง่าย ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้รับประทานมาก
ช่วงที่ควรรับประทาน : วิธีเลือกส้มหวาน อร่อย ไม่เปรี้ยว ไม่ฟ่าม ซึ่งสิ่งที่คุณแม่ควรรู้ก่อน คือ ในช่วงใกล้ๆ ปีใหม่ เพราะจะมีส้มเยอะ หวาน อร่อย และมีราคาถูก ที่สำคัญ ควรเลือกกินส้มตามฤดูกาลเพราะไม่เช่นนั้นจะมีราคาแพง แถมยังไม่อร่อยอีกต่างหาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมที่ส้มจะไม่อร่อย และไม่ค่อยมีผลผลิต
วิธีปอกส้มให้ลูกหม่ำ
เวลาที่คุณแม่จะปอกส้มให้ลูกน้อย ก็ต้องใช้มือแกะเปลือกจนมือเปื้อนคราบเหลืองๆ และถ้าหากแกะไม่ดีอีก ก็อาจจะทำให้เนื้อส้มเละได้อีกด้วย และเมื่อเป้นอย่างนั้นแอดมินแมน้องฮันน่าห์จึง มีวิธีปอกส้มให้สวยน่าทาน ใช้แค่เพียงมีด กับขั้นตอนอีก 3 สเต็ปง่ายๆ มาแนะนำ จะเป็นอย่างไร ลองไปดูกันเลย
ใช้มีดเฉือนหัว-ท้ายของส้มออก ระวังอย่าให้ถูกเนื้อส้ม
ใช้มีดค่อย ๆ กรีดลงบนผิวส้มให้ตรงกับช่องว่างระหว่างกลีบส้ม
ค่อย ๆ แยกกลีบส้มออกจากกันให้เป็นแถว
แค่นี้ก็ได้แล้ว! ส้มสวยๆ ให้ลูกน้อยหม่ำๆแล้วล่ะค่ะ
เพราะส้มเป็นผลไม้ที่หากินได้ง่าย มีทุกฤดูกาล ราคาไม่แพง และยังมีหลายสาย แถมยังมีประโยชน์กับลูกน้อยขนาดนี้คุณแม่ควรซื้อติดตู้เย็นที่บ้านเอาไว้เลยนะคะ และจากเทคนิควิธีเลือกส้มหวาน ที่แม่น้องฮันน่าห์ได้แนะนำมาข้างต้น เป็นการทดลองเลือกซื้อและพิสูจน์มาแล้วว่า ส้มหวานนั้นมีลักษณะอย่างไร
แต่อย่างไรก็ดีก่อนที่คุณแม่จะนำส้มมาคั้นให้ลูกกิน หรือให้ลูกกินแบบสดๆ คุณพ่อคุณแม่ควรแน่ใจว่าล้างส้มสะอาด ปลอดสารพิษเรียบร้อยแล้ว เพราะส้มเป็นผลไม้ที่ใช้ยาฆ่าแมลงเป็นส่วนมาก และก่อนให้ลูกกินน้ำส้มควรชิมก่อนว่า ส้มที่คั้นมานั้นมีรสเปรี้ยวหรือไม่ ถ้ามีรสเปรี้ยวไม่ควรให้เด็กๆกินค่ะ