คนท้องขึ้นเครื่องบิน จะปลอดภัยไหม? เป็นอีกหนึ่งคำถามที่แม่ท้องถามกันเข้ามามาก เพราะส่วนใหญ่กังวลว่าจะเป็นอันตรายกับลูกในท้อง จริงๆ อยากบอกว่าถ้าปฏิบัติตามกฎของสายการบิน และปรึกษาคุณหมอก่อนเดินทางก็ช่วยให้มั่นใจ เดินทางแบบสบายหายห่วงค่ะ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อควรรู้ในการเดินทางด้วยเครื่องบินมาฝากคุณแม่ท้องให้ทราบกันค่ะ
คนท้องขึ้นเครื่องบิน ต้องปลอดภัยต่อสุขภาพครรภ์ด้วยนะ!!
คนท้องไม่ใช่คนป่วย ฉะนั้นจะทำอะไร จะไปไหนก็ได้ทั้งนั้นค่ะ รวมถึง คนท้องขึ้นเครื่องบิน ก็ได้นะ!! ว่าแต่จะอันตราย หรือได้รับแรงกระแทกถึงลูกในท้องตอนเครื่องบิน Take off กับตอน Landing หรือเปล่าล่ะ!?
สำหรับแม่ท้องในบ้างครั้งก็มีความจำเป็นต้องเดินทางโดยสารด้วยเครื่องบิน โดยเฉพาะแม่ท้องที่ต้องเดินทางติดต่อธุรกิจทั้ง ต่างประเทศ ต่างจังหวัดบ่อยๆ หรืออย่างในช่วงเทศกาลหยุดยาวสามีทำเซอร์ไพรส์ก่อนคลอดพาไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่ง อันนี้เป็นใครก็ไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้เที่ยวถูกไหมคะ ถึงแม้ว่าจะอุ้มท้องอยู่ก็เถอะ
อ๊ะ อ๊ะ… แต่การเป็นคนท้องก็ไม่ใช่จะซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วเดินทางกันได้เลยนะคะ เพราะสำหรับคนท้องมีรายละเอียดให้ใส่ใจกันมากกว่านั้นค่ะ โดยเฉพาะเรื่องของอายุครรภ์ เอาล่ะซิที่พูดนี่ไม่ได้จะดับฝันว่าที่คุณแม่กันหรอกนะคะ แต่นั่นคือเรื่องจริง เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยต่อสุขภาพครรภ์ ผู้เขียนได้ลองสอบถามจากเพื่อนๆ และญาติๆ ที่ต้องเดินทางโดย เครื่องบินตอนท้อง มีการเตรียมตัวในเรื่องใดบ้าง ก็พอจะได้คำตอบที่เป็นประโยชน์ ดังนี้ค่ะ…
- ก่อนเดินทางโดยเครื่องบิน จะต้องไปตรวจสุขภาพครรภ์กับคุณหมอที่ดูแล(ฝากครรภ์ไว้) ว่าอายุครรภ์แข็งแรง และมีความพร้อมต่อการโดยสารเครื่องบินหรือไม่
- อายุครรภ์ที่หมอไม่แนะนำให้โดยสารเครื่องบิน คือ อายุครรภ์ที่น้อยกว่า 12 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นช่วงเริ่ม ตั้งครรภ์ หากได้รับการกระทบกระเทือนอาจเสี่ยงต่อการแท้งได้
- อายุครรภ์ที่หมอไม่แนะนำให้โดยสารเครื่องบิน คือ อายุครรภ์ที่เกิน 34 สัปดาห์ขึ้นไป (เป็นช่วงใกล้คลอด อาจ เสี่ยงต่อการคลอดขณะเดินทางได้)
- หากจำเป็นต้องเดินทางในอายุครรภ์ที่มากกว่ากำหนด จะต้องได้รับเอกสารรับรองจากคุณหมอที่ดูแลครรภ์ก่อนว่าสามารถขึ้นเครื่องได้ โดยไม่มีปัญหาสุขภาพครรภ์แทรกซ้อน หรือสุ่มเสี่ยงต่อการคลอดขณะเดินทาง โดยเฉพาะชั่วโมงการเดินทางที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง หรือต้องบินข้ามวันไปประเทศไกลๆ เป็นต้น
- ก่อนการเดินทางโดยเครื่องบินทุกครั้ง จะต้องมีเอกสารรับรองจากคุณหมอว่าการขึ้นเครื่องในเที่ยวบิน จะไม่เป็นอันตรายต่อตัวแม่ท้องเอง และทารกในครรภ์ คือ ต้องไม่มีปัญหาแทรกซ้อนทางสุขภาพ เช่น ภาวะแท้งคุกคาม ภาวะรกเกาะต่ำ ครรภ์เป็นพิษ ความดันโลหิตสูง หรือความเป็นไปได้ว่าคลอดก่อนกำหนด เป็นต้น ซึ่งเอกสารรับรองนี้จะต้องยื่นให้กับทางสายการบินที่คุณแม่จองตั๋วเพื่อโดยสารด้วย
