ขูดมดลูก …เพียงแค่คิดผู้หญิงทุกคนก็รู้สึกเสียวแปล๊บบริเวณท้องน้อยขึ้นมาทันที และคงไม่มีใครอยากขึ้นขาหยั่งเพื่อโดนขูดมดลูกอย่างแน่นอน แต่เราจะหลีกหนีความขยาดหวาดเสียวนี้ไปได้หรือไม่ วันนี้มีคำตอบมาบอกค่ะว่า ความจริงแล้ว การขูดมดลูกนั้นน่ากลัวไหม แล้วเมื่อไหร่ที่ต้องขูดมดลูกกันบ้าง
ขูดมดลูก คืออะไร
ขูดมดลูก (Uterine curettage) เป็นการนำเครื่องมือขนาดเล็กที่เรียกว่าคิวเร็ท (Curette) สอดเข้าช่องคลอดผ่านไปในโพรงมดลูก แล้วขูดเอาเยื่อบุ หรือชิ้นเนื้อมาตรวจสอบหาสาเหตุ เพื่อการรักษาและวินิจฉัย การขูดมดลูกมีด้วยกัน 2 แบบ คือ การถ่างขยายปากมดลูกร่วมกับการขูดมดลูก (Dilatation and curettage) และการขูดมดลูกแบบแยกส่วน (Fractional curettage)
ขูดมดลูกเมื่อไหร่ ทำไมต้องขูดมดลูก
คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากโดนขูดมดลูกอย่างแน่นอน แต่เมื่อไหร่ที่แพทย์ตรวจพบความผิดปกติ หรือคุณแม่ตั้งครรภ์ประสบเหตุการณ์เหล่านี้ การขูดมดลูกก็จะช่วยให้คุณปลอดภัย และมีอาการดีขึ้นค่ะ
- มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เป็นการวินิจฉัยโรคในหญิงไม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ที่เลือดออกทางช่องคลอดมาก หรือออกกะปริดกะปรอยระหว่างมีประจำเดือน หรือมีรอบประจำเดือนไม่ปกติ รวมถึงผู้หญิงที่หมดประจำเดือนไปแล้ว แต่กลับมีเลือดออกจากช่องคลอด การขูดมดลูกจะช่วยทำให้ทราบสาเหตุดังกล่าว และยังตรวจหามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้อีกด้วย
- แท้งบุตร ทั้งจากการแท้งไม่ครบ คือ แท้งแล้ว แต่ยังมีบางส่วนหลุดออกจากโพรงมดลูกไม่หมด ทำให้เลือดไหลไม่หยุด หรือแท้งที่หยุดยั้งไม่ได้ มักจะพบในคุณแม่อายุครรภ์น้อยกว่า 22 สัปดาห์ มีอาการปวดท้อง เลือดออกจากโพรงมดลูก และปากมดลูกเปิด หรือแท้งค้าง โดยมีเลือดออกประจำสม่ำเสมอเป็นเวลานาน ๆ จากการแท้งแบบหยุดยั้งไม่ได้ หรือแท้งไม่ครบ ซึ่งไม่ว่าจะแท้งแบบใด แพทย์จะต้องขูดมดลูกเอาชิ้นเนื้อรกบางส่วนที่ตกค้างจากการตั้งครรภ์ออกให้หมด เพื่อบรรเทาอาการปวดท้อง และเลือดออก จนคุณแม่มีอาการดีขึ้น
- ตั้งครรภ์ผิดปกติแน่นอน แพทย์จะเตรียมตัวล่วงหน้าร่วมกับคุณแม่ เพื่อกำหนดเวลา สถานที่ และวิธีการ เพื่อนำส่วนการตั้งครรภ์ผิดปกติออกมาก่อนที่จะมีอาการแท้ง ซึ่งจะทำกับครรภ์ที่มีอายุไม่เกิน 12 สัปดาห์ เพราะมีภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าครรภ์อายุมากกว่า 12 สัปดาห์ แต่ถ้าอายุครรภ์น้อยกว่า 8 สัปดาห์ แพทย์อาจใช้วิธีดูดออกด้วยระบบสุญญากาศอย่างเดียว หรือร่วมกับการขูดมดลูก หรือใช้วิธีขูดมดลูกเพียงอย่างเดียว หลังจากขูดมดลูกไปแล้ว คุณแม่จะมีอาการปวดท้องจากมดลูกบีบตัว และมีเลือดออกบ้างประมาณ 2-5 วัน แต่ไม่ควรเกิน 7 วัน หรือมีเศษชิ้นเนื้อออกมาอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นอาการปวดท้องและปริมาณเลือดจะลดลงภายในข้ามคืน แล้วค่อย ๆ ดีขึ้นเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์
Good to Know!…การดูดออกด้วยระบบสุญญากาศ หรือที่เรียกว่า “เครื่องดูดมดลูกมือถือ” มีลักษณะเป็นหลอดพลาสติกเล็ก ๆ หลายขนาดต่อเข้ากับกระบอกสุญญากาศ ถือเป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ต้องการทดแทนการขูดมดลูกที่ใช้เหล็กแหลม ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้มากกว่า
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ ขูดมดลูกทำยังไง น่ากลัวไหม? คลิกหน้า 2
ขูดมดลูก น่ากลัวไหม
