เป็นไปได้อย่างไร ทำหมันแล้วท้อง เรื่องจริงที่แพทย์เผยแล้วว่า มีความเป็นไปได้!
คุณแม่อาจจะเคยได้ยินเรื่องราวที่ว่า ทำหมันแล้วยังท้องได้ ใช่ไหมคะ … คุณแม่มีความคิดเห็นว่าอย่างไรกับเรื่องนี้คะ? รู้สึกว่าเป็นเรื่องตลก หรือว่าโกหกกันหรือเปล่า?
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แม้แต่แพทย์เองก็ยังออกมายืนยันเลยละค่ะว่า ต่อให้ทำหมันก็ไม่ได้หมายความถึงจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์! ดังเช่น บทความของคุณหมอพิณ ที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านประชาชาติธุรกิจออนไลน์เอาไว้ว่า
สวัสดีค่ะ วันก่อน เห็นข่าวแว้บ ๆ ในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับ ผู้ป่วยหญิง ทำหมันแล้วต่อมาตั้งครรภ์ เรื่องราวรายละเอียดอย่างไรหมอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นมาอย่างไร แต่หลาย ๆ คน คงจะคิดว่า ทำหมันแล้ว ก็ต้องไม่ท้องสิ ถ้าท้องขึ้นมา จะต้องเป็นความผิดของใครสักคนแน่ ๆ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว “ทำหมัน ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%” นะคะ
ทำความรู้จักกับการทำหมันหญิงได้ที่หน้าถัดไป >>
ทำความรู้จักกับการทำหมันหญิงกัน
คุณหมอพิณ ได้อธิบายถึงการทำหมันหญิงเอาไว้ดังนี้ ก่อนจะไปถึงเรื่องทำหมัน เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “กว่าจะเป็นทารก” กันนะคะ กว่าจะเป็นทารก ต้องมีการผสมกัน ระหว่าง อสุจิ (จากฝ่ายชาย) และไข่ (จากฝ่ายหญิง)
ไข่ จะถูกผลิตออกมาจากรังไข่ (โรงงานผลิตไข่) และรอนแรมผ่านท่อนำไข่ (ถนนที่เชื่อมระหว่างรังไข่และโพรงมดลูก) มาผสมกับอสุจิ (ที่ปล่อยมาจากฝ่ายชาย) หลังจากรวมร่างกันแล้ว ก็จะได้ตัวอ่อน ซึ่งจะมาฝังตัวในโพรงมดลูก และใช้เวลาประมาณ 9 เดือนกว่าจะคลอดออกมาเป็นทารกค่ะ
การทำหมันหญิง คือการ ผูก และหรือ ตัด ท่อนำไข่บางส่วนของคุณผู้หญิง ซึ่งก็จะทำให้ไข่ที่ออกมาจากโรงงานผลิตไข่ ไม่สามารถรอนแรมมาเจออสุจิได้เพราะถนนที่เชื่อมระหว่างโรงงานและโพรงมดลูกขาดหรือตันนั่นเองค่ะ
อสุจิก็ว่ายน้ำมาไม่เจอไข่ เพราะถนนขาดหรือตันเช่นกันซึ่งการตัดถนนบางส่วนนี้ ก็จะทำให้อสุจิกับไข่ไม่เจอกัน ก็จะผสมกันไม่ได้ ก็เลยไม่ท้อง แต่การทำหมันก็ยังสามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้ 0.5-0.7 เปอร์เซ็นต์
ทำหมันแล้วทำไมยังท้องได้ อ่านต่อได้ที่หน้าถัดไป >>
ทำหมันแล้วท้อง เป็นไปได้อย่างไร?
