ฟังเพลงตอนท้อง คุณแม่ๆต้องเคยลองทำแน่ๆใช่ไหมคะ เพราะความเชื่อที่ว่าจะทำให้ลูกอารมณ์ดี ซึ่งการฟังเพลงของคุณแม่ๆแต่ละคนก็แตกต่างกันไป โดยเฉพาะการเลือกฟังเพลงโมสาร์ท แล้วการฟังเพลงสาร์ทนั้น ช่วยให้ลูกฉลาดได้จริงหรือไม่? วันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำตอบค่ะ
ฟังเพลงตอนท้อง
การฟังเพลงสำหรับคุณแม่ๆที่กำลังตั้งครรภ์ เป็นที่นิยมมาค่อนข้างนานแล้วค่ะ เพราะความเชื่อที่ว่าฟังเพลงตอนท้อง นอกจากช่วยให้คุณแม่ๆได้ผ่อนคลายแล้ว ก็ยังมีความเชื่อว่า จะส่งผลให้ลูกน้อยในครรภ์เป็นเด็กที่อารมณ์ดีไปด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าระบบประสาทการรับฟังของทารกในครรภ์จะเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่อายุครรภ์ 22 สัปดาห์เป็นต้นไปค่ะ เสียงทุกอย่างที่คุณแม่ได้ยินจะถูกนำไปใช้เป็นเสียงกระตุ้นในการสร้างใยประสาทเกี่ยวกับการได้ยินของลูกน้อยในครรภ์
ดังนั้นเสียงเพลง หากคุณแม่ ฟังเพลงตอนท้อง แม้ลูกน้อยในครรภ์จะยังไม่สามารถแยกเสียงเพลงได้มากนัก แต่ก็ช่วยเรื่องการกระตุ้นประสามการได้ยินของลูกได้ค่ะ ซึ่งคุณแม่อาจทำได้โดยการเปิดเพลงเบาๆ ไม่ต้องให้ใกล้กับครรภ์มากนักค่ะ
คุณแม่ๆก็คงมีวิธีการเลือกเพลงให้ลูกน้อยในครรภ์ฟังที่แตกต่างกันไป และส่วนใหญ่คิดว่าคุณแม่มักจะเลือกเพลงบรรเลง เพลงโมสาร์ทมาฟังกันมาก แต่ก็มีคำถามว่า แล้วคนท้องฟังเพลงโมสาร์ท จะช่วยทำให้ลูกในครรภ์ฉลาดจริงหรือ? มาดูคำตอบกันค่ะ
ฟังเพลงโมสาร์ท ตอนท้อง ช่วยให้ลูกฉลาดจริงหรือ?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
แม่ท้องฟังเพลงโมสาร์ท ช่วยให้ลูกฉลาดจริงหรือ?
เคยมีคนตั้งคำถามว่า คุณแม่ตั้งท้องฟังเพลงโมสาร์ท จะช่วยให้ลูกในครรภ์ฉลาด มีไอคิว และอีคิว ที่ดีจริงหรือไม่? ซึ่งต้องบอกเลยว่าความคิดนี้เกิดจากเรื่องการทำวิจัยเกี่ยวกับ Mozart effect ของนักวิจัยต่างประเทศ เมื่อปี 1993 โดยได้ทำการวิจัยโดยให้นักศึกษามหาวิทยาลัยฟังเพลงโมสาร์ทโซนาต้า เป็นเวลา 10 นาที แล้วไปทำแบบทดสอบ ปรากฏว่า นักศึกษาทำแบบทดสอบได้คะแนนดีมาก
หลังจากนั้นก็มีการทำการวิจัยซ้ำ โดยใช้วิธีการเดิม ใช้แบบทดสอบเดิม เพียงแต่เปลี่ยนให้ไปทดสอบในส่วนที่เป็นการวิเคราะห์แทนซึ่งก็ได้ผลดีเช่นเดียวกัน ตั้งแต่นั้นมา เพราะผลการวิจัยทำให้เกิดกระแสเพลงโมสาร์ทโซนาต้า โด่งดังไปทั่ว จึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
จากนั้นได้มีการนำผลการวิจัยไปเชื่อมโยงกับความเป็นไปได้ของการพัฒนาทางสมองของเด็ก โดยเชื่อว่า ถ้าได้ฟังเพลงโมสาร์ทตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ของแม่ ลูกที่เกิดมาจะมีพัฒนาการทางสมองดีกว่าเด็กคนอื่นๆ แต่ในปีต่อๆมา นักวิจัยได้มีการทำวิจัยซ้ำที่เกี่ยวกับ Mozart effect กับการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งกลับได้ผลในทางตรงกันข้าม หลายๆงานวิจัยแสดงความล้มเหลวของงานวิจัยดั้งเดิม ทำเห็นว่าผลที่ได้ไม่สามารถใช้ได้จริงๆ เด็กที่ฟังโมสาร์ทไม่ได้มีพัฒนาการทางสมองที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป
