AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

กินยาคุมนาน ๆ ส่งผลต่อสุขภาพจิตจริงหรือไม่?

ไขข้อข้อใจคุณแม่ที่กำลังสงสัยว่า กินยาคุมนาน หลายปี จะส่งผลต่อสุขภาพจิตอย่างที่ได้ยินมาจริงหรือไม่?

 

 

คุณแม่ที่กำลังรับประทานยาคุมอยู่ หรือรับประทานมานานแล้วจนเกิดความกังวลใจว่า รับประทานนานเกินไป จะส่งผลกระทบทางสภาพจิตใจ จนทำให้เป็นโรคซึมเศร้าจริงหรือไม่นั้น วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้เตรียมคำตอบเอาไว้ให้แล้วค่ะ

ทำความรู้จักกับยาคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิด เรียกอีกอย่างว่า Birth control pill เป็นยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน และโปรเจสติน) มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ โดยยับยั้งการตกไข่ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหรือเยื่อบุมดลูก บางตัวมีสภาพไม่พร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน และทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้น เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนที่ของตัวอสุจิจึงทำให้ไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ในท่อนำไข่ได้

ยาคุมกำเนิดนั้น แบ่งออกเป็น  3 ชนิดด้วยกัน อันได้แก่

  1. ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
  2. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีโปรเจสตินอย่างเดียว
  3. ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน

กินยาคุมนาน ส่งผลกับสุขภาพจิตจริงหรือ?

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ได้มีการเปิดเผยผลการศึกษาว่า การรับประทานยาคุมกำเนิดนั้น ส่งผลให้ผู้รับประทานยามีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าสูงกว่าคนที่ไม่ได้ทานยาคุมกำเนิด

บ่อยครั้งที่เราจะได้ยินว่า การรับประทานยาคุมกำเนิดนั้นมักจะมีผลข้างเคียง นอกจากผลข้างเคียงที่มีอาการเวียนหัวและอาเจียนแล้ว ผลข้างเคียงที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เจอคือ อารมณ์ที่เหวี่ยงไปมา และในบางคนก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ และมีผู้หญิงอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่รู้สึกว่าตัวเองมีอาการของโรคซึมเศร้า และสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการรับประทานยาคุมกำเนิด

โดยงานวิจัยชิ้นนี้ถือเป็นงานวิจัยชิ้นแรก ที่มีการศึกษาประสบการณ์ของผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากการคุมกำเนิด งานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้เป็นเวลา 13 ปีกับผู้หญิงชาวเดนมาร์กที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 34 ปี ซึ่งพบว่า ผู้หญิงมากกว่า 30% ที่รับประทานยาคุมกำเนิดมีอาการของคนที่เป็นโรคซึมเศร้า และกลุ่มวัยรุ่นถือว่าเป็นกลุ่มที่เสี่ยงที่สุดในการรับประทานยาคุมกำเนิดและมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าสูง

ที่แย่ไปกว่านั้นคือ การคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ใช้วิธีควบคุมฮอร์โมน อย่างเช่นยาคุมกำเนิดแบบฝัง และห่วงสอดช่องคลอด เป็นต้น ที่แพทย์มักจะแนะนำสำหรับคนที่ไม่ต้องการรับประทานยาคุมกำเนิด กลับให้ผลที่แย่กว่า ผู้หญิงที่ใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยการควบคุมฮอร์โมนที่ไม่ใช่การรับประทานยา จะมีความเสี่ยงสูงมากกว่าคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดในการเป็นโรคซึมเศร้า

ดังนั้น หากผู้หญิงหลายคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น โดยไม่รู้ว่าตัวเองมีอาการของโรคซึมเศร้า การรับประทานยาคุมกำเนิดหรือมีการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นๆ ที่ใช้การควบคุมฮอร์โมน ก็จะทำให้อาการของโรคซึมเศร้าแย่ลงไปอีก การศึกษาในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้สังเกตอีกด้วยว่า ถ้าหากผู้หญิงคนไหนที่มีอาการของโรคซึมเศร้าอยู่ก่อนแล้ว หมอมักจะไม่ให้รับประทานยาคุมกำเนิด เพราะอาจจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการที่แย่ลงได้

นายแพทย์พิชัย อิฏฐสกุล จิตแพทย์  จากโรงพยาบาลมนารมย์ ได้ทำการอธิบายเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าให้ฟังว่า โรคซึมเศร้าถือเป็นโรคทางด้านจิตเวชที่พบมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย เกิดจาก 2 สาเหตุหลักคือ

สำหรับวิธีบำบัดนั้น ทำได้ดังนี้

  1. ในกรณีที่ผู้ป่วยรับประทานยาคุมนานเกินไป แนะนำให้รับประทานอาหารประเภท นมถั่วเหลือง ไข่ เนยแข็ง ตับ ข้าวโพด และปลาชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งสารอาหาร วิตามินบี6 และ บี12 มีส่วนช่วยทำลายสารที่ส่งผลข้างเคียงกับภาวะอารมณ์ได้
  2. อย่าพยายามบังคับตนเอง หรือตั้งเป้ากับตนเองให้สูงเกินไป เพราะอาจไปเพิ่มความรู้สึกล้มเหลวในภายหลัง
  3. พยายามทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับบุคคลอื่น ซึ่งดีกว่าอยู่เพียงลำพัง
  4. คนรอบข้างจะต้องให้กำลังใจและพร้อมที่จะรับฟังความรู้สึกของผู้ป่วย โดยไม่มีทีท่าว่าจะแสดงความรำคาญ
  5. อย่าเรียกร้องให้ผู้ป่วยต้องหายจากโรคอย่างรวดเร็ว อย่ากล่าวโทษผู้ป่วยซึมเศร้าว่าแสร้งทำ หรือขี้เกียจ เพราะถึงแม้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาก็ยังต้องใช้เวลา ช่วงหนึ่งจึงจะมีอาการดีขึ้น

ขอบคุณที่มา: Sanook, New18, Hamoor และ Gotomanager 360

อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids