จังหวัดอยุธยา เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพ ฯ แต่มีแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้มากมายที่คุณพ่อคุณแม่จะ พาลูกเที่ยว อยุธยา ได้แบบสนุกครบรส เดินทางมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้สบาย ๆ ทริปนี้ทีมแม่ ABK คัดไฮไลท์ที่เที่ยวเด็ดกรุงศรีฯ มาให้ทุกคนไปเช็กอินกันค่ะ มีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
ห้ามพลาด! 7 ที่ พาลูกเที่ยว อยุธยา ลัดเลาะเมืองเก่า กิน เล่น เที่ยวสนุกครบรส
1.พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์
พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ เกิดขึ้นมาจากแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ของ รศ. เกริก ยุ้นพันธ์ อาจารย์เกริกผู้เป็นเจ้าของพิพิธภัณธ์แห่งนี้ได้ใช้เวลาร่วมกว่า 30 ปีสะสมของเล่นต่าง ๆ หลายประเภททั้งของเล่นไทยยุคเก่าสมัยต่าง ๆ และของเล่นจากต่างประเทศ อาทิ ของเล่นแบบสังกะสีสารพัดรูปแบบ ของเล่นจำพวกที่ทำจากดิน ไม้ ผ้า โมเดลการ์ตูนขนาดใหญ่ซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลาย อุลตร้าแมน ซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมน เจ้าหนูอะตอม ยืนเท่ ๆ มาให้เด็ก ๆ ยืนเก๊กถ่ายรูปคู่กับฮีโร่ตัวโปรดกันไปเลย นอกจากนี้ยังมีของใช้ ของเก่า ของสะสมในสมัยก่อน ที่มีให้เพลิดเพลินเดินดูกันถึงสองชั้นกันเลยทีเดียว
พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นฯ จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดเป็นสวนเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ ร่มรื่น มีสนามหญ้าให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่น แถมมีของเล่นเป็นม้าโยกตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้า
ส่วนที่สองคืออาคารพิพิธภัณฑ์หลังสีขาว ซึ่งเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหลังใหญ่ 2 ชั้น มีประตู หน้าต่าง แบบบ้านสมัยเก่าทาสีฟ้าดูสดใส สะอาดสะอ้าน เมื่อก้าวเข้าไปสู่ตัวพิพิธภัณฑ์ด้านใน เชื่อว่าเด็ก ๆ ต้องร้องว้าวกับบรรดาของเล่นมากมาย ภายในอาคารแบ่งเป็น 2 ชั้น
- ชั้นแรก จัดแสดงของเล่นไทยยุคเก่าในสมัยสุโขทัย อยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ มีทั้งของเล่นโบราณที่มีอายุ 50-150 ปี เช่น ของเล่นไม้ ดิน ตะกั่ว สังกะสี เซลลูลอยด์ เหล็ก และพลาสติกที่ผลิตจากประเทศเยอรมนี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส จีน อเมริกา และไทย และมีพวกข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อน อาทิ เครื่องเงิน ภาพพิมพ์โบราณ วิทยุโบราณ หนังสือเก่า โปสการ์ด จดหมายในยุคแรกที่เริ่มมี การไปรษณีย์ จัดแสดงใส่ตู้โชว์อย่างเป็นระเบียบสวยงาม
- ชั้นที่สอง เดินบันไดขึ้นไปก็จะพบกับโมเดลการ์ตูนขนาดใหญ่ถูกใจคุณหนู ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุลตร้าแมน ซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมน เจ้าหนูอะตอม และอีกหลากหลายตัวที่คอยยืนต้อนรับ และของเล่นจำนวนมากชิ้นเล็กชิ้นน้อยถูกจัดแสดงไว้ในตู้กระจกวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นหมวดหมู อาทิ ตุ๊กตาสารพัดแบบ ของเล่นสังกะสีสารพัดรูปแบบ มีทั้งหุ่นยนต์สังกะสีที่มีกลไก รถยนต์ เรือ รถไฟสังกะสี ของเล่นที่ใช้ถ่าน และอีกล้านของเล่น่ที่หาดูได้ยาก ตั้งแตของเล่นสมัยเก่าไปจนถึงของเล่นสมัยใหม่ และยังมีโซนจัดแสดงนิทรรศการงานสะสมเกี่ยวกับวิถีไทยที่มีอายุหลายร้อยปี ได้แก่ เครื่องกระเบื้อง, เครื่องแก้ว, ข้าวของเครื่องใช้, เงินตรา, เครื่องเงิน, เครื่องถม, เครื่องเขิน, งานลงยา, เครื่องประดับ, งานแกะสลักงาช้าง, งานประดับมุก, เครื่องดนตรีโบราณ ที่จะชวนให้เด็ก ๆ ได้เดินชมกับแบบเพลิดเพลิน และก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ถึงเรื่องราวสมัยวัยเด็กขึ้นมาได้กันเลยทีเดียวเชียว
สำหรับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ยังมีกิจกรรมศิลปะที่น่าสนใจสำหรับเด็ก ๆ ด้วย ได้แก่ ชั่วโมงนิทาน กิจกรรมสร้างสรรค์ วาดรูป ภาพพิมพ์ ปั้นดิน และศิลปะประดิษฐ์ เรียกว่าพาลูกมาคุ้ม ได้ความรู้ ความสนุก ในที่เดียวกันเลยค่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 บาท/ เด็ก 20 บาท
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. ยกเว้นวันจันทร์
โทรศัพท์ : 035-328949-50 , 081-890 5782
2.ตลาดโก้งโค้ง
ตลาดโก้งโค้ง เป็นตลาดย้อนยุคโบราณอีกแห่งในจังหวัดอยุธยา จุดเด่นของที่นี่คือชื่อ “โก้งโค้ง” ที่มาจากสมัยก่อนพ่อค้าแม่ค้าจะวางสิ่งของบนพื้นหรือในลำเรือ ผู้คนที่มาซื้อสินค้าจึงต้องโก้งโค้งดูสินค้าบนพื้นนั่นเอง ภายในตลาดก็จัดให้เป็นแบบวิถีชีวิตไทย ๆ คงความเป็นสถาปัตยกรรมไทยโบราณ ที่ในแบบบรรยากาศสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
เสน่ห์ของที่นี่คือเราจะได้เห็นพ่อค้าแม่ค้าทุกคนใส่ชุดไทยสีม่วงเปลือกมังคุด ภายในตลาดมีทั้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึกที่เน้นสินค้าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น งานฝีมือ งานศิลปะ และนอกจากนี้เวลาเปิดตลาด สิบโมงเช้าของทุกวัน จะมีการรำกลองยาวถวายพ่อปู่แสงโส และมีการทำบุญตักบาตรเหรียญทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีประจำของที่นี่ที่ให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ บรรยากาศดี มีกิจกรรมที่น่าสนใจ แบบนี้มีแพลนมาเที่ยวอยุธยาลองมานะคะ
เวลาทำการ : วันพฤหัส-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9.00-16.00 น.
โทรศัพท์ : 035 703 700
3.ตลาดน้ำอโยธยา
ตลาดน้ำอโยธยา ตลาดน้ำอีกแห่งในอยุธยามีพื้นที่ประมาณกว่า 80 ไร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่จะพาเจ้าตัวเล็กได้มาเรียนรู้แบบจำลองวิถีชีวิตเรียบง่ายของคนในสมัยก่อน ในตลาดย้อนยุคแบบโบราณ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาทั้งด้านการแต่งกายของพ่อแม่ค้า มีการแสดงพื้นบ้าน การละเล่นให้ชม ได้เห็นของกินของใช้ในยุคเก่า ทัศนียภาพความเป็นอยู่แบบไทย ๆ ที่เรียบง่าย ขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ที่จะสามารถบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นเมืองกรุงเก่าของอยุธยาได้เป็นอย่างดี
ภายในจัดแบ่งเป็นโซน ๆ มีร้านค้าที่ตั้งอยู่เรียงรายภายในเรือนไทยอันงดงามรอบตลาดน้ำมากมาย รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือมาขายรอบตลาดน้ำ มีทั้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึก และสินค้าอีกมากมายหลากหลายชนิด บรรยากาศแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติแบบไทยพื้นบ้าน มีสะพานเดินข้ามริมแม่น้ำ ที่นั่งกินและพักผ่อนริมน้ำหลายจุดให้เลือกนั่งได้อย่างสะดวกสบาย
กิจกรรมที่น่าสนใจในตลาดน้ำอโยธยา นอกจากเลือกซื้อของกินอร่อย ๆ ให้อิ่มท้องแล้ว ก็สามารถพากันเดินสำรวจบรรยากาศในตลาดที่เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศย้อนยุคแบบไทย ๆ ภายในตลาดน้ำอโยธยามีมุมสวย น่ารัก ให้เลือกมากมายหลายจุดให้แชะถ่ายรูปเก็บภาพกันไป ไฮไลท์คือบริเวณทางเข้าด้านหน้ากับป้ายชื่อ ตลาดน้ำอโยธยา ที่จำลองกำแพงเมืองเก่ามาตั้งไว้ที่นี่ รูปปั้นเด็กไทยโบราณตัวใหญ่ และสะพานไม้ข้ามร่องน้ำ และพลาดไม่ได้คือนั่งเรือชมตลาดที่จะได้เห็นทุกมุมของตลาดน้ำได้อย่างทั่วถึงและได้บรรยากาศไปอีกแบบ หรือกิจกรรมขี่ช้างชมโบราณสถานรอบวัดมเหยงค์ รวมถึงมีโชว์การแสดงพื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย อาทิ โขน รำไทย เพลงฉ่อย เพลงละคร ที่จัดมาให้ชมกันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น
อ่านต่อ 7 ที่เที่ยวอยุธยา พาลูกลัดเลาะเมืองเก่า กิน เที่ยว เล่น สนุกครบรส คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
4.พระราชวังบางปะอิน
