รกเกาะต่ำ ภาวะรุนแรงที่สุดของการตั้งครรภ์ พบได้ 1 คนในการตั้งครรภ์ประมาณ 200 คน หลายคนคงพอได้ยินภาวะนี้มาบ้าง มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ภาวะรกเกาะต่ำ คืออะไร แล้วเหตุใดถึงเรียกได้ว่าเป็นภาวะที่รุนแรงที่สุด
รกเกาะต่ำ ภาวะรุนแรงที่สุดของการตั้งครรภ์
ปกติแล้วรกจะเกาะบริเวณส่วนบนของมดลูก เมื่อคลอดลูกมดลูกส่วนบนซึ่งมีกล้ามเนื้อแข็งแรง จะบีบตัวทำให้เลือดจากแผลที่รกเกาะนั้นหยุด แต่สำหรับ รกเกาะต่ำ คือ รกเกาะบริเวณส่วนล่างของมดลูก หรือเกาะบริเวณปากมดลูก นอกจากทำให้มีเลือดออกตั้งแต่ตั้งครรภ์แล้ว ยังอาจเกิดการตกเลือดหลังคลอดด้วย เพราะเมื่อมดลูกหดรัดตัว ส่วนล่างของมดลูกที่มีกล้ามเนื้อน้อย ก็ไม่สามารถห้ามเลือดจากแผลที่รกเกาะต่ำได้ ซึ่งการเสียเลือดทำให้มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของแม่ โดยพบร้อยละ 0.3
และภาวะรกเกาะต่ำนี้จะเกิดอันตรายมากขึ้น ทำให้แม่เสี่ยงชีวิตมากขึ้น ถ้ามีการฝังตัวของรกที่ผิดปกติร่วมด้วย กับ ภาวะรกติด หรือ รกเกาะมดลูกแน่น (Placenta Accreta, Placenta Increta) ซึ่งในบางรายรกอาจจะกินทะลุออกนอกมดลูก (Placenta Percreta) ทำให้เกิดการตกเลือดอย่างรุนแรง
หากการตัดมดลูกไม่สามารถห้ามเลือดได้ก็ต้องรักษาโดยการผูกเส้นเลือดแดงอินเทอร์นอลอีลีแอค ที่ไปเลี้ยงบริเวณอุ้งเชิงกราน การผูกเส้นเลือดนั้นอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะเส้นเลือดแดงอินเทอร์นอลอีลีแอค ติดกับเส้นเลือดดำใหญ่ ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผูกเส้นเลือด
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
สาเหตุการเกิดภาวะ รกเกาะต่ำ คืออะไร
ไม่มีใครทราบสาเหตุแน่ชัดของภาวะรกเกาะต่ำ แต่มักจะเกิดได้ในกรณีเหล่านี้
- แม่อายุมาก โดยพบว่าแม่ที่ตั้งครรภ์อายุมาก 30,35 และ 40 ปีขึ้นไป เสี่ยงต่อการเกิดรกเกาะต่ำสูงเป็น 2.5,3.2 และ 4.4 เท่า ตามลำดับ เมื่อเทียบกับแม่ตั้งครรภ์ อายุ 20-29 ปี
- มีลูกหลายคน แม่ที่มีลูกมากกว่า 5 คนขึ้นไป พบภาวะรกเกาะต่ำร้อยละ 5
- รกฝังตัวไม่ปกติ โดยมาฝังในส่วนล่างของมดลูก ทั้งนี้อาจเกิดจากเคยทำแท้ง เคยขูดมดลูก สูบบุหรี่ ตั้งครรภ์แฝด หรือ รกมีขนาดใหญ่ผิดปกติ
- เคยผ่าตัดคลอด ถ้าคุณแม่คนไหน เคยผ่าท้องคลอดหลายท้อง ก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดรกเกาะต่ำสูง โดยพบว่าผ่าท้องคลอด 1ท้อง 2 ท้อง 3 ท้อง 4 ท้อง มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดรกเกาะต่ำร้อยละ 0.65,1.5,2.2 และ 10 ตามลำดับ
