AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เรียลพาเรนต์ส เดอะซีรีส์ 4 ตอน ต่อให้รู้ว่าลูกพิการ ฉันก็ไม่มีวันทำแท้ง

เรียลพาเรนต์ส เดอะซีรีส์ 4 / เรื่องจริงของแม่ที่หมออยากแบ่งปัน
ต่อให้รู้ว่าลูกพิการ ฉันก็ไม่มีวันทำแท้ง

เสี้ยวจันทราบนท้องนภา เป็นรูปเคียวสีเหลืองนวลราวจะคล้องโลกหล้า แผ่รัศมีกระจายเป็นชั้น ๆ รอบล้อมด้วยหมู่ดวงดาวกะพริบกะพราวเต็มผืนฟ้าที่มีสีดำสนิท โอ…โลกเราสวยเหลือเกิน เหมือนเทพยดามาเนรมิต…ฉันคิดในใจ ขณะยืนชมจันทร์ที่บนระเบียงบ้าน สามีใช้ไม้ค้ำยันเดินมา ฉันหันไปหาเขา เขาโอบไหล่ฉัน มองท้องที่เริ่มนูนของฉัน ยิ้มอย่างดีใจเมื่อบอกฉันเบา ๆ ว่า ขอบคุณของขวัญจากสรวงสวรรค์

ฉันชื่อจินตนา (ชื่อสมมุติ) อายุ 34 ปี สามีอายุเท่ากัน แต่งงานมาสิบปีไม่มีลูก จึงไปปรึกษาเรื่องมีลูกยากกับหมอพรรณี (ชื่อสมมุติ) หมอตรวจเช็คทุกอย่างอย่างละเอียด สรุปว่าเป็นเพราะสามีน้ำเชื้ออ่อน และฉันไม่มีไข่ตก หมอว่าเราสองคนอาจเครียดไป หมอจัดยาให้ฉันและสามีกิน แนะนำให้ไปพักผ่อน ไม่น่าเชื่อว่า 6 เดือนหลังรักษา ฉันก็ตั้งครรภ์ ฉันรีบไปฝากท้องกับหมอพรรณี เจาะเลือดฉีดวัคซีนทำตามคำแนะนำของหมอทุกอย่าง ความดีใจที่จะมีลูกน้อย ทำให้ฉันและสามีมีความสุขมาก แม้ตอนที่ฉันตั้งครรภ์ 2 เดือน สามีได้รับอุบัติเหตุ รถคว่ำ กระดูกแขนขาหัก ใบหน้าเป็นแผล สามียังบอกว่า เป็นมากกว่านี้ก็ยอม ขอให้มีลูก ในช่วงตั้งครรภ์ฉันกับสามีจึงเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ดีที่เราทำงานมีกิจการส่วนตัว หากทำงานเป็นลูกจ้างใครสงสัยโดนไล่ออกไปนานแล้ว เวลาไปส่งสามีตรวจเรื่องกระดูก ห้องตรวจข้าง ๆ เป็นห้องตรวจของหมอกระดูกเด็ก ฉันเห็นเด็กพิการหลายราย มีมือบิด เท้าบิด แขนขายาวไม่เท่ากัน ไม่มีมือ ไม่มีนิ้ว มีนิ้วเกิน มีนิ้วติดกัน เด็กหญิงรายหนึ่งที่มาตรวจ หน้าตาน่ารัก หัวเราะเก่ง แต่มีแต่ลำตัว ไม่มีทั้งแขนขา ฉันเห็นแล้วนึกสงสาร แต่คนเป็นพ่อแม่ ไม่มีท่าทีเศร้าหรืออับอายที่มีลูกพิการ ทำให้ฉันแปลกใจมาก ถามคนที่นั่งข้างๆ เขาบอกว่า ฉันคงไม่ได้ดูทีวี เด็กคนนี้เป็นเด็กที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ออกรายการทีวีดัง มีมูลนิธิฝรั่งอุปถัมภ์ โตขึ้นเขาจะส่งไปเรียนเมืองนอก แต่เมื่อสามีเห็นฉันดูเด็กพิการทีไร เขามักจะห้ามไม่ให้ดู กลัวภาพจะติดตา

