ข้อห้ามคนท้อง สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์คงจะเคยได้ยินข้อห้ามต่างๆที่คนรอบข้างคอยเตือนมากมายเลยใช่ไหมคะ วันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids รวบรวม 10 ข้อห้ามสำหรับคนท้องมาฝากค่ะ มาดูกันว่าคนท้องห้ามทำอะไรบ้าง และทำแล้วจะเป็นอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์ขนาดไหน
ข้อห้ามคนท้อง
การมีลูกสำหรับคุณแม่บางคนว่ายากแล้ว แต่การรักษาดูแลลูกน้อย ให้แข็งแรงและปลอดภัยจนคลอดออกมาลืมตาดูโลกบางครั้งก็อาจจะยากยิ่งกว่า เพราะเป็นช่วงที่คุณแม่ท้อง ต้องใส่ใจและระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่บางครั้งความไม่รู้บางอย่างก็อาจจะนำมาซึ่งอันตรายกับแม่และลูกได้ อย่างเช่นเรื่องของการรับประทานยารักษาสิว ในขณะตั้งครรภ์นั้น ได้แพทย์ออกมาเตือนแม่ๆแล้วว่า ห้ามรับประทานเด็ดขาด
ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ได้เผยว่า “เรื่องของยารักษาสิวกับการตั้งครรภ์นั้น ปัจจุบันมี ยารักษาสิวประเภทกรดวิตามินเอ ที่มีชื่อว่า Isotretinoin (ไอโซเทรติโนอิน) เป็นยารักษาสิวชนิดที่มีผลข้างเคียงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยขณะที่รับประทานยาจำเป็นที่จะต้องคุมกำเนิดร่วมด้วย และหลังจากหยุดยาแล้วต้องคุมกำเนิดต่ออีกประมาณ 1 เดือน เนื่องจากยาชนิดดังกล่าวจะมีผลต่อเด็กในครรภ์ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการสั่งจ่ายจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเท่านั้น แต่ทั้งนี้กลับพบว่ายาดังกล่าวสามารถหาซื้อได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นจากร้านขายยาทั่วไป ร้านทำผม หรือแม้กระทั่งในโลกออนไลน์โซเชียลมีเดีย ที่มีการแพร่ระบาดของยาชนิดนี้อยู่ในปัจจุบัน”
คุณหมอประวิตร ยังได้กล่าวต่ออีกว่า “ยาชนิดนี้เมื่อรับประทานเข้าไปจะทำให้สิวที่เป็นอยู่ยุบตัวลง และช่วยในเรื่องของการควบคุมความมันบนใบหน้า ซึ่งในหมู่คนที่รู้จักและคุ้นเคยกับยาชนิดนี้จะเรียกว่า “ยาหน้าใส” แต่โดยความจริงแล้ว ยาชนิดนี้แม้จะเป็นยาที่ดี แต่ก็ผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น เมื่อรับประทานไปแล้วปากแห้ง ในบางรายมีผมร่วง มีค่าเอนไซม์ตับหรือมีค่าไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น ดังนั้นเมื่อรับประทานยาชนิดนี้ต่อเนื่องนานๆ ก็ควรต้องมีการตรวจเลือดอย่างน้อย 1-2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายเราสามารถรับยาได้ โดยเฉพาะผลข้างเคียงในผู้หญิงขณะตั้งครรภ์ เมื่อรับประทานยาชนิดนี้เข้าไปแล้ว สามารถทำให้เด็กมีโอกาสพิการได้หลายรูปแบบ เช่น เกิดการพิการทางกะโหลกศีรษะ สมอง หัวใจ แขนขา เป็นต้น นอกจากนี้ในบางรายอาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ หรือในผู้ที่รับประทานยาโดยไม่ได้อยู่ในการควบคุมของแพทย์อาจทำให้มีอาการซึมเศร้า ซึ่งอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้อีกด้วย”
อ่านต่อ หน้า 2 >> แพทย์เตือนแม่ท้องกินยารักษาสิว
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
คุณหมอยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการพิจารณาในการจ่ายยารักษาสิวให้เหมาะสมและถูกต้องว่ากับผู้ป่วยว่า