- การเลือกที่นั่งบนเครื่อง ควรเลือกเป็นนั่งแถวริมที่ติดกับทางเดิน หรือที่นั่งด้านแถวด้านหน้าที่ติดกับห้องน้ำ เพื่อจะได้ลุกสะดวก อย่าลืมว่าคนท้องเข้าห้องน้ำบ่อย และจำเป็นต้องลุกเดินเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ด้วย
- ในระหว่างเที่ยวบินให้จิบน้ำเปล่าบ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และหากปวดปัสสาวะก็ให้ลุกเข้าห้องน้ำ ไม่ควรอั้นฉี่เด็ดขาดค่ะ
- ในกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศ และใช้เวลาอยู่บนเครื่องมากกว่า 5 ชั่วโมงขึ้นไป แนะนำให้หาถุงเท้าที่ใช้สำหรับ เดินทางบนเครื่องบิน (flight socks หรือ elastic compression stockings) ถุงเท้าพิเศษนี้ช่วยลดการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำค่ะ สำหรับคนทั่วไปก็ใส่ได้เหมือนกันถ้าต้องนั่งเครื่องนานไปประเทศไกลๆ
นี่เป็นเพียงข้อมูลจากคำแนะนำเบื้องต้นของคนที่เคยมีประสบการณ์เดินทางตอนท้องแล้วโดยสารเครื่องบิน แต่หากคุณแม่ท้องคนไหนมีแพลนว่าจะต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน แนะนำว่าให้ปรึกษากับคุณหมอที่ดูแลครรภ์คุณแม่อีกครั้งนะคะ เพราะจะได้ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงและถูกต้องกับช่วงอายุครรภ์ของคุณแม่กันค่ะ อย่าลืมว่าความปลอดภัยขณะอยู่บนเครื่องนั้นสำคัญมากๆ จำเป็นที่จะต้องแจ้งประวัติการตั้งครรภ์ที่ชัดเจนให้กับทางสายการบินทราบด้วย เพื่อที่เมื่อเวลาอยู่บนเครื่องทางพนักงานต้อนรับจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ
บทความแนะนำ คลิก>> แอสไพริน ป้องกันครรภ์เป็นพิษ ได้จริงหรือไม่?
และเพื่อให้คุณแม่ท้องมีความเข้าใจในการเดินทางโดยสารเครื่องบินได้เข้าใจถึงกฎระเบียบ ข้อบังคับสำหรับผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์ ผู้เขียนได้รวมรวบข้อมูลของแต่ละสายการบิน โดยเฉพาะสายการบินในไทย ซึ่งก็จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาให้ตามนี้ค่ะ
อ่านต่อ ข้อควรรู้สำหรับคนท้องกับ 4 สายการบินในไทย หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
การเดินทางโดยสารเครื่องบินของผู้หญิงตั้งครรภ์
คนท้องขึ้นเครื่องบิน สามารถทำได้ตามที่แนะนำไปเบื้องต้นว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ตอนนี้เราจะไปดูกฎระเบียบข้อบังคับของแต่สายการการบินกันต่อค่ะ เริ่มที่…
สารการบินแอร์เอเชีย[1]
สตรีมีครรภ์: ผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์จำเป็นต้องแจ้งให้สายการบินทราบถึงอายุครรภ์เมื่อทำ การสำรองที่นั่งและ ณ เคาน์เตอร์เช็กอิน โดยผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขในการเดินทางดังต่อไปนี้:
- อายุครรภ์ไม่ถึง 27 สัปดาห์ (ตลอดช่วงอายุครรภ์): ผู้โดยสารจะต้องลงนามยินยอมในเอกสารจำกัดขอบเขตความรับผิดชอบของสายการบิน แอร์เอเชีย/แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เมื่อทำการเช็กอินเพื่อแสดงความยินยอมไม่ทำการเรียกร้องใดๆต่อสายการบินแอร์ เอเชีย/แอร์เอเชีย เอ็กซ์
