การตรวจโรค
1.การตรวจด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวน์ ตรวจหาความผิดปกติตั้งแต่ในครรภ์ และในเด็กทารก (ซึ่งกะโหลกยังบางและยังเปิด) ปัจจุบันสามารถตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวน์ 3 มิติ หาความผิดปกติในระบบประสาทที่พบร่วมกับภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองตั้งแต่อายุครรภ์ 8 สัปดาห์ และผ่าตัดรักษาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เช่น อัลตราซาวน์นำในการใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองทารกในครรภ์
2.การตรวจด้วยการส่องไฟฉาย ไฟฉายส่องหัวในเด็กเล็ก (กะโหลกบาง) ที่มีภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองแสงจะส่องผ่านกะโหลกศีรษะและเห็นแสงสว่างภายในกะโหลกเนื่องจากมีน้ำมาก
3.การเจาะหลัง เพื่อการวินิจฉัยโรคติดเชื้อและเลือดออกใต้เยื่อบุสมอง นำน้ำหล่อสมองและไขสันหลังไปตรวจเพื่อการรักษา เมื่อยังไม่สามารถใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองได้เพราะการติดเชื้อโปรตีนสูงเช่นการติดเชื้อวัณโรค มีเม็ดเลือดแดงมาก มีโอกาสเกิดการอุดตันภายในสายระบายน้ำในโพรงสมอง
4.การเจาะถุงน้ำคร่ำ นำน้ำคร่ำมาตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์
การรักษา
1.การรักษาด้วยยาขับปัสสาวะ ช่วยลดการสร้างน้ำหล่อสมองและไขสันหลัง ประมาณ 25-50%
2.การรักษาด้วยการผ่าตัดใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองออกนอกร่างกาย หรือสู่ช่องในร่างกาย โดยผ่าตัดใส่สายระบายจากโพรงสมองลงช่องท้อง ช่องหัวใจ ช่องปอด ช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง หรือโพรงสมองทารกในครรภ์ลงถุงน้ำคร่ำ
เครดิต: สนุ๊ก สะพานบุญ, ข่าวสด, ไทยรัฐ, พอ.นพ.ศุภกิจ สงวนดีกุล