ฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาตั้งครรภ์ ทำให้รูปร่าง ผิวพรรณ ของว่าที่คุณแม่ต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม บางคนอาจดูสวยเปล่งปลั่งขึ้น หรือบางคนอาจดูโทรมขึ้นกว่าเดิมเสียอีก แม้กระทั่งเส้นผมสวย ๆ ของคุณแม่บนศีรษะที่อาจทำให้จากผมที่เคยดำขลับสวยงาม กลายเป็นแห้ง ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก จนอยากนึกจะไปยืดตรง ๆ เพื่อให้หวีง่าย ดูแลรักษาง่าย แต่ก็ไม่รู้ว่าสารเคมีในน้ำยายืดผมที่ใช้จะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือเปล่า คนท้องยืดผมได้ไหม มาไขข้องข้องใจนี้กันค่ะ
คนท้องยืดผมได้ไหม ทำแล้วอันตรายมั้ย?
การยืดผมจะช่วยให้ผมเป็นเส้นตรง จัดทรงง่าย หวีง่าย เป่าหรือไดร์หลังสระก็สบาย ๆ ยิ่งโดยเฉพาะสำหรับคุณแม่ที่มีผมหยิก ชี้ฟู ที่ฮอร์โมนในตอนตั้งครรภ์มีผลต่ออารมณ์ได้ง่าย หงุดหงิดบ่อย จึงไม่อยากเสียเวลาทำอะไรกับเส้นผมมาก การเข้าร้านเสริมสวยเพื่อยืดผมอาจจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณแม่ได้ แต่การเสริมสวยของเส้นผมระหว่างตั้งครรภ์นั้น ไม่ว่าจะดัด ยืด ย้อมผม ทำสี การเสริมความงามเหล่านี้ล้วนต้องใช้สารเคมีในการทำ สำหรับน้ำยายืดผม มีสารที่ใช้อยู่ 3 ชนิด คือ
- โซเดียมไฮดรอกไซด์ (Sodium Hydroxide) เป็นรีแลกเซอร์ที่เป็นอันตราย เนื่องจากมีความเป็นด่างแรงที่สุด มี pH 10-14 มีฤทธิ์กัด มักใช้กับเส้นผมที่หยิกมาก ๆ น้ำยาชนิดนี้มีความรุนแรงสูง หากใช้ไม่ระมัดระวังอาจก่อให้เกิดอาการเจ็บแสบหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะอักเสบ หลุดลอกเป็นแผลได้
- Calcium hydroxide Guanidine carbonate และ Ammonium Thioglycolate มี pH 9-9.5 มีความเป็นด่างลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังจัดว่ารุนแรงต่อเส้นผมและหนังศีรษะไม่แตกต่างกับชนิดแรกมากนัก ซึ่งหากใช้ในปริมาณที่มีความเข้นข้นมากเกินหรือใช้เป็นเวลานาน ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองคันตามหนังศีรษะและใบหน้า หรือเกิดเป็นผื่นคันบนผิวหนัง
สารเคมีจำพวกน้ำยายืดผม ดัดผมเปลี่ยนสีผม กัดสีผม เหล่านี้มีส่วนทำลายหนังศีรษะให้เกิดการอักเสบ เมื่อหนังศีรษะถูกสารเคมีกัดก็จะเกิดอาการเจ็บปวดต่าง ๆ ขึ้นมาอย่างรู้สึกได้ โดยอาการแพ้ของคนที่แพ้สาร p-Phenylenediamine จากน้ำยาเคมีเหล่านี้จะเกิดอาการบวม คันตามหนังศีรษะและใบหน้า หรือเกิดผื่นคันหรือลมพิษทั่วร่างกาย อาการเหล่านี้อาจปรากฏขึ้นหลังจากย้อมสีผมผ่านไปหลายชั่วโมงหรือหลายวันแล้วแต่บุคคล
ส่วนในกรณีที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงหรืออาการแพ้ชนิดเฉียบพลัน จะเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่นาทีหลังจากยืดผม ดัดผม เปลี่ยนสีผม กัดสีผม คือ
- สังเกตว่าคันผิวหนังอย่างรุนแรง มีผื่นคันสีแดงสดขึ้นมาตามผิวหนัง
- เกิดอาการบวมเป่งในช่วงบริเวณ ดวงตา ริมฝีปาก มือ เท้า ซึ่งเปลือกตาอาจบวมมากจนตาปิดได้
- ปาก ลิ้น ลำคอ เกิดความบวมจนก่อให้เกิดการหายใจหรือกลืนอาหารลำบาก
- ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อย่างรุนแรง
- เวลาหายใจมีเสียงคล้ายคนเป่านกหวีด
- หมดสติ
เมื่อมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ทันที นอกจากอาการแพ้แล้วกลิ่นของน้ำยาที่แม่สูดดมเข้าไปอาจจะส่งผลให้รู้สึกวิงเวียนและปวดศีรษะได้
เมื่อทำการยืดผม น้ำยายืดผมจะแทรกซึมเข้าไปในชั้นกลาง ของเส้นผมและทำให้เกิดปฏิกิริยาทำให้เส้นผมอ่อนตัวลงสามารถจัดรูปแบบใหม่ได้ตามต้องการ ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้เส้นผมยืดตรงอย่างถาวร อ่อนนุ่ม เป็นประกาย และไม่โค้งงอ หยิก ฟู แต่การยืดผมจะใช้เวลาทำนานสำหรับผมสั้นประมาณ 3 ชั่วโมง และผมยาวจะใช้เวลานาน 4-5 ชั่วโมง หลังทำการล้างน้ำยาออก กระบวนการต่อไปคือการปรับสภาวะผมให้มี pH เป็นปกติ และได้รูปแบบใหม่ที่เส้นผมถูกทำให้ตรงไว้ แต่ปฏิกิริยาเคมีที่ทำการยืดผมจะใช้เวลาต่อเนื่องไปนานประมาณ 48 ชั่วโมง ดังนั้นในช่วงเวลานี้ทำให้คุณแม่ไม่สามารถสระผมได้ไปเกือบสามวัน
ถึงแม้ว่าทางแพทย์ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดหรือยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าการการย้อม ยืด โกรก ดัด ทำสีผม หรือการทำเคมีกับเส้นผมในคนท้องนั้นจะส่งผลเสียโดยตรงต่อทารกในครรภ์ได้อย่างแน่นอน แต่โอกาสที่สารเคมีที่ใช้กับเส้นผมจะถูกดูดซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือดได้นั้นมีน้อยมาก วิทยาลัยสูติ-นรีแพทย์แห่งอเมริกา (American College of Obstetrics and Gynecologists) จึงแนะนำว่า การย้อมผมระหว่างตั้งครรภ์ “น่าจะ” ปลอดภัย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องระมัดระวัง ดังนั้นจึงมีบุคลากรทางการแพทย์จำนวนไม่น้อยแนะนำแม่ตั้งครรภ์ไม่ให้ย้อมผมแบบถาวรระหว่างการตั้งครรภ์ในไตรมาสแรก รวมถึงการทำด้วยสารเคมีในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย เพราะการตั้งครรภ์ช่วงแรกถือเป็นช่วงที่สำคัญของทารก เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการพัฒนา สร้างอวัยวะต่าง ๆ ที่สำคัญขึ้นมา ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยในครรภ์รวมถึงตัวคุณแม่ ควรหลีกเลี่ยงการทำผมด้วยสารเคมีในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ และควรรอทำหลังจากที่มีอายุครรภ์เกิน 4 เดือนไปหรือเข้าสู่ไตรมาสที่สอง ปัญหาจากปัจจัยภายนอกทั่วไปก็จะไม่ส่งผลต่อการสร้างอวัยวะของเด็ก ช่วยลดความเสี่ยงในอันตรายที่จะเกิดขึ้น
อ่านต่อ ข้อแนะนำสำหรับการยืด ย้อม ดัด โกรก ทำสีผม ระหว่างตั้งครรภ์ คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ข้อแนะนำสำหรับการยืด ย้อม ดัด โกรก ทำสีผม ระหว่างตั้งครรภ์
- หากคุณแม่ท้องคิดจะย้อมผม โกรกผม ดัดผม ยืดผม ควรพิจารณาหลีกเลี่ยงไม่ทำในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ (12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์)
