เรื่องที่แม่ท้องสงสัย มักจะกังวลและตั้ง Question ส่วนใหญ่จะมาจากการบอกเล่าของคนในครอบครัว หรือเพื่อนๆ ที่เคยมีประสบการณ์ตั้งครรภ์ หรือคนรุ่นก่อนๆ ที่เขาเคยทำตามกันมาที่เรียกว่า ความเชื่อในการดูแลลูกน้อยในครรภ์ เรื่องความเชื่อเหล่านี้บางเรื่องอาจจะจริง/ไม่จริง
1.แพ้ท้องหนัก ลูกอาจไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ?
ความจริงก็คือ อาการแพ้ท้องเป็นเพียงอาการที่พบบ่อยในช่วงเริ่มตั้งครรภ์ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน อาการที่เห็นอาหาร หรือได้กลิ่นแล้วรู้สึกไม่สบายตัว หรืออาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง คุณแม่ไม่ต้องกังวล เพียงทำตามที่คุณหมอแนะนำ และรับประทานอาหารเสริมที่มีประโยชน์ที่คุณแม่สามารถทานได้
2.การกระทบกระแทก อาจเป็นอันตรายต่อลูก?
ลูกน้อยในครรภ์ได้รับการคุ้มครองอย่างดีในมดลูกของคุณแม่ การกระแทกเล็กน้อย เช่น การเดินสะดุด หรืออุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ไม่สามารถทำอันตรายกับลูกได้ เพราะลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์จะลอยตัวอยู่ในน้ำคร่ำของแม่ อย่างไรก็ตามถ้าคุณแม่มีอาการปวดท้อง หรือเลือดออกทางช่องคลอด ควรรีบไปพบคุณหมอทันที
3.การยกของหนัก อาจไม่ดีกับคุณแม่?
นี่เป็นเพียงความจริงบางส่วน การยกของหนักอย่างกะทันหันอาจทำให้คุณแม่ปวดหลังอย่างรุนแรง แต่ถ้าคุณแม่ใช้วิธีการยกแบบถูกวิธีก็จะช่วยให้สามารถถ่ายเทน้ำหนักได้ เช่น การถือถุงของช้อปปิ้ง หรือของชำในท่าที่ถูกต้อง ก่อนที่จะยกของขึ้นมาให้งอเข่าลงไปก่อนแล้วจึงยกขึ้น ไม่ก้มตัวหรือหลังลงไปยกของหนัก
4.ออกกำลังกาย อันตรายถึงลูกน้อย?
แม่ท้องสามารถออกกำลังกายได้ แต่ต้องปรึกษาคุณหมอ หรือภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ การออกกำลังกายช่วยเสริมความแข็งแรงให้คุณแม่ เตรียมพร้อมสำหรับการคลอด โดยปกติแล้ว คุณหมอจะแนะนำคุณแม่ให้ออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์ เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ โยคะ เป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัย
5.การขึ้นเครื่องบิน อาจไม่ปลอดภัยกับแม่ท้อง?
ช่วงอายุที่ปลอดภัยของแม่ท้องที่สามารถขึ้นเครื่องบินได้คือ ก่อนกำหนดคลอด 6 สัปดาห์ หรือเข้าเดือนที่ 8 – 9 ของการตั้งครรภ์ โดยสามารถผ่านประตูรักษาความปลอดภัยของสนามบินได้อย่างปลอดภัย หากอยู่บนเครื่องเป็นเวลานาน อย่าลืมยืดเส้นยืดสาย การเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆ ก็เป็นเรื่องที่ควรระมัดระวัง
6.คอมพิวเตอร์ ไมโครเวฟ และโทรศัพท์มือถือ เป็นอันตราย?
คอมพิวเตอร์ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ามีความปลอดภัยต่อคุณแม่ท้อง แต่ไมโครเวฟมีความเสี่ยงในการแผ่รังสีที่อาจรั่วไหลมาถึงคุณแม่ได้ ควรรักษาระยะห่างให้อยู่ในระยะที่ปลอดภัย ส่วนโทรศัพท์มือถือ ยังไม่มีรายงานยืนยันว่าอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์หรือไม่
7.ลูกไม่ค่อยดิ้น อาจพัฒนาการช้า?
ไม่จริง ลูกจะดิ้นตามจังหวะของตัวเขาเอง ถ้าคุณแม่ไม่สบายใจถ้าลูกไม่ค่อยดิ้น ลองนับจังหวะการดิ้นของลูก ถ้าลูกดิ้น 10 ครั้งใน 12 ชั่วโมง ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ยิ่งใกล้คลอดลูกยิ่งดิ้นถี่ขึ้น ถ้าคุณแม่นับจังหวะการเคลื่อนไหวพลาดไปเพียงไม่กี่ครั้งก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลัว
8.การทำสีผม อาจไม่ดีกับแม่ท้อง?
