แม่ท้องต้องรู้! รกค้าง หลังคลอด อันตรายอาจตายได้ - Amarin Baby & Kids
รกค้าง

แม่ท้องต้องรู้! รกค้าง หลังคลอด อันตรายอาจตายได้

account_circle
event
รกค้าง
รกค้าง

รกค้าง ภาวะเสี่ยงเฉียบพลันสำหรับคุณแม่หลังคลอด แม้จะคลอดทารกออกมาแล้ว แต่หากไม่คลอดรก ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เรามาทราบถึงความเสี่ยง อาการ และความผิดปกติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น และแนวทางที่จะช่วยให้คุณแม่ปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง หากต้องตกอยู่ใน ภาวะรกค้าง

“รก” สายใยแม่และลูก

รกเป็นอวัยวะพิเศษของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ ที่ถูกสร้างมาพร้อม ๆ กับทารก โดยหลังจากคุณแม่ตั้งครรภ์ร่างกายจะเริ่มสร้างเซลล์ 2 ส่วนไปพร้อมกัน ส่วนที่  1 คือ เซลล์ที่ประกอบกันเป็นทารก และอีกส่วน คือ  รก ซึ่งเกาะอยู่ด้านในผนังมดลูก โดยรกประกอบด้วย สายสะดือ เยื่อหุ้มรก และเนื้อรก หน้าที่สำคัญของรก ได้แก่ การส่งผ่านเลือด ลำเลียงอาหารและอากาศ ขับถ่ายของเสีย และสร้างฮอร์โมนเพื่อความเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของทารก และระบบการตั้งครรภ์ เช่น สารภูมิคุ้มกันและต้านทานโรคต่าง ๆ ฮอร์โมนกระตุ้นการผลิตน้ำนม ฮอร์โมนที่ช่วยลดความเจ็บปวดในการคลอดและลดความเสี่ยงในการแท้งอีกด้วย

รู้หรือไม่? คลอดลูกแล้ว ต้องคลอดรก

ขั้นตอนในการคลอดลูกตามธรรมชาติแล้ว เมื่อครรภ์พร้อมคลอด ปากมดลูกเปิด 10 เซนติเมตร ทารกจะค่อย ๆ เคลื่อนออกมาทางช่องคลอด ตามแรงเบ่งของคุณแม่ หลังจากทารกคลอดออกมาอย่างสมบูรณ์ประมาณ 5-10 นาที จะมีการคลอดรกก็คือ มีรกและเยื่อหุ้มทารกหลุดตามออกมาทางช่องคลอด แต่หากคลอดทารกเกิน 30 นาที แต่รกยังไม่คลอดออกมา นั่นเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึง ภาวะรกค้าง ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการทำคลอดรกต่อไป

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

แค่ รกค้าง ถึงตาย จริงหรือ??

ภาวะรกค้างสามารถเกิดขึ้นได้ 2 ลักษณะ คือ รกค้างทั้งรก ที่อาจจะเกิดจากความผิดปกติของมดลูก เช่น รกลอกตัวไม่สมบูรณ์ ความผิดปกติของกล้ามเนื้อปากมดลูก ทำให้รกคลอดออกมาเองไม่ได้ หรือความผิดปกติจากการหดรัดตัวของมดลูกเอง ซึ่งหากรกไม่คลอดออกมา รกนั้นจะไปขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูกหลังคลอด ทำให้เลือดไหลไม่หยุด เกิดภาวะตกเลือดจนเสียชีวิตได้ ในการรักษาคุณหมอจะทำการคลอดรกด้วยการฉีดฮอร์โมน เพื่อเร่งรกส่วนที่ค้างอยู่ให้หลุดลอกออกมา แต่หากไม่สำเร็จอาจจะต้องทำการล้วงรกเพื่อให้รกหลุดออกมาอย่างสมบูรณ์

ส่วน รกค้าง เพียงบางส่วน จากเศษรกที่ออกมาไม่หมดแล้วตกค้างอยู่ในโพรงมดลูก ทำให้เกิดการติดเชื้อ และเข้าสู่ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบตามมา คุณหมอจะทำการอัลตร้าซาวน์เพื่อหาเศษรกที่ติดอยู่ภายใน และทำการขูดมดลูก เพื่อกำจัดเศษรก และรักษาการติดเชื้อต่อไป จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะรกค้างทั้งรก หรือเศษรกค้างบางส่วนก็เป็นอันตรายถึงชีวิตได้จริง ๆ

อ่านต่อ คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด แบบไหนปลอดภัยจากรกค้าง คลิกหน้า 2

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up