AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

9 สิ่งอันตราย รอบตัวแม่ท้อง “ทำลายสมองและพัฒนาการลูกในครรภ์”

สิ่งรอบตัว ทำร้ายลูกในครรภ์ …หลายครั้งที่ความเคยชินกับการใช้ชีวิตประจำวันทำให้คุณแม่ท้องไม่ทันระวังว่ามีอีกหนึ่งชีวิตนั้นอยู่กับตัวเองด้วย  ซึ่งยังมีสิ่งแวดล้อมหรือสิ่งรอบตัวของคุณแม่ตั้งครรภ์หลายอย่างทีเดียว ที่อาจเป็นภัยเงียบที่ส่งผลร้ายต่อลูกน้อยในท้องได้

นอกจากแม่ท้องจะต้องรู้วิธีกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์แล้ว ยังจะต้องรู้ถึงสิ่งต่อไปนี้ที่จะขัดขวางและทำลายพัฒนาการทารกในครรภ์…   ซึ่งภัยอันตรายรอบข้างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องระวังให้ทารกในครรภ์เป็นพิเศษมีอยู่มากมายโดยคุณแม่อาจไม่คาดคิดหรือไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เพราะสิ่งเหล่านั้นสามารถทำลายสมองและพัฒนาการทารกในครรภ์ได้ จะมีอะไรบ้างที่คุณแม่ท้องต้องระวังหรือควรหลีกให้ไกล ไปดูกันค่ะ

สิ่งรอบตัว ทำร้ายลูกในครรภ์ โดยไม่คาดคิด!

♦ สภาพแวดล้อมในบ้าน ♦

1. อุปกรณ์ไอที

เชื่อหรือไม่ว่าเทคโนโลยีต่างๆ ที่คุณแม่ใช้อยู่ทุกวันนี้ ก็ส่งผลต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้ก็ยังสามารถใช้ได้ แต่ควรใช้ในเวลาที่น้อยที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ เนื่องจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน จะมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและรังสีที่แผ่ออกมาจะส่งผลต่อลูกในท้อง ส่วนการใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเป็นเวลานานก็ไม่ดีเช่นกันค่ะ เพราะโทรศัพท์มือถือจะมีรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถทำลายเซลล์ประสาทและเซลล์ตัวอ่อนของทารกในครรภ์ อาจกระตุ้นให้ทารกเป็นโรคต้อกระจก ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ สมาธิสั้น พัฒนาการล่าช้าได้ในอนาคต

Must readใช้เทคโนโลยีอย่างไรให้ปลอดภัยกับแม่และลูกในท้อง

2. สัตว์เลี้ยง

โดยเฉพาะแมว เป็นพาหะนำเชื้อทอกโซพลาสม่า หากคุณแม่ท้องติดเชื้อจะส่งผลให้ทารกในครรภ์พิการ ตาบอด หรือสมองถูกทำลาย ฉะนั้นหญิงท้องควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแมวหรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ

Must readอยากท้อง แต่เลี้ยงน้องสุนัขได้ไหม?

3. สารเคมีหรือยาฆ่าแมลง

อย่างสารปรอท ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศ  น้ำ  และดิน  จากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง การเผาขยะ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตามบ้านเรือน ปนเปื้อนในเครื่องสำอางและอาหาร โดยเฉพาะในอาหารทะเลจะพบมากในสัตว์ทะเลที่มีขนาดใหญ่ ไม่เข้าใกล้สถานที่ที่มีการเผาไหม้ของขยะหรือเชื้อเพลิงต่าง ๆ ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ  แทนการใช้เครื่องสำอางที่ผลิตจากสารเคมี

Must read9 เรื่อง การเสริมสวยที่แม่ท้องควรรู้

ควรระมัดระวังในการใช้ อ่านฉลากอย่างละเอียด ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงเพราะสารเคมีเหล่านี้อาจสะสมไว้ในร่างกาย อาจทำให้ทารกที่คลอดออกมาพิการแต่กำเนิด

อ่านต่อ >> “สิ่งรอบตัวสภาพแวดล้อมในบ้าน ที่เป็นอันตรายทำร้ายลูกในครรภ์”
คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

4. อาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ

มีอาหารบางอย่างบางประเภท ที่ส่งผลต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ หากจะทานอะไรต้องระวังกันหน่อยนะคะ เพราะอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ มักมากับสารปนเปื้อนจากยาฆ่าแมลง หากทานเข้าไปจะส่งผลให้ลูกมี IQ ที่ต่ำกว่าเด็กทั่วไปได้ค่ะ คุณแม่อาจจะลองเลือกอาหารออร์แกนิคแทน และเน้นการล้างให้สะอาดทุกครั้งก่อนทาน เมื่ออาหารไม่มีสารพิษตกค้างก็จะมีประโยชน์ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์และพัฒนาการทารกในครรภ์ที่แข็งแรงค่ะ

