AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

พาลูกเที่ยว 5 สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ย้อนรอยอดีต เดินดูสนุก ได้ความรู้

สถานที่ทางประวัติศาสตร์

กิจกรรม “ท่องเที่ยว” ไม่ใช่แค่การเที่ยวสำหรับเด็กเท่านั้น แต่เป็นการสร้างประโยชน์ให้ลูกได้ไม่น้อย พาลูกเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ก็ถือว่าเป็นการเที่ยวแบบ “เอ็ดดูเทนเม้นท์” (Edutainment) ที่ได้ทั้งความสนุกและความรู้ไปพร้อม ๆ กัน ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังคิดไม่ออกว่าจะพากันไปเที่ยวที่ไหนดี ทีมแม่ ABK มี 5 สถานที่ทางประวัติศาสตร์ มาแนะนำค่ะ

พาลูกเที่ยว 5 สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ย้อนรอยเรียนรู้อดีต เดินดูสนุก

1.เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ

เมืองโบราณ

เมืองโบราณ เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนกลางแจ้งที่รวบรวมสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ในประเทศไทยจัดแสดงไว้อย่างมีชีวิตชีวาบนพื้นที่กว่า 800 ไร่ เป็นอีกหนึ่งแหล่งการเรียนรู้ผ่านการท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย เที่ยวได้กันทั้งครอบครัวเลยค่ะ

เมืองโบราณ

ภายในเมืองโบราณ มีการจำลองงานสถาปัตยกรรมอันสวยงามและทรงคุณค่าของไทยไว้มากมาย ซึ่งมีทั้งสถาปัตยกรรมที่รื้อถอนจากของจริงมาปลูกสร้างและจำลองจากขนาดจริงหรือเล็กกว่ามาสร้าง และใช้องค์ความรู้มาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ซึ่งมีมากกว่า 100 รูปแบบ

เมืองโบราณ

โดยแบ่งจัดวางสถานที่สำคัญ ออกเป็น 4 ภาค ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ และสุวรรณภูมิ อาทิเช่น พระที่นั่งสรรเพชญปราสาทจำลอง, ศาลาพระอรหันต์, เขาพระสุเมรุ, วิหารวัดภูมินทร์ น่าน, เรือนทับขวัญ, คุ้มขุนแผน, สวนรามเกียรติ์, วัดจองคำ ลำปาง, วิหารสุโขทัย, พระมหาธาตุเจดีย์ สุโขทัย,  พระธาติจอมกิตติ จังหวัดเชียงราย, ปราสาทหินพนมรุ้ง, ปราสาทหินพิมาย, ศาลาโถงวัดนิมิตร ตราด, เรือสำเภาไทย ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีตลาดน้ำ ร้านอาหารไว้บริการ ซึ่งเราสามารถชมโดยใช้วิธีนั่งรถราง หรือปั่นจักรยาน เที่ยวได้ตลอดทั้งวัน ในบรรยากาศที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ระหว่างทาง มีศาลานั่งพัก เรียกได้ว่าพากันมาเที่ยวที่เมืองโบราณเดียว ก็เหมือนได้เที่ยวไปทั่วประเทศไทยเลยละค่ะ

ขอบคุณภาพจาก www.MuangboranMuseum.com

เมืองโบราณ

พิกัด : 296/1 หมู่ 7 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10280
โทรศัพท์ : 02-323 4094 -9
วันและเวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 09.00 -19.00 น.
ค่าเข้าชม : บัตรคุ้มสยาม ผู้ใหญ่ ท่านละ 400 บาท/ เด็ก (6-14 ปี) ท่านละ 200 บาท (ราคานี้รวมรถราง จักรยาน และนั่งเรือ)

เว็บไซต์ : www.MuangboranMuseum.com
ข้อมูลอ้างอิงจาก www.kapook.com

2.อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

ปราสาทหินพนมรุ้งหรือปราสาทพนมรุ้ง เป็นโบราณสถานในศิลปะเขมรที่มีความงดงาม เป็นปราสาทหินทรายสีชมพู ที่สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 15-18 ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง (บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิท) อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ศาสนสถานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระศิวะ หนึ่งในสามเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู (ตรีมูรติ) เพื่อใช้เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ดังนั้นเขาพนมรุ้งจึงเปรียบเสมือนเขาไกรลาสที่ประทับของเทพพระศิวะ

นอกจากมีภูมิทัศน์สวยงาม ที่ปราสาทพนมรุ้งนี้มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ก็คือ ปรากฏการณ์พระอาทิตย์สาดส่องลอด 15 ช่องประตู โดยในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก แสงอาทิตย์จะสาดส่องทะลุ 15 ช่องประตูของปราสาทพนมรุ้ง ทุก ๆ ปีจะมีปรากฏการณ์ดังกล่าว 4 ครั้งที่เราสามารถเห็นได้ คือช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นเดือนเมษายนและเดือนกันยายน และพระอาทิตย์ตกเดือนมีนาคมและเดือนตุลาคม

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

ภายในปราสาทมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ อาทิ ปราสาทประธาน เป็นสถาปัตยกรรมหลักที่สำคัญที่สุด ตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางของลานปราสาทชั้นใน ปราสาทอิฐ 2 หลัง  ซึ่งนักประวัติศาสตร์ศิลปะได้ศึกษาพบว่า น่าจะมีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 15 นับเป็นสถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าที่สุดที่เหลืออยู่ สะพานนาคราช มีความหมายเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกของเทพเจ้า บันไดหินทราย ที่ทอดยาวขึ้นไปยังลานบนยอดเขา สูง 10 เมตร มี 5 ชั้น จำนวน 52 ขั้น และทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์เป็นโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไทย เป็นต้น

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

ปัจจุบันปราสาทหินพนมรุ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด กำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก และจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นอีกโบราณสถานที่น่าสนใจสำหรับการพาเจ้าตัวเล็กมาดูความสวยงามและความมหัศจรรย์แบบ unseen Thailand อีกที่นะคะ

ขอบคุณภาพจาก www.museumthailand.com

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

พิกัด : เขาพนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ 31110
โทรศัพท์ : 044-666 251
วันเวลาเปิด -ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 06.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม : คนละ 20 บาท
ข้อมูลอ้างอิงจาก www.museumthailand.com

 

อ่านต่อ พาลูกเที่ยว 5 แลนด์มาร์กเชิงประวัติศาสตร์ คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

3.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จ.กรุงเทพมหานคร

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นับเป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับประชาชนแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2402 แต่เดิมเป็น “พระราชวังบวรสถานมงคล” หรือวังหน้าซึ่งประกอบด้วยพระที่นั่งและพระตำหนักอันนับเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มีพื้นที่พิพิธภัณฑ์ประกอบไปด้วยหลายส่วน ทั้งส่วนที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนและถาวร ที่รวบรวมข้อมูลทางด้านประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลปะ โบราณคดี และชาติพันธุ์วิทยา ซึ่งการพาเด็ก ๆ หรือแม้แต่ตัวคุณพ่อคุณแม่เองเข้ามาชม ก็จะได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยมากขึ้น พร้อมทั้งได้ชมความงดงามของพระที่นั่งต่าง ๆ อีกทั้งศิลปวัตถุ โบราณวัตถุต่าง ๆ เช่น เครื่องทอง เครื่องถม เครื่องมุก เครื่องดนตรี เครื่องไม้จำหลัก และผ้าโบราณ ฯลฯ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง อาทิ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน อาคารมหาสุรสิงหนาท โรงราชรถ เก๋งนุกิจราชบริหาร พระตำหนักแดง พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เป็นต้น ทั้งนี้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสื่อสารเนื้อหาจากตัววัตถุแก่ผู้ชม ทั้งทัชสกรีน วีดิทัศน์ และ แอพพลิเคชั่น QR-Code / AR-Code เพื่อให้ความรู้เพิ่มเติมขึ้นด้วย