“ยาที่ใช้ในการรักษาสิวแต่ละประเภท ได้ถูกออกแบบมาตามลักษณะความรุนแรงของสิว หากสิวมีความรุนแรงน้อย เช่น สิวอุดตัน สามารถใช้ยาทาก็จะพอช่วยลดอาการของสิวลงได้ แต่ถ้าสิวมีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีลักษณะเป็นไตลึก ๆ มีตุ่มหนองเกิดขึ้นเยอะหรือมีไข้ร่วมด้วย อาจต้องใช้ยารับประทาน ทั้งนี้ควรอยู่ในการพิจารณาของแพทย์เป็นหลัก เพราะถ้าความรุนแรงของสิวไม่มาก ยาที่ใช้จะเป็นยาในกลุ่มลดการอักเสบ หรือยาทาเพื่อลดการอุดตันของรูขุมขน แต่ในกรณีที่รับประทานยาหลายชนิดแล้วไม่ดีขึ้นก็จำเป็นต้องใช้ยากลุ่มของกรดวิตามินเอในการรักษา โดยแพทย์จะพิจารณาใช้ยาชนิดนี้เป็นยาตัวท้าย ๆ เพราะมีผลข้างเคียงที่รุนแรง โดยเฉพาะกับผู้หญิงในช่วงวัยที่แต่งงานแล้วหรือกำลังวางแผนที่จะมีบุตร การประเมินความเหมาะสมในการใช้ยาควรมาจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเท่านั้น ซึ่งในต่างประเทศเองได้ให้ความสำคัญกับข้อบังคับในการใช้ยาชนิดนี้เป็นอย่างมาก โดยต้องตรวจก่อนว่าไม่ตั้งครรภ์ในขณะที่เริ่มทานยา และในระหว่างที่ทานยาก็ต้องดูรอบเดือนด้วยว่าไม่ตั้งครรภ์จนกว่าจะหยุดยา แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ายาดังกล่าวสามารถสั่งซื้อได้ง่าย ดังนั้นผู้บริโภคต้องควรระวังเป็นอย่างมาก”
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณแม่ท้องต้องระวังเป็นอย่างมากเลยค่ะ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์ แต่นอกจากเรื่องการรับประทานยาแล้ว ยังมี ข้อห้ามคนท้อง อีกมากมายที่แม่ๆควรจะทราบไว้ด้วยค่ะ
ขอบคุณภาพและข้อมูล www.newtv.co.th
คลิก! หน้า 3 >> 10 ข้อห้าม ที่คนท้องต้องระวัง
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
10 ข้อห้ามคนท้อง ที่ควรระวัง
สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้น บอกเลยว่าต้องระมัดระวังหลายเรื่อง ยิ่งกับคุณแม่ที่เพิ่งจะทราบว่ากำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ ยิ่งต้องดูแลตัวเองให้ดีเป็นพิเศษเลยค่ะ เพราะทารกน้อยที่อยู่ในครรภ์ยังคงมีความบอบบางอยู่มาก หากไม่ระวังให้ดีก็มีโอกาสเสี่ยงแท้งได้สูง ซึ่ง ข้อห้ามคนท้อง มีดังนี้
1. ห้ามใช้ยาขณะตั้งครรภ์
อย่างที่ได้ทราบกันแล้วการรับประทานยาในขณะตั้งครรภ์นั้น อาจส่งผลกระทบถึงลูกน้อยในครรภ์ได้ ซึ่งการใช้ยาขณะตั้งครรภ์มีทั้งยาที่ใช้ในการรักษาโรคประจำตัว รวมถึงยาวิตามินที่คุณแม่รับประทานเพื่อบำรุงครรภ์ ซึ่งยาเหล่านี้ จะต้องอยู่ในการควบคุมของคุณหมอเท่านั้นค่ะ
2. ห้ามเครียด
หลายคนมักจะบอกว่าเวลาท้องอย่าเครียดนะ ให้อารมณ์ดีเข้าไว้ บอกเลยว่าเป็นความจริงค่ะ เพราะเมื่อแม่ท้องเครียดนั้นสามารถส่งผลกระทบถึงลูกน้อยในครรภ์ได้ ยิ่งคุณแม่เครียดมากๆ รู้สึกหดหู่ใจ หรืออาจจะมาจากภาวะการเจ็บป่วยก่อนหน้า ความเครียดเหล่านี้ถ้าร้ายแรงมากๆ ก็อาจทำให้เสี่ยงแท้งได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นยิ้มเข้าไว้ค่ะ หรือแนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และจะได้แก้ไขได้ทันนะคะ
3. ห้ามรับประทานอาหารดิบ หรืออาหารที่ปรุงไม่สุก
คุณแม่ๆบางคนอาจจะยังสนุกสนานกับการรับประทานมากไปหน่อย ยิ่งบางคนไม่มีอาการแพ้ด้วยแล้ว ยิ่งรับประทานตามใจปากมากๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีกับลูกน้อยในครรภ์แน่ๆ เช่น การรับประทาน ข้าวหน้าปลาดิบ ไข่ดาวไม่สุก ทานหอยดอง ส้มตำปูม้าของโปรด บอกเลยว่าอาหารที่ปรุงไม่สุกอาจปนเปื้อนมาด้วยเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นเหตุทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษขึ้นได้นะคะ
4. ห้ามสูบบุหรี่
เรื่องนี้ก็ต้องระวังมากๆเช่นกันค่ะ เพราะสารนิโคตินในบุหรี่ เป็นอันตรายทั้งสุขภาพของคุณแม่ท้อง และทารกในครรภ์ คนท้องที่สูบบุหรี่จัดมีโอกาสแท้งสูง หรืออาจจะเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดได้ ซึ่งเด็กที่คลอดก่อนกำหนดนั้นก็จะตัวเล็ก น้ำหนักแรกคลอดไม่ได้มาตรฐาน หัวใจเต้นเร็วกว่าเด็กปกติ บางครั้งอาจทำให้เกิดความพิการที่รุนแรงได้ค่ะ