Must read13 สารอาหารสำคัญ เพื่อลูกรักฉลาด ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

5. งานอดิเรก

เช่น การวาดภาพ การทาสี ทำให้มีโอกาสสัมผัสกับสารพิษต่าง ๆ อาทิ สารตะกั่วในสี และทอลิวอีนในกาว อาจเกิดอันตรายต่อหญิงมีครรภ์ทำให้แท้งบุตรง่ายและส่งผลให้ทารกในครรภ์พิการได้

Must readอาชีพเสริม สำหรับคุณแม่บ้าน ทำได้ที่บ้านหรือแม้เลี้ยงลูก
Must readงานบ้านที่แม่ท้องทำได้และควรหลีกเลี่ยง

6. สภาวะที่ตึงเครียดส่งผลต่อพัฒนาการทารกในครรภ์

สภาพแวดล้อมในครอบครัว คือ ต้องไม่มีความตึงเครียดจากคนรอบข้าง ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง มีการให้กำลังใจแม่ท้องอยู่เสมอ สภาพแวดล้อมทั้งหมดนี้จะส่งผลโดยตรงกับสภาพจิตใจของแม่ และเมื่อแม่ท้องไม่มีความเครียดก็จะทำให้ทารกในครรภ์ไม่เครียด พัฒนาการทารกในครรภ์ก็จะดี ลองสังเกตง่ายๆ ว่าถ้าแม่ท้องอารมณ์ดี ลูกในท้องจะขยับตัว ดิ้น ให้แม่รู้เสมอว่ากำลังมีความสุขเมื่อแม่มีความสุขเช่นกัน

Must readหากคุณแม่ท้องเครียดเกินไป..ไม่ดีแน่

อ่านต่อ >> “สิ่งรอบตัวสภาพแวดล้อมนอกบ้านที่เป็นอันตรายทำร้ายลูกในครรภ์”
คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

◊ สภาพแวดล้อมนอกบ้าน ◊

7. มลพิษ ฝุ่นละออง

ควันต่าง ๆ จากการจราจรบนท้องถนน หากคุณแม่ตั้งครรภ์สูดอากาศที่มีสารพิษที่มีสารตะกั่วปนเปื้อนเข้าไปจะสามารถผ่านทางรกไปสู่ลูกในท้องได้ เกิดการอักเสบ อาการรุนแรงทางระบบการหายใจ อาจทำให้เกิดอาการแท้งบุตรได้

8. ควันบุหรี่

นอกจากจะส่งผลเสียกับตัวผู้สูบเอง และสำหรับคนรอบข้างที่สูดดมควันบุหรี่เข้าไปก็เปรียบได้กับคนที่สูบบุหรี่เช่นกัน หรือที่เรียกว่า “ควันบุหรี่มือสอง ซึ่งในควันบุหรี่สีขาว ๆ นั้นมีสารเคมีอยู่มากกว่า 60 ชนิดที่วงการแพทย์ระบุว่าเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งผู้ได้รับควันบุหรี่มือสองนั้นเท่ากับได้รับผลกระทบโดยตรงหรืออาจจะมากกว่าผู้สูบเอง 5 – 10 เท่าเลยทีเดียว เพราะมีความเข้มข้นของสารพิษมากกว่า” รวมไปถึง “บุหรี่มือสาม” กับกลิ่นควันที่ติดมากับลมหายใจและเสื้อผ้า เช่นเดียวกัน ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์

Must read : พ่อจ๋า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายมากกว่าที่คิด!!!
Must readควันบุหรี่มือสาม ทำร้ายลูกได้ 20 เท่า!!

9. เสียงที่ดังเกินไป

เช่น เสียงรถไฟ เสียงเครื่องบิน เสียงจากการก่อสร้างต่าง ๆ รบกวนทั้งสุขภาพจิตของหญิงมีครรภ์ ทำให้อัตราการคลอดก่อนกำหนดสูง แล้วยังส่งผลให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อย ประสาทอ่อน ขี้ตกใจ

10. การติดเชื้อ

หญิงมีครรภ์ที่เข้าไปในสถานที่แออัดหรือมีคนมาก ๆ เช่น โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า มีโอกาสรับเชื้อหลากชนิด ซึ่งอาจถ่ายทอดสู่ลูกน้อยในครรภ์ให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้

Must readโรคมือเท้าปากในผู้ใหญ่ คุณพ่อ คุณแม่ ก็ติดลูกน้อยได้

นอกจากการระมัดระวังภัยต่าง ๆ รอบตัวแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องดูแลสุขภาพ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะนำมาซึ่งความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณแม่เองและลูกน้อยในครรภ์ค่ะ

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.healthandtrend.com