ขอบคุณภาพจาก www.virtualmuseum.finearts.go.th

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ที่ตั้ง : ถนนหน้าพระธาตุ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (ปิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
โทรศัพท์ : 0 2224 1370
ค่าเข้าชม : คนไทย 30 บาท ยกเว้นค่าเข้าชม : เด็ก / นักเรียน / นักศึกษา / ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป / พระสงฆ์
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.virtualmuseum.finearts.go.th,

4.หมู่บ้านญี่ปุ่น จ.อยุธยา

หมู่บ้านญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา ที่ได้จารึกประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งหมู่บ้านในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยปัจจุบันสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ได้ปรับปรุงบริเวณหมู่บ้านญี่ปุ่นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเพื่อรำลึกถึงชาวญี่ปุ่นผู้มีบทบาทสำคัญ ที่มีความจงรักภักดีต่อราชสำนักสมัยกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งเพื่อให้เป็นอนุสรณ์แห่งหมู่บ้านญี่ปุ่นเดิมด้วย

หมู่บ้านญี่ปุ่น

ภายในหมู่บ้านญี่ปุ่น มีนิทรรศการและมัลติมีเดีย “ยามาดะ นางามาซะ ออกญาเสนาภิมุข และท้าวทองกีบม้า” บุคคลสำคัญที่มีบทบาทในราชสำนักอยุธยา” มีเรื่องราวและหุ่นขี้ผึ้งของ ท้าวทองกีบม้า (มารี ดอญา กีมาร์ เดอ ปีนา) ซึ่งเป็นชาวอยุธยาลูกครึ่งเชื้อสายโปรตุเกส-ญี่ปุ่น อาศัยอยู่ในหมู่บ้านโปรตุเกส ได้สมรสกับคอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ ออกญาวิชาเยนทร์ เสนาบดีกรมท่าในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กระทั่งในช่วงปลายของชีวิตได้เข้ารับราชการจน ตำแหน่งท้าวทองกีบม้า และนำของหวานโปรตุเกสมาเผยแพร่ในกรุงสยาม เป็นต้นตำรับขนมตระกูลทอง อย่างทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทองนั่นเอง

ส่วนด้านในแบ่งออกเป็นอาคาร 9 ส่วน ได้แก่

หมู่บ้านญี่ปุ่น

นอกจากนี้ยังมีสวนและศาลาญี่ปุ่น ให้นั่งพักผ่อนสบาย ๆ ท่ามกลางความร่มรื่นของแมกไม้ เรียกว่าพาเด็ก ๆ มากระตุ้นความรู้ทางประวัติศาสตร์ รู้จักท้าวทองกีบมาจากละครดังเพิ่มขึ้น เดินดูสนุก ได้สาระประโยชน์เพียบ แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ด้วยนะคะ

ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/goayutthaya

หมู่บ้านญี่ปุ่น

ที่ตั้ง : หมู่บ้านญี่ปุ่น ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน 08.30-16.30 น.
ค่าเข้าชม :  คนไทย 50 บาท / นักเรียน 20 บาท
ข้อมูลอ้างอิงจาก www.mthai.com

อ่านต่อ 5 แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ พาลูกย้อนรอยอดีต เดินดูสนุก คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

5.อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กําแพงเพชร

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร เป็นพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ 3 แห่งที่ยูเนสโก ประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี พ.ศ. 2534 ซึ่งทั้งสามแห่งนี้ล้วนเป็นโบราณสถานที่มีศิลปกรรมงดงาม มีเอกลักษณ์ สร้างสรรค์ขึ้นจากภูมิปัญญาอันชาญฉลาด อีกทั้งเป็นหลักฐานทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงอารยธรรมในอดีต ครบถ้วนตามคุณสมบัติของการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่มีคุณค่าในทางประวัติศาสตร์และควรค่าแก่การอนุรักษ์