หลังจากงานวิจัยพบว่า การฟังเพลงโมสาร์ทไม่ได้มีผลกับทารกในครรภ์ ก็อาจเป็นไปได้ว่า Mozart effect ที่เคยได้ผลครั้งแรกนั้น จริงๆแล้วอาจจะเป็นแค่ความบังเอิญ แล้วงานวิจัยดั้งเดิมนั้นไม่ได้มีความต้องการจะเชื่อมโยงผลกับการพัฒนาสมรรถภาพทางสมองของเด็กตั้งแต่แรกก็เป็นไปได้
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า คุณแม่ที่ฟังเพลงตอนท้อง โดยเฉพาะเพลงโมสาร์ทนั้น อาจไม่มีการรับรองที่แน่ชัดว่าจะสามารถทำให้ลูกฉลาดได้แน่นอน แต่อย่างน้อยการ ฟังเพลงตอนท้อง ก็ช่วยให้คุณแม่ท้องผ่อนคลาย ไม่เครียดได้ แต่เมื่อคลอดลูกออกมาแล้ว คุณแม่ๆก็สามารถเลี้ยงลูกด้วยดนตรีได้ค่ะ เพราะการเลี้ยงลูกด้วยดนตรีมีข้อดีต่อพัฒนาการของลูกในหลายๆด้านเลยทีเดียวค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก PPTV
ข้อดีของการเลี้ยงลูกด้วยดนตรี
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
เลี้ยงลูกด้วยดนตรี ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้ลูก
ไม่ใช่เพียงแค่การ ฟังเพลงตอนท้อง จะช่วยให้ลูกน้อยเป็นเด็กอารมณ์ดีแล้ว แต่เมื่อลูกเติบโตขึ้นมา คุณแม่ๆก็ยังสามารถเลี้ยงลูก โดยการให้ลูกได้ซึบซับกับกิจกรรมที่เกี่ยวกับดนตรีได้ เพราะคุณแม่รู้หรือไม่ว่า การเลี้ยงลูกด้วยดนตรี มีข้อดีที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของลูกหลายด้านมากๆค่ะ
- เสริมสร้างความสามารถในการรับรู้และความสามารถทางภาษา
การใช้เวลากับการเล่นดนตรีสามารถช่วยเสริมความสามารถในการรับรู้ด้านภาษา และส่งผลไปถึงทักษะการอ่านที่ดีด้วย เนื่องจากเสียงดนตรีและคำพูดนั้นมีระบบการทำงานร่วมกัน การเล่นดนตรีบ่อยๆ จึงช่วยฝึกการถอดเสียงและรูปแบบคำต่างๆ ให้ง่ายขึ้น ยิ่งเด็กใช้เวลากับดนตรีนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้สมองส่วนภาษาศาสตร์พัฒนาไปด้วย โดยจะสามารถจำคำศัพท์และมีการรับรู้ด้านการอ่านที่ดี เพราะฉะนั้นคุณแม่ที่อยากให้ลูกมีพัฒนาการด้านการรับรู้สิ่งต่างๆ หรือทักษะทางภาษาและการสื่อสารที่รวดเร็ว ลองมองการเล่นดนตรีไว้เป็นทางเลือกได้เลยค่ะ
- เสริมสร้างทักษะทางคณิตศาสตร์
คุณแม่อาจจะสงสัยว่า จะช่วยเสริมสร้างทักษะทางคณิตศาสตร์ได้อย่างไร แต่ทักษะการคิดคำนวณสร้างได้ด้วยการเล่นดนตรีจริงๆค่ะ ซึ่งมีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกา ได้ทดลองแบ่งเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ออกเป็นสองกลุ่ม พบว่าเด็กนักเรียนกลุ่มที่มีประสบการณ์เล่นดนตรี 2 ปีขึ้นไป สามารถทำคะแนนทดสอบคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานได้สูงกว่าเด็กนักเรียนกลุ่มที่ไม่เคยเล่นดนตรีมาก่อน นอกจากนี้ ในกลุ่มที่เคยเล่นดนตรีมาก่อน เด็กที่เล่นคีย์บอร์ดมีคะแนนการทดสอบสูงกว่าเด็กที่เล่นเปียโนและร้องเพลงมาก ดังนั้นหากลูกสนใจเล่นคีย์บอร์ดก็น่าสนับสนุนทีเดียว เพราะเป็นไปได้ว่าเขาจะมีทักษะการคิดคำนวณที่ยอดเยี่ยมตามมาด้วยค่ะ
- เสริมสร้างพัฒนาการด้านสติปัญญา
