ภาวะ มดลูกแตก เป็นเรื่องฉุกเฉินที่อันตรายต่อชีวิตของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ ถึงแม้ว่าจะพบน้อยแต่ก็รุนแรงมาก เพราะเป็นฝันร้ายของทุกคน ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตทั้งแม่ และลูกไปพร้อมๆ กัน ภาวะนี้เกิดขึ้น 1 ใน 2,000 คน ของคุณแม่ตั้งครรภ์ สร้างความสะเทือนใจอย่างมาก
มดลูกแตก คืออะไร?
มดลูกแตก คือภาวะที่ผนังมดลูกแตก หรือปริออก ทำให้ตกเลือดเข้าไปในช่องท้องเป็นจำนวนมาก ลูกน้อยในครรภ์และน้ำคร่ำ อาจหลุดออกจากมดลูกเข้าไปในช่องท้อง ลูกน้อยจะขาดเลือด และเสียชีวิต ในบางรายคุณแม่ก็เสียชีวิตด้วย ส่วนมากมักเกิดขึ้นในระยะเจ็บครรภ์ หรือบางรายอาจเกิดได้ในทุกระยะขณะตั้งครรภ์
ก่อนที่มดลูกจะแตก จะมีอาการปวดท้องมากจากการหดตัวแรงและนานมากของมดลูก คุณแม่บางคนอาจไม่มีระยะการคลายตัวของมดลูกเลย ระยะที่มดลูกแข็งตัวมากก่อนแตก อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่ 10 นาที หรือไม่ถึง 10 นาที
เมื่อมดลูกแตกแล้วจะมีการเสียเลือด และเลือดออกในช่องท้อง ถ้าเสียเลือดอย่างรวดเร็ว จะมีปัญหากระทบต่อการไหลเวียนเลือดในร่างกายอย่างเฉียบพลัน ตามด้วยภาวะช็อก ได้แก่ ชีพจรเต้นเร็ว ความดันต่ำ บางส่วนของร่างกายลูกน้อยมักจะไหลออกมาจากรอยแยกของผนังมดลูก ออกจากโพรงมดลูกเข้าไปในช่องท้อง
ทำไมมดลูกถึงแตก?
สาเหตุของภาวะมดลูกแตกอาจเกิดจากสาเหตุหลายอย่าง ดังนี้
1.มีจุดอ่อนบริเวณผนังมดลูก ซึ่งอาจเกิดจากการผ่าตัดผนังมดลูกมาก่อน เคยขูดมดลูก หรือทำแท้ง
2.ผนังมดลูกบางผิดปกติ หรือรกฝังตัวลึกเกินไป แล้วทะลุออกมาด้านนอกมดลูก
3.เคยได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ กระทบกระเทือนมดลูก บาดเจ็บจากการกระแทก
4.การเจ็บครรภ์นานเกินไปทำให้มดลูกแตก เนื่องจากมดลูกหดรัดตัวแรง แต่ปากมดลูกไม่ขยาย
5.ตัวเด็กใหญ่เกินไป เมื่อเทียบกับความกว้างของอุ้งเชิงกราน จนไม่สามารถคลอดออกมาได้
6.เคยผ่าคลอด โดยเฉพาะแผลผ่าตามแนวยาว มีโอกาสเสี่ยงสูงกว่า
7.ไม่ทราบระยะเวลาแน่นอนของการตั้งครรภ์ ทำให้คุณหมอไม่สามารถคำนวณอายุครรภ์ที่แน่นอนได้
อ่านต่อ “การป้องกันไม่ให้มดลูกแตก และคำแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
การป้องกันไม่ให้มดลูกแตก
การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างใกล้ชิดจะช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของความผิดปกติของการแข็งตัวของมดลูกได้เร็ว เพราะบางครั้งฉุกเฉินในเวลาไม่กี่นาที คุณแม่อาจช็อกหมดสติ และเสียชีวิตได้ในทันที
1.ถ้าต้องผ่าตัดมดลูก โดยการผ่าตัดเนื้องอก หรือผ่าตัดคลอด ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสอบถามก่อนว่าถ้าตั้งครรภ์จะเสี่ยงอันตรายหรือไม่ หรือต้องผ่าตัดคลอดอย่างเดียว
2.หลีกเลี่ยงการทำแท้ง โดยเฉพาะการทำแท้งเถื่อน
3.ถ้าคุณแม่เจ็บท้อง ให้รีบไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจติดตามอาการได้ทันท่วงที
คำแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
1.คุณแม่ควรเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อต้องการตั้งครรภ์ ถ้าไม่พร้อมให้คุมกำเนิดไว้ก่อนเพราะการปล่อยให้ตั้งครรภ์ แล้วทำแท้ง จะเป็นอันตรายมากกว่า
2.เมื่อตั้งครรภ์ ควรนับประจำเดือนครั้งสุดท้ายให้ได้ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการคำนวณอายุครรภ์ ว่าตั้งครรภ์มาแล้วกี่เดือน กี่สัปดาห์ จะได้ทราบกำหนดคลอดที่ชัดเจน และง่ายต่อการวินิจฉัยของคุณหมอ
3.ควรไปฝากครรภ์ตั้งแต่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์ จะได้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอ และได้รับยาบำรุงที่จำเป็นในขณะตั้งครรภ์ พร้อมทั้งไปตรวจติดตามผลตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
4.เมื่อมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
เครดิต: หมอชาวบ้าน, Health Today, haijai.com, คุ้มสมุนไพร, กระปุก
อ่านต่อบทความน่าสนใจอื่นๆ
เคล็ดลับการนั่งท่าผีเสื้อแบบมณีเวช ลดการเจ็บปวดและช่วย เร่งปากมดลูกเปิดเร็ว
มดลูกบีบตัวบ่อย ฉันกำลังจะคลอดหรือเปล่า?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่