เมื่อครรภ์ใหญ่ขึ้น ลูกดิ้นแรง ลูกขยับตัวทีไรเห็นท้องนูน ฉันจะเรียกสามีให้ดูเมื่อนั้น สามีตอนนี้พอช่วยเหลือตนเองได้ เดินด้วยไม้เท้าค้ำยัน แม้สามีเดินไม่ถนัด เวลาฉันไปฝากครรภ์ สามีจะไปเป็นเพื่อนทุกครั้ง สามีมักจะถามหมอพรรณีว่า “ลูกผมมีความพิการไหมครับ” หมอพรรณีก็จะตอบเหมือนทุกครั้งว่า “ เท่าที่ดู ลูกของคุณก็มีหัว ตัว แขน ขา มีหัวใจเต้น ไขสันหลังดูปกติ หน้าท้องปกติไม่มีลำไส้ออกมาจากหน้าท้อง ลูกเป็นเพศชาย ผลการตรวจเลือดแม่ก็เสี่ยงต่ำที่จะเกิดกลุ่มทารกเด็กดาวน์ แต่หมอไม่สามารถประกันได้ว่าลูกคุณจะปกติทุกอย่าง หมอไม่สามารถบอกได้ว่าลูกคุณจะมองเห็นไหม ได้ยินเสียงไหม จมูกได้กลิ่นไหม หัวใจรั่วหรือไม่ นิ้วครบหรือนิ้วเกิน มีกระดูกอะไรขาดหรือเกิน ” แต่แรกที่ฟังหมอ ว่าหมอไม่ยืนยันความพิการ ฉันเข้าใจว่าที่หมอไม่สามารถมองเห็นความพิการได้ทั้งหมด เป็นเพราะเครื่องอัลตร้าซาวนด์ที่หมอใช้เป็นชนิดสองมิติ ฉันจึงถามหมอว่า “หากเป็นอัลตร้าซาวนด์สี่มิติ จะเห็นความพิการไหม” หมอตอบว่า “ไม่ว่าจะตรวจด้วยอัลตร้าซาวนด์สี่มิติ หรือตรวจด้วยวิธีอะไร ไม่มีใครสามารถประกันความพิการในเด็กได้ทั้งหมด ส่วนใหญ่ก็ต้องตรวจเช็คเมื่อเด็กคลอดออกมา ทั้งยังมีความพิการบางอย่างกว่าจะรู้ ก็เมื่อเด็กโต เช่นหัวใจรั่วบางชนิด เด็กออทิซึม เด็กสมาธิสั้น เด็กไฮเปอร์” เมื่อเห็นหน้าฉันและสามีดูเครียดหมอก็ปลอบใจว่า “ความพิการส่วนหนึ่งซ่อมได้ ทั้งยังเป็นเรื่องของพันธุกรรม บ้านคุณไม่มีเด็กพิการ ลูกก็ไม่น่าจะมีความพิการ หมอเคยเจอเด็กคลอดออกมาเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ตอนคลอดออกมาหมอก็ตกใจมาก กลัวพ่อแม่ของเขาเสียใจ หมอรีบบอกแม่ว่า โรคแบบนี้ซ่อมได้ ปรากฏว่าแม่เด็กยิ้มไม่ตอบว่ากระไร เมื่อปู่และพ่อมาเยี่ยม หมอจึงเห็นว่าปู่กับพ่อมีรอยแผลจางๆที่ปาก ปู่กับพ่อเลยเฉลยว่า คนทั้งสองก็เคยเป็นปากแหว่งเพดานโหว่ ” เนื่องจากฉันสนิทกับหมอ หมอเลยเผลอบ่นให้ฟังว่า “เมื่อหลายเดือนก่อน มีคุณแม่มาคลอด ปรากฏว่าลูกไม่มีลูกตาทั้งสองข้าง เป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่าเห็นใจมาก คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้บ่นอะไร เพราะหมอก็บอกแล้วว่าหมอไม่สามารถประกันความพิการได้ โอ…แต่ญาตินับสิบมาต่อว่าหมอว่า อัลตร้าซาวนด์แล้วทำไมไม่รู้ว่าเด็กไม่มีลูกตา เด็กตาบอดสองข้าง หมอก็ตอบว่าการตรวจครรภ์ด้วยเครื่องอัลตร้าซาวนด์ไม่สามารถยืนยันความพิการได้ทั้งหมดจริง ๆ ทำให้เวลาหมอตรวจครรภ์ด้วยเครื่องอัลตร้าซาวนด์หมอต้องอธิบายคุณพ่อคุณแม่ทุกรายหลายครั้ง ถึงข้อจำกัดของการตรวจ”