พระราชวังบางปะอิน เป็นพระราชวังโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ปัจจุบันยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และก็เป็นพระราชวังที่อนุญาตให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ลองพาเจ้าตัวเล็กมาชมความงามและเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตกันค่ะ
สิ่งที่น่าสนใจในเขตพระราชวังบางปะอิน พื้นที่ของพระราชวังบางปะอิน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
เขตพระราชฐานชั้นนอก เช่น
- หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือ ศาลพระเจ้าปราสาททองมีลักษณะเป็นปรางค์ศิลาจำลองแบบจากปรางค์ขอม ภายในประดิษฐานเทวรูปพระเจ้าปราสาททอง ตั้งอยู่ ณ ริมสระน้ำใต้ต้นโพธิ์
- พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์เป็นพระที่นั่งทรงปราสาท จำลองมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวัง รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมรูปหล่อสำริดของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขนาดเท่าพระองค์จริงในฉลองพระองค์เต็มยศจอมพลทหารบก เพื่อนำมาประดิษฐาน ณ พระที่นั่งองค์นี้จนถึงปัจจุบัน
- พระที่นั่งวโรภาษพิมานเป็นอาคาร 2 ชั้น ศิลปะแบบคอรินเทียนออร์เดอร์ รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่เสด็จออกว่าราชการและใช้เป็นที่ประทับ ปัจจุบันพระที่นั่งองค์นี้ยังใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบรมวงศ์เมื่อเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน
- สภาคารราชประยูรเป็นตึก 2 ชั้น ตั้งอยู่ริมน้ำ ปัจจุบันใช้เป็นที่แสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชวังบางปะอิน
เขตพระราชฐานชั้นใน เช่น
- พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรเป็นพระที่นั่งองค์ประธานของพระราชวังบางปะอิน เดิมเป็นเรือนไม้สองชั้น ทาสีเขียวอ่อนและเขียวแก่สลับกัน ในปี พ.ศ.2537 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 จึงได้ขอพระบรมราชานุญาตให้สร้างพระที่นั่งองค์นี้ขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นที่ประทับในการเสด็จแปรพระราชฐานและรับรองพระราชอาคันตุกะ
- พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญเป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้น โดยชาวสยามเชื้อสายจีนฮากกาเพื่อถวายแด่รัชกาลที่ 5 มีรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน และพระที่นั่งองค์นี้ยังใช้ประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้ายจนถึงปัจจุบัน
- หมู่พระตำหนักฝ่ายในเป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกชั้นเดียวและสองชั้นตั้งเรียงรายกัน แต่ในปัจจุบัน ได้มีการรื้อตำหนักบางส่วนลง
- หอวิฑูรทัศนาใช้เป็นที่ทอดพระเนตรโขลงช้างป่า และภูมิประเทศโดยรอบพระราชวัง เป็นหอสูง ๓ ชั้น ทาสีเหลืองสลับแดง
- อนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม อนุสาวรีย์หินอ่อนก่อเป็นแท่ง 6 เหลี่ยม สูง 3 เมตรที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระสรีรังคารของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ อัครมเหสีผู้เป็นที่รักยิ่ง และพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์
พระราชวังบางปะอินเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าชมทุกวัน แต่มีข้อควรปฏิบัติที่ต้องเตรียมตัวมาให้พร้อม คือ การแต่งกายในชุดสุภาพและห้ามส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นในขณะเข้าชมนะคะ
ค่าเข้าชม : เด็ก, นักเรียน, นักศึกษา 20 บาท/ ผู้ใหญ่ 30 บาท
เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.museumthailand.com
5.วังช้างอยุธยา แล เพนียด
วังช้าง แล เพนียด เป็นปางช้างในพื้นที่มรดกโลก ใจกลางเกาะเมืองอยุธยา ซึ่งเดิมที่แห่งนี้คือกรมพระคชบาล ปัจจุบันที่แห่งนี้ถือเป็นเป็นสถานที่สร้างงานให้กับช้างและให้นักท่องเที่ยวทั้งเช้าไทยและต่างประเทศ ได้เห็นในภาพลักษณ์ของช้างไทยซึ่งเป็นพาหนะโบราณในสมัยอยุธยาด้วยชุดควาญช้างโบราณ และชุดช้างแบบไทย
กิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่คือการ ขี่ช้างชมเกาะเมือง ชมโบราณสถานที่สำคัญ ๆ บริเวณรอบ ๆ โดยเริ่มจากศาลหลักเมือง วัดเกษ คุ้มขุนแผน วัดพระราม วิหารมงคลบพิตร และอนุสาวรีย์พระเจ้าอู่ทอง สำหรับเด็ก ๆ คนไหนที่ยังไม่กล้าไปขึ้นขี่ช้าง ก็สามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ภายในลานพักช้างน้อยได้ ที่บริเวณนี้จะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เล่นกับช้างแสนน่ารักมากมาย เข้าไปสัมผัสกับความน่ารักของช้างอย่างใกล้ชิด ป้อนอาหารให้ช้างและป้อนนมช้างน้อย ถ่ายภาพคู่กับช้างแสนน่ารัก หรือจะลอดใต้ท้องช้างเพื่อเสริมสิริมงคล ตลอดจนการสักการะพระพิฆเนศที่ศาลพระพิฆเนศภายในวังช้าง นอกจากนี้ในวันเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่นี่ยังมีการโชว์ความน่ารักและความสามารถของช้างประกอบกับเสียงดนตรี เช่น การนั่งสองขา การทำความเคารพ การเต้นและเล่นฮูล่าฮูบ ซึ่งจะมีแค่ 2 รอบคือ 11.30 น. และ 14.00 น. ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดที่น่ามาพาเจ้าตัวเล็กมาดูมาก ๆ เลยละคะ
ค่าเข้าชม: เข้าชมวังช้างและเพนียดฟรี
ค่าชมโชว์ช้าง 50 บาททั้งชาวไทยและต่างชาติ เด็กต่ำกว่า 110 เซนติเมตร ราคา 30 บาท
ค่าขี่ช้างชมเกาะเมืองอยุธยา
รอบใหญ่ 25-30 นาที คนไทย 300 บาท ต่างชาติ 500 บาท
รอบกลาง 15-20 นาที คนไทย 200 บาท ต่างชาติ 400 บาท
รอบเล็ก 7-10 นาที คนไทย 100 ต่างชาติ 200 บาท
เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 น. – 17.00 น.
อ่านต่อ 7 ที่เที่ยวอยุธยา พาลูกเที่ยวสนุกครบรส คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
6.วัดไชยวัฒนาราม
พาลูกเที่ยวแบบสนุกและได้ความรู้ต้องมาบุกแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ถ้ามาถึงอยุธยาแสดงว่ามาถูกที่แล้ว เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีแหล่งโบราณสถานสำคัญและสวยงามให้ได้ไปเที่ยวมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ วัดไชยวัฒนาราม วัดโบราณที่สร้างมามากกว่า 300 ปี ที่ปัจจุบันยังคงสวยงามและน่าไปเที่ยวชมมาก ๆ
สิ่งที่น่าสนใจในวัดไชยวัฒนาราม อาทิเช่น
- ระเบียงคด คือส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างเมรุแต่ละเมรุเอาไว้ ที่บริเวณระเบียงคดจะมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ รวมทั้งหมด120 องค์ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกตัดเศียรไปหมดจากสงครามในอดีต ปัจจุบันเหลือที่ยังมีพระเศียร อยู่ 2 องค์
- พระอุโบสถ สร้างอยู่ทางด้านหน้ากำแพงเมรุทิศเมรุราย นอกระเบียงคด ปัจจุบันเหลือแต่ฐาน ด้านข้างมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง มีกำแพงล้อมรอบโบราณสถานสำคัญแหล่านี้ถึง 3 ชั้น และ มีปรางค์เจดีย์ขนาดย่อมอีกจำนวนหนึ่งซึ่งสร้างเพิ่มในภายหลัง
ความโดดเด่นของวัดไชยวัฒนาราม ที่ยังคงมองเห็นเค้าแห่งความสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา คือสถาปัตยกรรมการก่อสร้างที่แตกต่างจากวัดอื่น ๆ ในอยุธยา บนพื้นที่ 160 เมตร ยาว 310 เมตร และมีประติมากรรมทางพระพุทธศาสนาและความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของชาติไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งกรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะตลอดมาจนปัจจุบัน เป็นสมบัติของชาติที่จะให้ลูกให้หลานได้รู้จักหวงแหน ภาคภูมิใจ และรักษาให้คงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นอีกหนึ่งที่ในอยุธยาที่ควรพาเจ้าตัวเล็กมาเรียนรู้แล้วใส่ชุดไทยถ่ายรูปเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกกันนะคะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : 07.30-16.00 น.