จริง สิ่งที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงสารเคมี เช่น การทำสีผม ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เพราะสารเคมีจะดูดซึมจากหนังศีรษะ เข้าสู่กระแสเลือด ช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์อาจเสี่ยงน้อยกว่า สมุนไพรที่เป็นธรรมชาติจะเหมาะกับคุณแม่มากกว่า
อ่านต่อ “เรื่องที่แม่ท้องสงสัย ไขข้อข้องใจของคุณแม่ตั้งครรภ์” คลิกหน้า 2
9.ถ้าท้องต่ำจะได้ลูกชาย ถ้าเป็นสิวจะได้ลูกสาว?
ไม่จริง ตำแหน่งของการอุ้มท้องขึ้นอยู่กับรูปร่างของคุณแม่แต่ละคน ซึ่งไม่ได้สะท้อนการบอกเพศของลูกทั้งหมด การตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 อาจทำให้ครรภ์ดูต่ำลง เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าท้องเคยขยายมาก่อน ในทำนองเดียวกันการมีสิวระหว่างตั้งครรภ์เป็นเพียงผลของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนของคุณแม่โดยธรรมชาติ
10.ลูกในครรภ์ใจเต้นช้าคือลูกชาย เต้นเร็วคือลูกสาว?
มีการศึกษาที่มีการพิสูจน์แล้วพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจของลูกน้อยในครรภ์ไม่สามารถบอกเพศได้ อัตราการเต้นของหัวใจของลูกขึ้นอยู่กับอายุในครรภ์ และกิจกรรมการเคลื่อนไหวเท่านั้น
11.คุณแม่ท้องไม่ควรเลี้ยงแมว?
จริง ไวรัสที่อยู่ในอุจจาระของแมว เป็นอันตรายกับคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ไม่ควรแตะต้องกระบะทรายแมว และไม่ควรแตะต้องแมว เพราะแมวเดินไปทุกที่ ตัวของมัน รวมถึงอุ้งเท้าของมันมีแต่เชื้อโรค ฉะนั้นควรรักษาความสะอาดภายในบ้าน และไม่ควรเลี้ยงแมว เพราะคุณแม่อาจติดเชื้อไวรัสจากแมวได้
12.การรับประทานมะละกอ อาจทำให้แท้งลูก?
ความจริงก็คือ มะละกอดิบทำให้คุณแม่แท้งได้ แต่มะละกอสุกมีความปลอดภัย และเป็นแหล่งอาหารที่ดีอุดมไปด้วยวิตามินเอ
13.การรับประทานของเผ็ดร้อน อาจทำให้แท้ง?
การรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับลูกน้อย แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดในช่วงตั้งครรภ์ เพราะอาจจะทำให้คุณแม่หงุดหงิด โมโหง่าย และเพิ่มความรุนแรงของอารมณ์ได้
14.คุณแม่ตั้งครรภ์อยากของดอง และไอศกรีม?
ความอยากอาหารอาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่กับทุกคน จริงๆ แล้วสิ่งที่คุณแม่อยากไม่ใช่ของดอง แต่เป็นน้ำจิ้มที่ใช้จิ้มของดอง เช่น เกลือ ซึ่งมีแร่ธาตุสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ทำนองเดียวกัน คุณแม่ที่อยากรับประทานอาหารขยะ เช่น ไอศกรีม เพราะน้ำตาลที่ให้ความหวานในไอศกรีมทำให้คุณแม่มีความสุข และรู้สึกดี
15.คุณแม่ท้อง ต้องกินเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า?
เนื่องจากความต้องการอาหารของคุณแม่ท้องเพิ่มขึ้น ทำให้คุณแม่หลายคนรับประทานอาหารเพิ่มขึ้นมาอีก 350 แคลอรี่ อาหารที่คุณแม่ควรรับประทานต้องเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ให้สมดุลกัน ไม่ใช่การรับประทานอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
16.คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรกินอาหารทะเล?
อาหารทะเลเป็นส่วนสำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ มีโปรตีนสูง และอาหารที่จำเป็นอื่นๆ ที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ และกรดไขมันโอเมก้า 3 แต่อาหารทะเลบางชนิด มักมีสารปรอทที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ ฉะนั้นควรรับประทานอาหารทะเลที่มีโปรตีนสูงให้น้อยลง เช่น กุ้ง ปลาทู ปลาแซลมอน
17.การดื่มกาแฟ อาจมีผลต่อลูกในครรภ์?
การรับประทานกาแฟในปริมาณน้อยๆ ไม่ได้มีผลกับทารก แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเกินวันละ 2 แก้วต่อวัน เพราะถ้าได้รับคาเฟอีนในปริมาณมากจะทำให้ลูกมีน้ำหนักต่ำเกินมาตรฐาน
เครดิต: nestle
Save