เมื่อครบกำหนดคลอด ลูกอยู่ในท่าก้น จึงต้องผ่าท้องคลอด การผ่าคลอดใช้การบล็อกหลัง ขณะหมอผ่าตัด ฉันจึงได้ยินหมอพูดตลอดเวลา ได้ยินหมออุทานอย่างตกใจ หมอบ่นไม่สบายใจ เพราะลูกชายของฉันที่คลอดมามีขาขวาสั้นกว่าขาซ้าย ฉันน้ำตาคลอตา กังวลว่าลูกจะเดินได้หรือเปล่า เมื่อกลับไปห้องพัก พยาบาลเอาลูกชายมาให้ดู เขาเป็นเด็กสมบูรณ์มากน้ำหนัก 3กิโลครึ่ง ขาสองข้างมองเผิน ๆ ก็ปกติ เพราะเขาเอาเท้าทั้งสองข้างมาประกบกัน แต่เมื่อดูจริงๆ เห็นว่าขาขวา ไม่มีข้อเข่า มีแต่ขา และมีเท้าเลย หมอเอาฟิล์มเอกซเรย์มาให้ดู พบว่ากระดูกต้นขาขวาของลูกหายไป หมอบอกว่าเป็นโรคที่หายากมาก ๆ พบเจอหนึ่งในล้าน สามีฉันน้ำตาไหลพราก กลั้นสะอื้นขณะกอดฉันและบอกลูกว่า อย่างไร พ่อกับแม่จะดูแลลูกให้ดีที่สุด

บันทึกจากหมอ

ฉันชื่อหมอพรรณี ฉันรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่ได้ดูแลครรภ์คุณจินตนา เมื่อเธอคลอดลูกพิการ แม้เธอและสามีจะเครียดมาก แต่ไม่เคยต่อว่าหมอแม้แต่คำเดียว ญาติของเธอต่างก็ให้กำลังใจเธอและไม่ต่อว่าหมอเช่นกัน เมื่อเธอทำใจได้ เธอบอกฉันว่า รอลูกแข็งแรงดี เธอจะพาลูกไปหาหมอกระดูกเด็กที่เธอรู้จัก หมอคงรักษาให้ลูกเดินได้ ลูกเธอยังดีกว่าเด็กหลายคนที่เธอเห็น ซึ่งไม่มีทั้งแขนขา เธอยังบอกว่าตอนหมอตรวจอัลตร้าซาวนด์หมอคงจำไม่ได้ หมอบอกฉันว่าลูกฉันแปลกบางทีก็ขายาว บางทีก็ขาสั้น ฉันฟังหมอก็สงสัยตั้งแต่นั้นแล้ว แต่ถึงฉันรู้ว่าลูกขาสั้นข้างยาวข้าง ฉันก็คงไม่ทำแท้งออก เพราะอย่างไรเขาก็เป็นลูกของฉันและสามี เป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตที่สรวงสวรรค์ประทานให้เรา

 

บทความโดย พญ.ชัญวลี ศรีสุโข

ภาพ shutterstock