- ควรเลือกใช้บริการร้านทำผมที่มีการระบายอากาศที่ดี ถ่ายเทสะดวก เนื่องจากยาย้อมผมบางชนิดมีส่วนผสมของแอมโมเนีย ซึ่งจะมีกลิ่นสารเคมีค่อนข้างรุนแรง เพื่อป้องกันการสูดดมกลิ่นน้ำยาเคมีต่าง ๆ เข้าไปโดยตรง
- เมื่อคุณแม่ท้องเข้าร้านทำผมควรแจ้งกับช่างว่ากำลังตั้งครรภ์ก่อนทุกครั้ง การไปใช้บริการยืดผมตรง ควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ช่างคอยดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษในขั้นตอนการทำ และเลือกน้ำยาที่เหมาะกับสภาพเส้นผม
- ก่อนทำการยืดเส้นผม ควรสำรวจสุขภาพหนังศีรษะตนเองก่อน เช็กว่าหนังศีรษะต้องไม่มีแผล ไม่มีอาการอักเสบ เพราะความรุนแรงของน้ำยาจะทำให้แผลอักเสบขยายได้แม้ว่าหนังศีรษะจะไม่มีอาการเช่นกัน
- ระวังผลิตภัณฑ์บางชนิดซึ่งจะเขียนบนฉลากว่าเป็นส่วมผสมจากธรรมชาติ ปราศจากโซเดียม ไฮดรอกไซด์แต่ความจริงส่วนประกอบสำคัญเหล่านี้ก็ยังเป็นสารเคมีรุนแรงของ แคลเซี่ยม ไฮดรอกไซด์ ผสมกับกัวนิดีน คาร์บอเนท ซึ่งผลิตสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เพียงแค่ใส่สารเคมีดังกล่าวในความเข้มข้นต่ำลงมาเท่านั้น
อย่างไรก็ดีการยืดผม ทำสีผมตอนท้อง ผลลัพธ์อาจไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เช่น การยืดผมต้องแลกด้วยการทำร้ายเส้นผม ทำให้เส้นผมแห้งกรอบ แตกปลายและขาดร่วงได้ง่าย กว่าจะได้ผมตรงสลวย หลังดัดผม แทนที่จะเป็นลอนสลวยสวยงามแต่อาจกลับกลายเป็นผมหยิกหยักฟู แห้ง หรือการทำสีผม ที่อาจไม่ได้สีที่สวยออกมาตรงกับที่ต้องการ แถมยังต้องมาดูแลเส้นผมหลังทำอีก
สำหรับแม่ท้องที่มีผมหยิก หยักศก ชี้ฟู สามารถแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเข้าร้านทำผมเพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีต่าง ๆ ในช่วงตั้งครรภ์ด้วยการใช้ครีมนวดผมภายหลังจากการสระผมทุกครั้ง เส้นผมก็จะไม่ฟูและไม่พันกัน ก็จะช่วยให้หวีและสางง่ายขึ้น หรือแค่ใช้เครื่องหนีบผม ไดร์ผมให้สวยเข้าทรงถึงแม้ว่าผมจะไม่ตรงอย่างถาวร ก็ช่วยทำให้คุณแม่เปลี่ยนทรงผมได้
อย่างไรก็ตามการใช้ไดร์เป่าผมหรือเครื่องหนีบผม ไม่ความใช้ความร้อนที่สูง เพราะการได้รับความร้อนนานๆ อาจทำให้แม่ตั้งครรภ์รู้สึกเวียนหัว หน้ามืด เป็นลมได้ค่ะ ด้วยวิธีง่าย ๆ ก็สร้างความมีเสน่ห์กับเส้นผมธรรมชาติของตนเองโดยไม่ต้องเข้าร้านทำผม แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องทำหรืออดใจไม่ไหวอยากทำผมจริง ๆ คุณแม่สามารถปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ เพื่อให้ช่วยพิจารณาหรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากคุณหมอในการทำผมว่าจะมีอันตรายหรือไม่ เพื่อลดความกังวลใจในเรื่องนี้ได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.oldweb.pharm.su.ac.th, www.bloggang.com, www.lesjeuxdecoiffure.com, www.kapook.com
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
6 วิธีลดอาการ คนท้องปวดหลัง แบบไม่ต้องกินยา
คนท้องนวดหลังได้ไหม? นวดเท้าได้ไหม? เมื่อปวดเมื่อยทำอย่างไร?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่