เพราะชีวิตลูกสำคัญที่สุด!! และสำหรับลูกน้อยแล้วอาจเจ็บป่วยได้ง่าย การทำ ประกันสุขภาพลูกน้อย จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยเซฟเงินให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ในยามที่ลูกน้อยป่วยหนัก จนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล
ยิ่งในสมัยนี้มีหลายต่อหลายโรคอุบัติขึ้นมาอย่างมากมาย ซึ่งผู้ที่ได้รับเคราะห์ร้ายจากโรคต่างๆ นี้คงหนีไม่พ้น ลูกน้อยของเรา เพราะด้วยวัยเด็กที่มีภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงพอ จึงทำให้ลูกน้อยป่วยง่าย คุณพ่อคุณแม่หลายคนจึงคิดมองหาประกันสุขภาพเพื่อลูกน้อย… ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยลดความเสี่ยงสำหรับค่ารักษาพยาบาลให้กับลูก เมื่อต้องเข้าโรงพยาบาล และเพื่อที่จะให้ลูกได้รับการรักษาที่ดี
แต่จะเลือกประกันอย่างไรกันดี เพราะในปัจจุบันเองก็มีปริษัทประกันจำนวนมากที่มีแผนประกันสุขภาพ ซึ่งที่ไหน แบบใด กันล่ะที่จะดีและคุ้ม เหมาะกับลูกน้อยของเรา ดังนั้นเพื่อช่วยคุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงได้ไปรวบรวมข้อมูลสอบถามรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับประกันสุขภาพลูกน้อย มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้พิจารณากันค่ะ
ทำประกันสุขภาพลูกน้อย คุ้มไหม ?
อย่างไรก็ดีมักจะมีคุณพ่อคุณแม่ถามกันบ่อยๆ ว่า ทำประกันสุขภาพให้ลูก จะคุ้มไหม….คำตอบ คือ ความคุ้มของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนทำประกันสุขภาพให้ลูกไว้ ไม่เคยเบิกประกันเลยแต่คิดว่าตัวเองคุ้มที่ซื้อประกัน เพราะรู้สึกอุ่นใจและไม่เครียดหากลูกต้องนอนโรงพยาบาล แต่บางคนอาจจะบอกว่า ทำประกันสุขภาพให้ลูก แล้วนอนโรงพยาบาลครั้งเดียวก็คุ้มแล้ว ที่นี่ก่อนที่จะบอกว่าคุ้มหรือไม่ ให้คุณพ่อคุณแม่ดูเงื่อนไขต่างๆ ของประกันสุขภาพเป็นหลัก
โดยความคุ้มครองจากการทำประกันสุขภาพสามารถเลือกซื้อได้ทั้งคนไข้นอกและคนไข้ใน บางคนก็เลือกคนไข้ในเพียงอย่างเดียว ซึ่งการซื้อประกันสุขภาพที่คุ้มครองค่ารักษาคนไข้นอกนั้น เวลาพาลูกไปหาหมอแบบไม่ต้องเข้าพักที่โรงพยาบาลเราก็สามารถนำใบเสร็จพร้อมใบรับรองแพทย์ไปเบิกประกันหรือจะใช้ระบบ Fax Claim ก็ได้ โดยที่เราไม่ต้องจ่ายเงิน แต่อาจจะจ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อย หากค่าใช้จ่ายเกินจำนวนวงเงินประกันที่เราซื้อไว้
ส่วนการทำประกันสุขภาพที่เป็นแบบคนไข้ในนั้น ความคุ้มครองก็จะประกอบด้วย
- ค่าห้องและค่าอาหาร
- ค่าบริการทั่วไป
- ค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีการรักษาพยาบาลฉุกเฉินหลังการเกิดอุบัติเหตุ
- ค่าใช้จ่ายสำหรับแพทย์เยี่ยมไข้
- ค่ารักษาทางการแพทย์ต่างๆ
โดยที่การเข้ารักษาตัวแต่ละครั้งก็จะขึ้นอยู่กับวงเงินประกันภัยของลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่เลือกซื้อ ว่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่เคยพาลูกเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้นๆมาก่อน ก็สามารถเอาใบเสร็จไปปรึกษาตัวแทนประกันได้ว่า อัตราค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลที่ลูกเราใช้บริการนั้น ควรซื้อประกันสุขภาพแบบไหน ด้วยอัตราค่าเบี้ยประกันเท่าไร เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันที่สูงเกินไปนั่นเองค่ะ…