7.วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ
วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ เป็นวัดไทยเก่าแก่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่แตกต่างจากวัดอื่น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างเลียนแบบโบสถ์ฝรั่ง เมื่อ พ.ศ. 2421 ตัวอาคารและสถาปัตยกรรมที่งดงามและโดดเด่นตกแต่งแบบโกธิค มีกระจกสีประดับอย่างสวยงาม เป็นวัดไทยสไตล์โกธิคแบบยุโรปแห่งเดียวในประเทศไทย
สถานที่ตั้งของวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน และอยู่บนพื้นที่ของเกาะกลางน้ำ เมื่อเข้าชมพระราชวังบางปะอินแล้ว สามารถข้ามไปชมวัดนิเวศธรรมประวัติได้โดยนั่งกระเช้าไฟฟ้าลอยน้ำเพื่อข้ามแม่น้ำ สำหรับส่งผู้โดยสารประมาณครั้งละ 6-8 คน จะออกทุก 5-10 นาที เรียกว่าชวนให้เจ้าตัวเล็กตื่นเต้นสนุกสนานกับการข้ามแม่น้ำด้วยกระเช้า แถมตัวกระเช้าและศาลาที่นั่งก็ออกแบบเป็นไทย ๆ โบราณคลาสิค สีแดงเข้มผสมสีขาว และลวดลายที่สวยงามอีกด้วย
สถานที่สำคัญภายในวัด อาทิเช่น พระอุโบสถ เป็นพระอุโบสถแบบกอทิก สร้างตามแบบคริสต์ เลียนแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค โดยมีโดมหอคอยปลายแหลมตามอย่างวิหาร บริเวณยอดโดมมีหอนาฬิกาและระฆังชุด เหนือขึ้นไปเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธนฤมล พระประธานในอุโบสถ งามบริสุทธิ์ที่อยู่ในท่านั่งสมาธิ บริเวณโดยรอบด้านในอุโบสถเป็นแบบฝรั่งคล้ายกับโบสถ์คริสต์ ช่องหน้าตาเป็นแบบโค้ง ผนังและเพดานมีลวดลายสวยงาม ฝาผนังโบสถ์ด้านหน้าพระประธานจะเป็นภาพประดิษฐ์กระจกสี เป็นการผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยมแบบไทยและศิลปะแบบตะวันตกที่ลงตัวสวยงาม
หอประดิษฐานพระคันธารราษฎร์ เป็นหอพระประดิษฐานพระคันธารราษฎร์ พระพุทธรูปยืนปางขอฝน
หอประดิษฐานพระพุทธศิลา เป็นหอพระประดิษฐานพระพุทธศิลาเก่าแก่ปางนาคปรก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยลพบุรี ฝีมือช่างขอมอายุเก่าแก่นับพันปี
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นต้นไม้ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปลูกไว้หน้าพระอุโบสถแผ่กิ่งไปทั่วบริเวณให้ความร่มรื่น
สุสานสวนหินดิศกุลอนุสรณ์ เป็นสวนหินสำหรับประดิษฐานพระอัฐิของเจ้าจอมมารดาชุ่ม พระสนมเอกในรัชกาลที่ 4 เจ้าจอมมารดาของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และราชสกุลดิศกุล เป็นหมู่ศิลาชนิดต่างๆ ที่มีในประเทศไทย
ถ้ามาเที่ยวพระราชวังบางปะอินแล้ว อย่าลืมที่จะข้ามกระเช้ามาชมความงามที่วัดนี้กันดูนะคะ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่ 5:30 – 21:00
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่คิดว่าวันเสาร์-อาทิตย์ จะพาลูกเที่ยวที่ไหนดี และไม่อยากที่จะพาลูกไปเดินเที่ยวห้าง “อยุธยา” น่าจะเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวได้เป็นอย่างดีกันเลย
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ
เช็กอิน! 7 พิกัด พาลูกเที่ยวสมุทรปราการ แบบฟิน ๆ ทั้งวัน กิจกรรมแน่น ได้ประสบการณ์เพียบ!
พาลูกเที่ยวโครงการพระราชดำริ 4 เส้นทางตามรอยพ่อ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่