- อายุครรภ์ในช่วงสัปดาห์ที่ 28 สัปดาห์ ถึง 34 สัปดาห์ (ตลอดช่วงอายุครรภ์):
- ผู้โดยสารต้องแสดงใบรับรองแพทย์ที่ระบุอายุครรภ์และรับรองว่าผู้โดยสาร สามารถเดินทางได้ ซึ่งใบรับรองแพทย์จะต้องมีอายุไม่เกินสามสิบวัน (30) นับจากวันออกเดินทางเข้าหรือออกประเทศตามกำหนดการเดินทาง
- โดยผู้โดยสารจะต้องลงนามยินยอมในเอกสารจำกัดขอบเขตความรับผิดชอบของสาย การบินแอร์เอเชีย/แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เมื่อทำการเช็คอินเพื่อแสดงความยินยอมไม่ทำการเรียกร้องใดๆต่อสายการบินแอร์ เอเชีย/แอร์เอเชีย เอ็กซ์
- อายุครรภ์ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 35 ขึ้นไป : สายการบินปฏิเสธการให้บริการ
บทความแนะนำ คลิก>> เช็คให้ดี อาการไหนไม่ควรมีก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์
สายการบินนกแอร์[2]
ว่าที่คุณแม่ที่วางแผนจะเดินทางในช่วงตั้งครรภ์ สามารถเดินทางโดยสารโดยเครื่องบินได้ตามปกติ แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์มาก จะต้องมีความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะการเดินทางโดยเครื่องบิน อาจจะส่งผลถึงระบบไหลเวียนโลหิตของคุณแม่ และลูกในครรภ์ได้
เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร สายการบินนกแอร์จึงมีข้อกำหนดในการเดินทางสำหรับสตรีมีครรภ์ โดยผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์จำเป็นต้องแจ้งให้สายการบินทราบถึงอายุครรภ์เมื่อทำการสำรองที่นั่ง โดยมีเงื่อนไขสำหรับการเดินทางดังต่อไปนี้
- อายุครรภ์ต่ำกว่า 28 สัปดาห์ : สายการบินอนุญาตให้เดินทางได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองแพทย์
- อายุครรภ์ตั้งแต่ 28 สัปดาห์ ถึง 36 สัปดาห์ : ผู้โดยสารต้องแสดงใบรับรองแพทย์ที่รับรองว่าสามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้
- อายุครรภ์มากกว่า 36 สัปดาห์ : สายการบินปฏิเสธการให้บริการ
อ่านต่อ ข้อควรรู้สำหรับคนท้องของ 4 สายการบินในไทย หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
สายการบินไทย[3]
ข้อควรทราบสำหรับสตรีมีครรภ์ ดังนี้…
- ตามเวลากำหนดคลอดของสูตินารีแพทย์ จะมีระยะเวลาทั้งหมด 40 สัปดาห์ สายการบินไทยได้ระบุบเงื่อนไขของผู้โดยสารทีมีครรภ์ดังนี้
- หากมีอายุครรภ์เกิน 28 สัปดาห์ ผู้โดยสารที่เป็นสตรีมีครรภ์ จะต้องมีใบรับรองแพทย์ โดยมีการระบุบอายุครรภ์และกำหนดการคลอด ใบรับรองแพทย์ต้องออกภายในไม่เกิน 7 วันก่อนการเดินทาง และจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ก่อนขึ้นเครื่อง
- เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร สายการบินไทยขอสงวนสิทธิ์ที่ในการปฎิเสธการขึ้นเครื่อง ในกรณีที่ผู้โดยสายไม่สามารถแสดงใบรับรองแพทย์ได้
- หากเที่ยวบินนั้นบินน้อยกว่า 4 ชั่วโมง ผู้โดยสารที่เป็นสตรีมีครรภ์ จะต้องมีอายุครรภ์ไม่เกิน 36 สัปดาห์ จึงจะสามารถเดินทางได้