อ่านต่อ >> “ข้อควรรู้เกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพให้ลูกน้อย” คลิกหน้า 2
ขอบคุณข้อมูลจาก : moneyhub.in.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ประกันสุขภาพลูกน้อย
โดยส่วนมากครอบครัวที่สนใจทำประกันสุขภาพเด็กนั้น จะเป็นครอบครัวที่มีลูกเล็ก ส่วนมากจะเป็นครอบครัวที่มีเด็กอายุ 0 – 15 ปี ซึ่งประกันสำหรับเด็กนั้นก็มีทั้งประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิต ซึ่งประกันทุกรูปแบบย่อมให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป
ประกันสุขภาพลูก คือ ประกันสุขภาพที่พ่อแม่ ทำเพื่อความคุ้มครองเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของลูก เพราะโดยส่วนมาก เด็กแรกเกิด – 5 ขวบ จะมีสถิติการเจ็บป่วยค่อนข้างสูง เนื่องด้วยภูมิคุ้มกันต่อโรคของเด็กในวัยนี้ยังมีไม่มากนัก
ประกอบกับความร้ายแรงของโรคในปัจจุบัน ที่เป็นสาเหตุให้เด็กวัยนี้มีโอกาสรับเชื้อโรคได้ง่าย ทำให้เด็กมีอาการเจ็บป่วยและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลบ่อยๆ ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสำหรับเด็กนั้นมีค่อนข้างสูง พ่อแม่หลายคนจึงมักทำประกันสุขภาพเด็กไว้รองรับความเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วยของลูกน้อยและความเสี่ยงต่อค่ารักษาพยาบาลนั่นเองค่ะ
เงื่อนไขของการซื้อประกันสุขภาพน้อย ที่พ่อแม่ควรรู้!
หากคุณพ่อคุณแม่จะเสียเงินทั้งที ก็ต้องดูเงื่อนไขให้ถี่ถ้วนกันสักนิด เดี๋ยวจะได้ไม่คุ้มที่เสียไป โดยคุณพ่อคุณแม่ควรศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์ให้ดีว่า…
- มีข้อดีอะไรบ้างที่เหมาะกับลูกน้อยของเรา
- รูปแบบการประกันเป็นแบบไหน
- ให้ความคุ้มครองตั้งแต่กี่ขวบ
ซึ่งเอาง่ายๆ ก็ใช้วิธีคล้ายๆ กับเลือกประกันสุขภาพ หรือ ประกันชีวิตของตัวเอง ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่ความพึงพอใจของคุณพ่อคุณแม่ผู้ที่จะต้องเป็นคนจ่ายค่าเบี้ยนั่นเอง
เงื่อนไขการทำประกันสุขภาพลูกน้อย อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้าม
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่าสิ่งสำคัญในการซื้อประกันสุขภาพให้ลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ควรดูเงื่อนไขให้ดีๆ และสิ่งที่จะได้คืนมาคืออะไร
- เบี้ยประกันสุขภาพลูก ประหยัด คุ้มค่า กับค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ หรือไม่
- ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกจากอุบัติเหตุ และต่อเนื่องจากการรักษาผู้ป่วยใน เท่าไหร่
- มีรับ % เพิ่มของค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินตามตารางค่าผ่าตัด และค่ารักษาพยาบาล หรือไม่
- ต้องสำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลหรือไม่ หากต่อไปเมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในเครือ
อย่าลืมว่าสุขภาพลูกนั้นมีความสำคัญพอสมควร เพราะลูกน้อยต้องได้รับการปกป้องที่ดี เพื่อที่ว่าหากเกิดอะไรขึ้นมา เงินในกระเป๋าและความอุ่นใจก็จะเกิดขึ้นได้หากถือประกันสุขภาพลูกน้อยที่เหมาะที่ดีไว้ในมือ
อ่านต่อ >> “รีวิวเทียบค่าเบี้ยประกันสุขภาพลูก
แบบไหนดี คุ้ม เหมาะกับลูกที่สุด” คลิกหน้า 3
ขอบคุณข้อมูลจาก : finance.rabbit.co.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
สำหรับข้อมูล ค่าเบี้ยประกันสุขภาพลูกที่นำมาเทียบให้คุณพ่อคุณแม่ได้ดูกันนั้น แอดมินแม่น้องฮันน่าห์ ก็ได้ลงพื้นที่ทำการสอบถามข้อมูลจากตัวแทนประกันหลายบริษัท และรวบรวมข้อมูลมาสรุปให้คุณพ่อคุณแม่ได้เทียบราคาค่าเบี้ยประกัน กันแบบเน้นๆ ตามไปดูกันเลยว่า ประกันสุขภาพลูกน้อย ที่ไหน แบบใด จะดีและคุ้มค่าเหมาะกับลูกน้อยของเราที่สุด
รายละเอียดค่าเบี้ยประกันสุขภาพลูกน้อย
สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพจะแบ่งเป็นช่วงอายุ เช่น เด็กแรกเกิดถึง 5 ปี และ 6 ปี ถึง15 ปี โดยในช่วงแรกของอายุหรือที่เรียกว่าเด็กเล็กค่าเบี้ยประกันสุขภาพจะแพงกว่าช่วงที่ 2 หรือเด็กโต เพราะบริษัทประกันจะมองว่าเด็กเล็กร่างกายยังสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่เต็มที่ เด็กเล็กมีโอกาสป่วยมากกว่าเด็กโต อีกทั้งเชื้อโรคต่างๆ ก็มีมากมาย จึงเป็นสาเหตุให้ค่าเบี้ยประกันของเด็กเล็กสูงกว่าเด็กโต
โดยแม่น้องฮันน่าห์ได้ให้ข้อมูลลูกน้อยเพื่อที่ทางตัวแทนจะคิดค่าเบี้ยออกมาให้ เป็นเด็กหญิง อายุระหว่าง 1-2 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่น้องฮันน่าห์ป่วยบ่อยที่สุด ทั้งนี้ในการเทียบค่าเบี้ยนั้น ระหว่าเด็กหญิง เด็กชาย และช่วงอายุ ก็จะมีค่าเบี้ยที่แตกต่างกันออกไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้อง แจ้งข้อมูลเหล่านี้ให้กับตัวแทนประกันได้ทราบก่อนทุกครั้ง
เทียบค่าเบี้ยประกันแบบเน้น ๆ
ประกันสุขภาพลูกน้อย (แบบระยะยาว)
อย่างไหนดี คุ้ม เหมาะกับลูกที่สุด!
ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจในการทำประกันสุขภาพให้กับลูกน้อย ควรหาข้อมูลและสอบถามระละเอียดของแต่ละบริษัทให้ถี่ถ้วนก่อน เพราะในแต่ละบริษัทนั้นก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป อย่างในบางกรณีที่ให้ค่าห้องสูงสุดไม่เกิน 2,500 บาท แต่ค่ารักษาพยาบาลจำกัดไม่เกิน 10,000 บาท และ ค่าหมอไม่เกิน 300 บาท ซึ่งบางครั้งก็ไม่พอแล้วพ่อแม่อย่างเราก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนต่างนี้เอง ส่วนแบบเหมาจ่ายนั้นปกติแล้วก็จะกำหนดวงเงินตลอดปีเลยว่าไม่เกินเท่าไหร่ ซึ่งประกันแบบเหมาจ่ายส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่มีส่วนต่างหรือหากมีก็จะน้อยมาก
ซึ่งเรื่องของระยะเวลารอคอยและมีเงื่อนไข ซึ่งโดยปกติแล้วตอนซื้อประกันปีแรกจะต้องรอ 1 เดือนถึงจะสามารถใช้ประกันได้ แต่อย่างไรก็ดีขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในแต่ละบริษัท แต่ประเด็นที่จะชี้ให้เห็นนี้คือในส่วนของ ระยะเวลารอคอยว่าหากเกิดเป็นโรคเดิมซ้ำแล้วจำเป็นที่จะต้องนอนโรงพยาบาล มีเงื่อนไขของระยะเวลารอคอยหรือไม่
อีกทั้งแบบประกันมีความคุ้มครองอื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ อย่างเช่นในกรณี ค่าชดเชยในการนอนโรงพยาบาล ค่าแพทย์ทางเลือก ค่ารังสีบำบัด ฯลฯ โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาประกอบการพิจารณาว่า ลูกของเราเองต้องการในเรื่องเหล่านี้หรือไม่
หวังว่าสิ่งที่แม่น้องฮันน่าห์นำมาฝากในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพ่อแม่หลายคนที่กำลังมองหาประกันให้ลูก และจะสามารถช่วยเลือกประกันที่เหมาะสมให้กับเด็กได้ การ ทำประกันสุขภาพลูกน้อย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับลูกของเราหรือไม่ ดังนั้นมีประกันเอาไว้อุ่นใจ เพราะเวลาที่ไม่สบายก็สามารถเข้าโรงพยาบาลตามที่ต้องการได้
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!