Credit Photo www.facebook.com/skt.his.park

“อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” ตั้งอยู่บริเวณตำบลเมืองเก่า (เขตเทศบาลตำบลเมืองเก่า) อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ครอบคลุมเขตโบราณสถานกรุงสุโขทัย ซึ่งในอดีตเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรสุโขทัย ผังเมืองมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1.6 กิโลเมตร มีประตูเมืองอยู่ตรงกลางกำแพงเมืองแต่ละด้าน ภายในยังเหลือร่องรอยพระราชวังและวัดอีก 26 แห่ง โดยมีวัดที่ใหญ่ที่สุดคือวัดมหาธาตุ

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกเมื่อปีพ.ศ.2534 ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยและกำแพงเพชร ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งกำเนิดศิลปวัฒนธรรมสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรไทยและการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในด้านศิลปกรรมแขนงต่าง ๆ พุทธประติมากรรมของสุโขทัยไ ด้รับการยอมรับกันว่าเป็นสุดยอดทางความงามของศิลปะไทย มีความอ่อนช้อยอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ในเขตอุทยานมีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่มากมายรวมไปถึงพระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่ และสิ่งก่อสร้างโบราณสถานมากมายภายนอกกำแพงเมือง 70 แห่งและภายในกำแพงเมือง 26 แห่ง เช่น วัดชนะสงคราม วัดตระพังเงิน วัดศรีสวาย วัดศรีชุม ทำนบพระร่วง และเนินปราสาทพระร่วง เป็นต้น

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
498/12 หมู่ 3 ถนนจรดวิถีถ่อง ตำบลเมืองเก่า จ.สุโขทัย 64210
โทร. 055-697527

Credit Photo  www.facebook.com/อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย

“อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2534 เป็นโบราณสถานที่มีร่องรอยการตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 45.14 ตารางกิโลเมตรใน 4 ตำบล มีโบราณสถานทั้งหมด 215 แห่ง แต่สำรวจค้นพบ 204 แห่ง รวมทั้งสุสานวัดชมชื่น และเตาสังคโลกโบราณ ซึ่งจากการประเมินของกรมศิลปากรถือว่ามีการต่อเติมโบราณสถานจากสภาพเดิมน้อยกว่าที่อื่น ๆ อีกทั้งมีการดูแลรักษาภูมิทัศน์ของเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ไว้ได้อย่างครบถ้วน และด้วยเหตุที่ว่าเมืองศรีสัชนาลัยเป็นเมืองบริวารเมืองหนึ่งของสุโขทัย เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา แยกตัวออกจากความเจริญของตัวเมืองในยุคสมัยใหม่ จึงทำให้อุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้มีความสวยงามทั้งทางธรรมชาติและมีความสมบูรณ์ของโบราณสถานมากที่สุดในเมืองไทย

จุดเด่นของโบราณสถานขนาดใหญ่หลายแห่งภายในอุทยานฯ สร้างขึ้นจากศิลาแลง และมีเขตโบราณสถานสำคัญถึง 5 เขต อันประกอบไปด้วยวัดสำคัญต่างๆ มากมา เช่น วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดนางพญา วัดสุวรรณคีรี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่ วัดสวนแก้วอุทยานน้อย และ ศาลหลักเมือง เป็นต้น ซึ่งได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาเป็นอย่างดี โดยกรมศิลปากร เหมาะสำหรับพาเจ้าตัวเล็กไปเดินชมและได้ซึมซับกับประวัติศาสตร์ของไทยในสมัยอดีตมาก ๆ เลยค่ะ

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
ตำบลศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย 64190
โทร. 055950714

Credit Photo www.facebook.com/kpppark2534

‘อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร’ ตั้งอยู่ที่เขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดสุโขทัย โดยลักษณะของศิลปะและสถาปัตยกรรมในอุทยานฯ เป็นศิลปะแบบเดียวกันกับที่ปรากฏในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มีโบราณสถานที่สวยงามและขนาดใหญ่อยู่จำนวนมาก ในอดีตเมืองกำแพงเพชรมีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของอาณาจักรสุโขทัย และตั้งอยู่ในป่าธรรมชาติที่ยังคงบรรยากาศของพุทธสถานเขตอรัญวาสีดังเดิม ด้วยเหตุนี้ยูเนสโกจึงขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเพื่อรักษาสภาพของเมืองโบราณแห่งนี้ไว้