- หากเที่ยวบินนั้นบินมากกว่า 4 ชั่วโมง ผู้โดยสารที่เป็นสตรีมีครรภ์ จะต้องมีอายุครรภ์ไม่เกิน 34 สัปดาห์ สามารถเดินทางได้
- หากอายุครรภ์เกิน 36 สัปดาห์ สตรีมีครรภ์ไม่สามารถเดินทางได้
สตรีมีครรภ์ที่ไม่อนุญาตให้เดินทาง
- สตรีที่ตั้งครรภ์เด็กแฝด
- สตรีที่ตั้งครรภ์มีประวัติเคยแท้งบุตร ฯลฯ จะต้องได้รับอนุญาตจากสูตินารีแพทย์ โดยกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์ม “Medical Clearance Form (MEDA) จากสูตินารีแพทย์ และได้รับอนุญาตจากการบินไทยให้เดินทางได้ ไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
- ภาวะโลหิตจาง
- มีความผิดปกติทางระบบส่วนต่างๆของร่างกายเรื้อรัง ซึ่งต้องมีการรักษาอยู่เป็นประจำ
- มีประวัติการแท้ง
- มดลูกต่ำกว่าปกติ
- มีประวัติการตั้งครรภ์ในตำแหน่งที่ผิดปกติ
- มีประวัติหรือปัจจุบันรกในครรภ์มีภาวะไม่ปกติ
- มีความเสี่ยงในการแท้งหรือ มีการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์ปัจจุบัน
- มีการปฏิสนธิของไข่เกิน 2 ตัว
- มีประวัติโลหิตเป็นพิษ, โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคเบาหวาน
ข้อแนะนำ
ผู้โดยสารที่มีครรภ์ ควรจะเลือกที่นั่งที่ติดกับทางเดิน ที่มีพื้นที่เพียงพอและสะดวกสบายและเหมาะสำหรับสตรีตั้งครรภ์
หมายเหตุ
ในบางประเทศ ได้แก่ สิงค์โปร์ หรือ มาเลเซีย มีข้อกำหนดที่เข้มงวดในการเดินทางของสตรีต่างชาติที่ตั้งครรภ์เข้าประเทศ ซึ่งสายการบินไทยจะต้องให้ข้อมูล และคำแนะนำต่างๆอย่างละเอียดก่อนการเดินทาง
สายการบินไทยสมายล์[4]
ผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์จำเป็นต้องแจ้งให้สายการบินทราบ ถึงอายุครรภ์เมื่อทำการสำรองที่นั่งรวมไปถึง ณ จุดยืนยันการลงทะเบียน โดยสายการบินมีเงื่อนไขสำหรับการเดินทางดังต่อไปนี้
อายุครรภ์ต่ำกว่า 28 สัปดาห์ : สายการบินอนุญาตให้เดินทางได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองแพทย์
อายุครรภ์ตั้งแต่ 28 สัปดาห์ 1 วัน ถึง 36 สัปดาห์ : ต้องแสดงใบรับรองแพทย์โดยยืนยันจำนวน สัปดาห์ที่ตั้งครรภ์และระบุว่าสามารถเดินทางโดยเครื่อง บินได้และเอกสารรับรองที่เกี่ยวข้องจะต้องกำกับวันที่ไม่เกินเจ็ด (7) วัน จากกำหนดการเดินทางและผู้โดยสารจะต้องลงนามยินยอม ในเอกสารจำกัดขอบเขตความรับผิดชอบของสายการบิน
อายุครรภ์ตั้งแต่ 36 สัปดาห์ 1 วัน ขึ้นไป : สายการบินขอสงวนสิทธิในปฏิเสธการให้บริการ
สำหรับข้อปฏิบัติของแต่ละสายการบินอาจจะมีความต่างของอายุครรภ์ที่อนุญาตให้โดยสารเครื่องบินไปบ้างเล็กน้อย แนะนำว่าให้สอบถามกับทางสายการบินอีกครั้งนะคะ ทั้งนี้กฎข้อบังคับต่างๆ ที่มีให้กับผู้หญิงตั้งครรภ์จุดประสงค์ของแต่ละสายการบินก็เพื่อความปลอดภัยต่อตัวแม่ท้อง และทารกในครรภ์ค่ะ อย่างไรก็ดีอย่าลืมปฏิบัติตามกันด้วยนะคะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
เทคนิค 11 ข้อ พาเบบี๋ขึ้นเครื่อง
แม่เอ๋ พรทิพย์ พาลูกๆ เที่ยวหัวหิน เตรียมตัวมาดีไม่มีร้องงอแง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
www.airasia.com
www.nokair.com
www.thaiairways.com
www.thaismileair.com