ตั้งครรภ์ 23-24 สัปดาห์ และพัฒนาการทารกในครรภ์

พัฒนาการ การตั้งครรภ์ 23-24 สัปดาห์ ของคุณแม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลายอย่างที่น่าสนใจ ทั้งสายตา เส้นผม และผิวพรรณ รวมทั้งเรายังมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการกินวิตามินและทำสีผมมาฝากกันด้วยค่ะ

พัฒนาการ การตั้งครรภ์ 23-24 สัปดาห์

อาการคนท้อง 23-24 สัปดาห์

สำหรับคุณแม่ท้องสัปดาห์นี้ จะมีอาการ และการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

• สายตาเปลี่ยน

เริ่มสังเกตกันไหมว่า ทำไมเดี๋ยวนี้มองเห็นอะไรไม่ค่อยชัด เบลอๆ มัวๆ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนมองไปที่ระยะนี้ก็สามารถมองเห็นได้ชัดแจ๋ว เหตุเพราะฮอร์โมนแม่ท้องและการบวมน้ำส่งผลต่อดวงตาของเรา ทำให้กระจกตาของคุณแม่หนาขึ้น เช่นเดียวกับอาการบวมน้ำในจุดอื่นๆของร่างกาย คุณแม่จึงมองเห็นได้ไม่ชัดนัก แต่ก็ไม่ถึงกับต้องไปหาจักษุแพทย์ ยกเว้นในรายที่มีปัญหาหนักมากจริงๆ เพราะอาการนี้จะหายไปเมื่อคลอดเจ้าตัวน้อยออกมาแล้ว นอกจากการมองไม่ชัดแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยได้ เช่น ตาแห้งหรือระคายเคืองมากขึ้น ซึ่งวิธีแก้อาการตาแห้งก็ง่าย แค่ซื้อน้ำตาเทียมมาหยอดเท่านี้ก็ช่วยได้แล้ว

• เส้นผมหนา ขนดกขึ้น

นอกจากสายตาแล้ว อีกสิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจนสังเกตได้คือ เส้นผมที่หนาและเงางามมากกว่าปกติ นั่นเพราะร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศที่ชื่อว่า แอนโดรเจน เพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่คุณแม่จะได้ลองเปลี่ยนทรงผมให้เก๋ๆ ทำให้ดูสดใสไม่น้อย แถมกลายเป็นคุณแม่คนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม

ในขณะที่บางคนท้องแล้วผมกลับไม่หนา แต่ดันมีขนขึ้นตรงอื่นแทน เช่น ตามใบหน้า หน้าอก หน้าท้อง ขน ขา และหลัง ก็ไม่ต้องตกใจไป ขนเหล่านี้จะหายไปหลังคุณแม่คลอด 3-6 สัปดาห์ค่ะ แต่ใครทนไม่ไหว จะโกน ถอน หรือแว๊กซ์ก็ได้ ส่วนการใช้ครีมกำจัดนั้นอาจไม่แนะนำ เพราะไม่รู้ว่ามีส่วนผสมที่ปลอดภัยหรือไม่ค่ะ

 

ติดตาม พัฒนาการ การเปลี่ยนแปลงของแม่ท้อง คลิกต่อหน้า 2

• เท้าบวม ขยายใหญ่

ใครจะคิดว่าการท้องทำให้คุณแม่ท้องต้องเปลี่ยนไซส์รองเท้าบ่อยขนาดนี้ เพราะอาการบวมตามข้อและเท้าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมฮอร์โมนแม่ท้องยังทำให้เส้นเอ็นที่เท้ายืดกว่าปกติ กระดูกเท้าของคุณแม่จึงขยายออกไปด้วย ข่าวดีคืออาการบวมจะหายไปหลังคลอดในไม่กี่เดือน แต่ข่าวร้ายคือกระดูกเท้าขยายแล้วขยายเลย แต่ก็ไม่มากจนกลายเป็นบิ๊กฟุต ไม่ต้องกังวลไป

ดังนั้น ขณะท้อง คุณแม่จึงควรเลือกไซส์รองเท้าที่ใหญ่กว่าของเดิม ครึ่งถึงหนึ่งไซส์ เลือกที่พอดีไม่คับหรือหลวมเกินไป อีกทั้งกระชับ ส้นเตี้ย รองรับเท้าของเรา เพื่อป้องกันการสะดุดล้ม และอาการปวดเท้า

• ผิวเริ่มแห้งแตก เห็นเส้นเลือดฝอย

ผิวของคุณแม่จะเริ่ม แห้ง แตกได้ง่ายมากขึ้นเพราะการขยายบริเวณรอบอกและหน้าท้องที่เพิ่มขึ้นตามอายุครรภ์ นอกจากนี้คุณแม่จะเห็นเส้นเลือดที่ขยายตัวเป็นตาข่ายเหมือนใยแมงมุมบริเวณใต้ผิวหนัง ทั้งที่ใบหน้า แขน ไหล่ แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะร่องรอยของเส้นเลือดฝอยที่ชัดเจนขึ้นนี้จะหายไปได้เองหลังคลอด

ไขข้อสงสัยคุณแม่ตั้งครรภ์

• วิตามินเสริมระหว่างตั้งครรภ์ จำเป็นไหม?