สถาปัตยกรรมที่ยังหลงเหลืออยู่แสดงให้เห็นว่าประชากรมีการจัดระเบียบทางสังคมดี  มีงานสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่ก่อสร้างด้วยหินศิลาแลง เนื่องจากชาวเมืองศรีสัชนาลัยมีความรู้ความสามารถในการขุดตักศิลาแลงธรรมชาติมาใช้เป็นวัสดุในการก่อสร้างศาสนสถานและถาวรวัตถุอื่น ๆ รวมทั้งเป็นวัตถุหลักในการสร้างประติมากรรม นอกจากนี้ลวดลายปูนปั้นซึ่งประดับอยู่ตามโบราณสถานต่าง ๆ ยังมีความสวยงามประณีตแสดงถึงความก้าวหน้าทางศิลปกรรม อันเป็นแบบแผนของคนไทยมาโดยตลอด และมีประติมากรรมที่ยังคงสภาพเดิมที่แสดงถึงความเจริญในสมัยพุทธศตวรรษที่ 19 มีการสร้างวัดวาอารามหลายแห่ง ทั้งในและนอกเขตกำแพงเมือง โดยมีไม่น้อยกว่า 100 วัด ทางด้านศิลปะสถาปัตยกรรม โบราณสถานสำคัญในเขตเมืองโบราณแห่งนี้ คือ ศาลพระอิศวร กำแพงเมืองกำแพงเพชร วัดหนองพิกุล วัดพระธาตุ วัดซุ้มกอ วัดพระนอน บ่อสามเสน สระมน วัดพระสิงห์ เป็นต้น

อุทยานประวัติศาสตร์ทั้ง 3 แห่ง อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันและมีอายุไล่เลี่ยกันด้วย เมืองสุโขทัยในอดีตเคยเป็นนครหลวงแห่งแรกของไทย เป็นแหล่งที่วัฒนธรรมเจริญงอกงามสูงสุดยุคหนึ่ง จนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของโลก ทำให้ชื่อเสียงของสุโขทัยเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก และได้กลายเป็นแหล่งตัวอย่างข้อมูลการอนุรักษ์โบราณสถานในภูมิภาคนี้ของผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัยที่แฝงอยู่ในศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมของมรดกโลกแห่งนี้ เป็นเสมือนสื่อกลางที่ถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของผู้คนในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี และถือเป็นหลักฐานชิ้นเอกทางประวัติศาสตร์ ที่แสดงให้คนไทยรุ่นหลังและนานาประเทศได้เห็นว่า ในยุคสมัยที่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานีนั้นถือเป็นยุคทองของประวัติศาสตร์ไทยอีกยุคหนึ่งก็ว่าได้ การเดินทางจากกรุงเทพไปจังหวัดสุโขทัยใช้เวลาแค่เพียง 5 ชั่วโมงกว่า ๆ จะถึงจังหวัดกำแพงเพชรที่สามารถแวะเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรก่อน จากนั้นก็ไปชมอุทยานฯ อีกสองแห่งที่จังหวัดสุโขทัยกันต่อเลย

อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
เทศบาลเมืองกำแพงเพชร (จังหวัดกำแพงเพชร) 62000
โทร. 055854736-7

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ คุณพ่อคุณแม่ลองจัดทริปพาเจ้าตัวเล็กมาเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ย้อนร้อยอดีต หาความรู้เชิงประวัติศาสตร์ ที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้ความรู้เต็มเปี่ยมคู่ไปกับความเพลิดเพลิน ซึ่งในเมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ว่าแล้วแพลนไปกันเลยค่ะ

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ

พาลูกเที่ยวโครงการพระราชดำริ 4 เส้นทางตามรอยพ่อ

พาลูกเที่ยว ฟาร์ม 5 ห้องเรียนธรรมชาติของเจ้าตัวเล็ก เข้าชมฟรี!!

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

Summary
Review Date
Reviewed Item
สถานที่ทางประวัติศาสตร์
Author Rating
5