ขูดมดลูกประสบการณ์เสียวแปล๊บที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ในความเป็นจริงนั้น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะแพทย์จะวางยาสลบ จึงทำให้ไม่รู้สึกอะไรเลยขณะถูกขูดมดลูก หรือหากเป็นการฉีดยาชาบริเวณคอมดลูก ก็อาจจะปวดท้องน้อยเหมือนอาการปวดประจำเดือนเท่านั้น และระยะเวลาที่ใช้ในการขูดมดลูกก็เพียงแค่ 15-20 นาที ซึ่งหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ก็สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังจากขูดมดลูกไปแล้ว 1-2 ชั่วโมง
ขูดมดลูก มีภาวะแทรกซ้อนไหม
ภาวะแทรกซ้อนหรือความเสี่ยงจากการขูดมดลูกพบน้อยมาก แต่สามารถพบได้จากอาการและสาเหตุ ดังนี้
- เสียเลือดมาก จากการขูดชิ้นเนื้อออกไม่หมด ซึ่งชิ้นเนื้อที่ตกค้างนี้ มักจะหลุดออกมาเองตามธรรมชาติโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ แต่อาจต้องขูดมดลูกซ้ำอีกครั้ง เพื่อนำเอาชิ้นเนื้อที่ยังเหลืออยู่ออกให้หมด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของแพทย์เป็นสำคัญ
- มดลูกทะลุ มักจะเกิดขึ้นกับการขูดมดลูกจากการแท้งบุตร เพราะมดลูกของผู้หญิงตั้งครรภ์จะนุ่มมาก ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดมดลูกทะลุได้ง่าย
- การติดเชื้อ เกิดจากการทำความสะอาดไม่ดี หรือมีเพศสัมพันธ์ขณะแผลยังไม่หาย จึงทำให้ติดเชื้อเป็นแผลอักเสบได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ การปฏิบัติตัวหลังขูดมดลูก คลิกหน้า 3
ขูดมดลูกแล้ว ต้องทำตัวอย่างไร…ข้อปฏิบัติง่าย ๆ หลังขูดมดลูก
- หลังจากขูดมดลูก ควรหยุดพักผ่อนประมาณ 1-2 วัน และไม่ทำงานหนักเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- หมั่นทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ ไม่ควรใช้ผ้าอนามัยแบบสอด สวนล้างช่องคลอด เหน็บยา หรือแช่ตัวในอ่างอาบน้ำเป็นเวลา 4 สัปดาห์
- งดมีเพศสัมพันธ์ 2-3 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
- หลังได้ยาระงับความรู้สึก อาจพบอาการข้างเคียง เช่น อ่อนเพลีย ง่วงนอน เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ให้หายใจเข้าออกลึก ๆ นอนพักผ่อนมาก ๆ ในกรณีคลื่นไส้ให้กลั้วปากด้วยน้ำอุ่น อาการต่าง ๆ จะดีขึ้นภายใน 1–2 วัน แต่ถ้าไม่ดีขึ้นให้มาพบแพทย์ตรวจดูอาการต่อไป
- หากมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยจากการหดเกร็งของมดลูก ให้ทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดอาการปวด
- หากได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ควรทานตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- ไปพบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อติดตามอาการและฟังผลวินิจฉัย แต่หากมีเลือดออกมามากผิดปกติจนผ้าอนามัยเปียกชุ่มภายในเวลา 1 ชม. ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ขูดมดลูกไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด เพราะด้วยวิทยาการและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยในปัจจุบัน ทำให้เรื่องการขูดมดลูกเป็นเรื่องง่ายดาย รวดเร็ว และปลอดภัย คุณผู้หญิงทั้งหลายจึงคลายกังวลได้ว่า หากเมื่อใดมีความจำเป็นต้องขูดมดลูก ขอให้ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของแพทย์จะดีที่สุด เพื่อความปลอดภัย ไร้กังวล และมีสุขภาพดีในระยะยาวต่อไปค่ะ
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง
นพ.ธีรศักดิ์ ธำรงธีระกุล และทีมแพทย์ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากและผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช โรงพยาบาลวิภาวดี.การขูดมดลูก.
พญ.ชัญวลี ศรีสุโข.การดูแลตนเองหลังขูดมดลูก.www.komchadluek.net/news/detail/172181.
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่