- ตั้งครรภ์ครั้งที่แล้วเคยมีรกเกาะต่ำ ตั้งครรภ์นี้จึงมีโอกาสเกิดรกเกาะต่ำร้อยละ 4-8
ติดตาม ผลกระทบจากภาวะรกเกาะต่ำ ที่มีต่อทารก คลิกต่อหน้า 2
ทั้งนี้คุณหมอจะวินิจฉัย ภาวะรกเกาะต่ำ จากอาการเลือดออกในขณะตั้งครรภ์ ร่วมกับการตรวจทางอัลตรา
ซาวนด์ อย่างไรก็ตาม สำหรับอาการเลือดออก ในบางรายจะมีเลือดออกทางช่องคลอดตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ แต่ส่วนใหญ่มักมีเลือดออกช่วงตั้งครรภ์ 7 เดือนไปแล้ว ซึ่งเวลาเลือดออกจะไม่มีอาการเจ็บปวด
ผลกระทบจากภาวะ รกเกาะต่ำ ที่มีต่อทารก
- ทารกจะซีด เนื่องจากเสียเลือดเป็นจำนวนมาก
- ทารกขาดอาหาร เพราะรกไม่สมบูรณ์ จนไม่สามารถเลี้ยงทารกในครรภ์ได้
- ทารกคลอดก่อนกำหนด ภาวะนี้ทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด ในบางรายแพทย์ต้องให้คลอดก่อนกำหนด เพื่อช่วยชีวิตแม่ ที่ตกเลือดมาก
- ทารกพิการ พบทารกพิการในภาวะรกเกาะต่ำสูงกว่าแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่มีภาวะรกเกาะต่ำถึง 2 เท่า ส่วนใหญ่เป็นความพิการทางสมอง ทางระบบหัวใจ และหลอดเลือด ระบบหายใจ ระบบกระเพาะอาหาร และลำไส้
- ทารกตายในครรภ์ จากปัญหาสายสะดือพันกัน หรือ ทารกเสียเลือดจำนวนมาก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ติดตาม ผลกระทบจากภาวะรกเกาะต่ำ ที่มีต่อแม่ คลิกต่อหน้า 3
ผลกระทบจากภาวะรกเกาะต่ำ ที่มีต่อแม่
- ตกเลือดมาก
- ความดันโลหิตตก
- ต้องผ่าตัดคลอด
- มีโอกาสตัดมดลูกหากห้ามเลือดไม่ได้
- มดลูกอักเสบ เกิดการติดเชื้อหลังผ่าตัดคลอด
- เกิดรกเกาะต่ำซ้ำในท้องต่อไป
ในกรณีที่ตรวจพบภาวะรกเกาะต่ำ แพทย์มักจะให้ข้อมูลคนไข้และญาติว่าเป็นภาวะที่เสี่ยงอันตราย หากจำเป็นอาจต้องตัดมดลูก เพื่อห้ามเลือดในระยะหลังคลอด
การรักษาภาวะรกเกาะต่ำ
หากมีภาวะรกเกาะต่ำต้องผ่าตัดคลอด เย็บห้ามเลือดบริเวณแผลที่รกเกาะ หากเลือดไม่หยุดต้องตัดมดลูก ซึ่งพบได้ร้อยละ 6-25 ของคนไข้ที่เป็นรกเกาะต่ำทั้งหมด หากห้ามเลือดไม่ได้ ต้องผูก หรือ ยิงสารเข้าไปอุดตันเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงอวัยวะในอุ้งเชิงกราน
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
รวมวิธีดูแลตัวเองง่ายๆ เมื่อ แม่ท้อง ไม่สบาย
การเปลี่ยนแปลงของเต้านมขณะตั้งครรภ์ ความลับที่แม่ท้องควรรู้
ปวดหลัง อาการยอดฮิตที่แม่ท้องต้องรับมือ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่