การเล่นดนตรีเป็นอีกทางที่สามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาได้ค่ะ ซึ่งมหาวิทยาลัยโทรอนโตแห่งแคนาดา ได้ทำการทดลองแบ่งเด็กออกเป็น 4 กลุ่ม โดย 2 กลุ่มแรกเรียนคีย์บอร์ดและร้องเพลง 5 วัน/สัปดาห์ เป็นเวลา 7 เดือน ส่วน 2 กลุ่มหลังทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่การเล่นดนตรี ปรากฏว่าทั้งกลุ่มที่เรียนดนตรีและไม่เรียนดนตรีมีไอคิวสูงขึ้นตามพัฒนาการ แต่ข้อแตกต่างคือ เด็กกลุ่มที่เรียนดนตรีมีไอคิวสูงขึ้นถึง 7 จุด ขณะที่อีกกลุ่มที่ไม่ได้เรียนดนตรีนั้นมีไอคิวเพิ่มขึ้น 4.3 จุด
- เสริมสร้างด้านสุขภาพและร่างกาย
การเล่นดนตรียังสามารถช่วยเพิ่มทักษะการประสานงานของส่วนต่างๆ ในร่างกายได้ดีด้วยค่ะ การทดสอบทางวิทยาศาสตร์พบว่า ในวัยก่อนเข้าเรียน การเล่นดนตรีมีประโยชน์มากไม่ต่างกับการทำกิจกรรมพละด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัย ที่พบว่าประโยชน์อันน่าทึ่งของการร้องเพลง การเล่นดนตรี มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน หัวใจ การหายใจ และการทำงานของปอด อีกทั้งยังช่วยปรับท่าทางที่ดีขึ้นให้ร่างกายด้วย รวมถึงช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความตึงเครียด สนุกสนาน ซึ่งแม้จะทดลองกับผู้ใหญ่แต่ประโยชน์เหล่านี้ก็น่าจะเกิดขึ้นกับเด็กได้เช่นกันค่ะ
- เสริมสร้างทักษะด้านสังคม
การสนับสนุนให้ลูกเล่นดนตรีนั้น ยังเป็นการเสริมสร้างทักษะการเข้าสังคมให้ลูกด้วยนะคะ การเล่นดนตรีจะทำให้ลูกรู้สึกประสบความสำเร็จจากความมุ่งมั่น และอดทนที่เกิดจากการฝึกซ้อมจนทำได้ รวมถึงเป็นการสร้างวินัยให้ตัวเองไปในตัว เมื่อทำได้สำเร็จ จึงเกิดความเชื่อมั่นในตัวเอง และยังส่งผลให้ลูกเติบโตมาเป็นคนที่กล้าแสดงออกอีกด้วย
ทักษะและการเรียนรู้ในการพัฒนาตนเองเหล่านี้ ยังนำไปสู่พัฒนาการทางสังคมของลูกด้วยให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วย เพราะการเล่นดนตรีเป็นกลุ่ม จะทำให้ลูกได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น และช่วยสร้างมิตรภาพ ความรู้สึกในการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม ฝึกความมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่อส่วนรวมของลูก
เห็นแล้วใช่ไหมคะแม่ๆ ว่าการส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้และทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับดนตรี มีประโยชน์ต่อตัวลูกมากแค่ไหน ซึ่งหากแม่ๆส่งเสริมตั้งแต่ยังเล็ก ก็จะยิ่งดีกับลูกมากๆเลยค่ะ แต่คุณแม่ท่านไหนที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ก็ ฟังเพลงตอนท้อง ไปก่อนได้เลย แล้วระหว่างนั้นก็ลองศึกษาหากิจกรรมทางดนตรีเผื่อไว้ให้ลูกก็ได้นะคะ
ขอบคุณข้อมูล pobpad
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
แม่ท้องรับเพิ่ม ค่าฝากครรภ์ ประกันสังคม เริ่ม 1 พฤษภาคมนี้
แม่ท้องระวัง ไข้มาลาเรีย เป็นแล้วอันตรายถึงชีวิตทั้งแม่และลูก
รวม 5 เมนูสตรอเบอรี่ สูตรเด็ดเพื่อแม่ท้อง
คนท้องดื่มน้ำขิงได้ไหม? เสี่ยงแท้งจริงหรือ?
คนท้องดื่มชาเขียวได้ไหม? ดื่มมากไป เสี่ยงแท้ง จริงหรือ?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่