5. ห้ามเดินทางขณะตั้งครรภ์
สำหรับคุณแม่ที่ท้องอ่อนๆ หรือคุณแม่ที่อายุครรภ์มากขึ้น เลี่ยงการเดินทางจะดีมากค่ะ เพราะในระหว่างเดินทางนั้นไม่ว่าจะโดยสารทางใด ก็อาจจะต้องมีการสั่นสะเทือน กระทบกระเทือน ซึ่งก็เป็นสาเหตุให้เกิดการแท้งได้เช่นกันค่ะ
6. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์
คุณแม่ที่ติดการดื่มแอลกอฮอล์ ต้องงดเพื่อลูกนะคะ เพราะคุณแม่ดื่มอะไรลงไป ลูกก็ดื่มกับเราเช่นเดียวกัน และพิษของแอลกอฮอล์ สามารถทำลายเซลล์ประสาททารกทำให้มีปัญหาการเจริญเติบโต มีปัญหาด้านความจำ และมีพัฒนาการที่ไม่ปกติ คลอดออกมาน้ำหนักก็น้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานด้วยค่ะ
7. ห้ามลดน้ำหนัก และอดอาหาร
คุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์นั้น จำเป็นอย่างมากที่จะต้องได้รับสารอาหารหลากหลาย และครบถ้วน ทั้ง 5 หมู่ ซึ่งหากคุณแม่คิดจะลดน้ำหนักแล้วอดอาหาร ทารกก็มีความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนดสูง หรือสมองพิการ เพราะในอาหาร 5 หมู่มีสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงสมองของทารก เช่น โฟเลตที่ได้จากผักและผลไม้ รวมถึงวิตามินต่างๆ ที่ช่วยในการสร้างอวัยวะสำคัญ
8. ห้ามอบซาวน่า
คุณแม่ท้องบางคนอาจจะติดการอบซาวน่าตั้งแต่ก่อนท้อง หรือบางคนอาจจะรู้สึกไม่สดชื่นเลยอยากซาวน่า แต่บอกเลยว่า ห้ามนะคะ เพราะความร้อนจะทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ ทำให้เลือดภายในร่างกายข้นขึ้น รวมถึงส่งผลกระทบให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือด จนทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงทารกในครรภ์ได้น้อยลง และเสี่ยงต่อการแท้งได้เลยทีเดียวค่ะ
9. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ขณะตั้งครรภ์
หมายถึง ในกรณีที่หมอสั่งห้ามด้วยเหตุผลทางการแพทย์บางประการ / ในกรณีที่คุณแม่ตั้งครรภ์อ่อนๆ /เคยมีภาวะแท้งบุตรมาก่อน / คุณแม่ตั้งครรภ์แฝดซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด / กรณีที่สงสัยหรือพบว่ามีภาวะรกเกาะต่ำ / คุณแม่พบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอด / ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ และคุณแม่เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนดค่ะ
10. ห้ามทำความสะอาดช่องคลอดด้วยการสวนล้าง
คุณแม่ควรทำความสะอาดเฉพาะภายนอกเท่านั้น แต่ไม่ควรสวนล้างเข้าไปด้านในช่องคลอดนะคะ เพราะในช่องคลอดจะมีแบคทีเรียที่คอยป้องกันไม่ให้เชื้ออื่นเข้าไปในช่องคลอด โดยมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ถ้าคุณแม่สวนล้างช่องคลอดด้วยการใช้น้ำยาที่ขายกันอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด อาจเป็นอันตรายได้ เพราะผนังช่องคลอดนั้นจะมีเนื้อเยื่อที่ละเอียดอ่อนนุ่ม การใช้น้ำยาต่างๆ จึงทำให้เกิดแผลได้ง่าย และยังไปทำลายแบคทีเรียที่มีประโยชน์ ทำให้น้ำในช่องคลอดเปลี่ยนฤทธิ์เป็นด่าง เชื้อโรคก็ติดต่อเข้าไปได้โดยง่ายค่ะ
แนะนำวิธีกันไปแล้ว ว่าที่คุณแม่ทุกท่านก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันด้วยนะคะสำหรับ ข้อห้ามคนท้อง ต่างๆเพื่อความปลอดภัยทั้งคุณแม่ และทารกในครรภ์นะคะ
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
คนท้องกินช็อกโกแลตได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือไม่
คนท้องดื่มชาเขียวได้ไหม? ดื่มมากไป เสี่ยงแท้ง จริงหรือ?
คนท้องดื่มน้ำขิงได้ไหม? เสี่ยงแท้งจริงหรือ?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่