คุณหมอเผยถึงสาเหตุว่า ที่ท้องได้นั้นเป็นเพราะ ท่อรังไข่ที่ถูกตัดทิ้งไปนั้นกลับมาเชื่อมกันได้นั่นเอง ซึ่งก็จะทำให้ไข่กับอสุจิมาเจอกันแล้วก็ผสมกันได้ ดังนั้น ในคนที่ทำหมันไปแล้ว ถ้าเดือนไหนประจำเดือนขาด หรือมีเลือดออกผิดปกติ ก็ต้องตรวจการตั้งครรภ์กันด้วยนะคะ เพราะมีโอกาสตั้งครรภ์ และอาจเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ค่ะ
การทำหมันเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงค่ะ แต่ก็ไม่ 100% อยู่ดี
และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย
8 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการทำหมันหญิง
- การใส่ห่วงคุมกำเนิด แบบทองแดง มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.8 เปอร์เซ็นต์ค่ะ สามารถใส่ได้นานถึง 10 ปี (บางคนใส่จนลืมไปเลย ห่วงคุมกำเนิดแบบมีฮอร์โมน มีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยกว่าแบบทองแดง นั่นคือ 0.2 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น โดยห่วงจะปล่อยฮอร์โมนออกมาด้วย ใส่นานได้ถึง 5 ปี
- การฝังยาคุมกำเนิด ปัจจุบันเรามียาฝังแบบหลอดเดียว คุมกำเนิดได้ 3 ปี ซึ่งโอกาสที่จะพลาดตั้งครรภ์น้อย เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ยังไม่คิดจะมีบุตร ส่วนการฉีดยาคุมกำเนิด ฉีด 1 เข็ม ทุก 3 เดือน โอกาสตั้งครรภ์มี 6 เปอร์เซ็นต์ค่ะ
อ่านต่อเรื่องควรรู้ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
- ทำหมันแล้วไม่ได้แปลว่าจะมีความต้องการทางเพศสูงขึ้น เนื่องจากการผูกและตัดท่อนำไข่นั้น ไม่ได้ไปเกี่ยวอะไรกับการผลิตฮอร์โมนค่ะ การทำหมันอาจทำให้เกิดความสบายใจเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงมากขึ้นเท่านั้นเอง
- ทำหมันแล้วสามารถยกของหนักได้ แต่หากคุณแม่เคยผ่านการคลอดบุตรมาหลายคนแล้ว ไม่ว่าจะทำหมันหรือไม่ก็ตามการยกของหนักบ่อย ๆ ก็ส่งผลให้กระบังลมหย่อนได้
- การดูแลตัวเองหลังทำหมันนั้น คุณแม่สามารถทำกิจกรรม ต่าง ๆ ได้แทบจะเหมือนคนปกติทั่วไป เพียงแต่ต้องงดเว้นงานหนักหรือกิจกรรมที่จะทำให้บริเวณแผลมีการกระทบกระเทือน โดยปกติคุณหมอจะปิดแผลไว้ไม่ให้ถูกโดนน้ำเป็นเวลาประมาณ 7 วัน หากเย็บแผลด้วยไหมละลาย หลังเปิดแผลแล้วถ้าหากแผลติดเรียบร้อยดี สามารถอาบน้ำได้ แต่ถ้าเย็บแผลด้วยไหมธรรมดา ให้ตัดไหมเมื่อครบ 7 วัน แล้วจึงอาบน้ำได้ค่ะ
- การทำหมันเป็นการทำผ่าตัดง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นานและเป็นการผ่าตัดที่จัดว่าค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็มีคุณแม่บางราย ที่การทำหมันทำไม่ง่ายดังที่กล่าวแล้วข้างต้น และอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนบางประการ เช่น การติดเชื้อ การเสียเลือด หรือบาดเจ็บต่ออวัยวะภายใน เช่น ลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ ซึ่งอาจจำเป็นต้องรับการรักษาเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขภาวะแทรกซ้อนนั้น หรืออยู่โรงพยาบาลนานขึ้น แต่ปัญหาเหล่านี้พบได้ไม่เกิน 1ใน 100 ราย
- การทำหมันหญิงนั้น สามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้นะคะ แต่ถ้าหากในช่วงเวลาที่ใกล้คลอด คุณแม่พิจารณาแล้วว่า ไม่ต้องการมีลูกเพิ่มขึ้น แนะนำให้แจ้งคุณหมอสูตินรีที่ทำคลอดให้ทราบ ทั้งนี้ก็เพื่อคุณหมอจะได้ทำให้ทันทีหลังจากที่คลอดลูกเสร็จนั่นเอง
การทำหมันจึงถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่พร้อมจะมีบุตร หรือไม่ต้องการมีบุตรเพิ่ม และแน่นอนค่ะว่า นอกจากการที่เราจะต้องยอมเจ็บตัวฝ่ายเดียวแล้ว การให้ฝ่ายชายรู้จักป้องกันไว้ด้วย ก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีเพิ่มยิ่งขึ้นด้วย
เครดิต: ประชาชาติธุรกิจ
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่