ความจริงแล้วหากคุณแม่กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และกินให้หลากหลายชนิด รวมทั้งดื่มนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีสารอาหารครบถ้วนอย่างน้อย 1 แก้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเสริมวิตามินระหว่างตั้งครรภ์แต่อย่างใดค่ะ แต่หากกังวลใจว่าจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเลือกทานวิตามินสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ เช่น แคลเซียม หรือธาตุเหล็ก โดยต้องไม่ใช่วิตามินที่ขายทั่วไป เพราะอาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ค่ะ

• แม่ท้อง ทำสีผมได้หรือไม่ ?

การทำสีผมไม่ได้เป็นข้อห้ามทางการแพทย์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่เพื่อความปลอดภัย และป้องกันผลกระทบของสารเคมีที่อาจส่งผลต่อลูกน้อยและคุณแม่ แนะนำให้คุณแม่ทำหลังจากพ้นช่วง 3 เดือนแรกไปแล้ว และเลือกชนิดของสีที่นำมาทำเป็นสีที่ปลอดภัย มาจากธรรมชาติ เลือกกลิ่นที่ไม่รุนแรงเกินไป เพราะอาจจะทำให้คุณแม่เหม็น แพ้ คลื่นไส้ อาเจียน เพิ่มอาการแพ้ท้องได้

นอกจากนี้น้ำยาที่ใช้ทำสีผมส่วนใหญ่จะมีผสมสารเคมี ที่ยังไม่ได้มีการทดลองหรือทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้นในระหว่างตั้งครรภ์หากคุณแม่หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรอบตัวได้ ก็น่าจะดีและปลอดภัยต่อลูกน้อยและคุณแม่มากที่สุด

 

ติดตาม พัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ 23-24 สัปดาห์ คลิกต่อหน้า 3

พัฒนาการทารกในครรภ์ 23-24 สัปดาห์

• หนูเรียนรู้และตอบโต้คุณแม่ได้

ลูกน้อยในครรภ์จะมีเซลล์สมองที่ทำหน้าที่ในการรับรู้สิ่งต่างๆ ทำงานมากขึ้น จึงทำให้ลูกน้อยจดจำและเรียนรู้ได้ ซึ่งลูกของคุณแม่จะสามารถดิ้น และเตะตอบโต้กับแรงสั่นสะเทือนบางอย่างที่มากระทบได้

นอกจากนี้กระดูกของลูกก็จะแข็งแรงเพราะมีแคลเซียมที่มาสะสมมากขึ้นด้วย  แต่แม้ร่างกายของลูกจะยังดูผอมเกร็ง แต่ความยาวของแขนขาก็ได้สัดส่วนกับลำตัว และศีรษะแล้ว

ขนาด:  ประมาณ 22 – 28 เซนติเมตร   น้ำหนัก: 400-600 กรัม

• ลูกน้อยสามารถรับรส และแยกรสชาติระหว่างรสขมและหวานได้แล้ว
• ใบหน้าของลูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว
• ปอดของลูกน้อยมีการพัฒนาไปมากขึ้น แต่ยังไม่สมบูรณ์
• ลูกได้ยินเสียงคุณแม่พูดและเสียงหัวใจเต้นของแม่ได้ดี รวมไปถึงเสียงข้างนอกที่ดังมากๆ อย่าง แตรรถยนต์หรือสุนัขเห่า
• ผิวของลูกน้อยไม่โปร่งใสแล้ว แต่ทึบและสีอมชมพูมากขึ้น อีกทั้งมีไขมันและเส้นผมเพิ่มขึ้นด้วย
• ลูกน้อยสนุกกับการทรงตัว เคลื่อนไหวขึ้นลงไปมา
• สมองของลูกมีรูปร่างใกล้เคียงกับเด็กแรกเกิด เริ่มทำงานเกี่ยวกับการมองเห็นและการได้ยิน

 

อ่านต่อบทความอื่นที่น่าสนใจ

เครื่อง MRI เอ็มอาร์ไอ สแกนดูทารกในครรภ์แนวใหม่ เห็นชัดเว่อร์!

เลือดออกขณะตั้งครรภ์ สัญญาณอันตราย บอกอะไร ?

ปากมดลูกเปิดเป็นยังไง แม่ท้องรู้ไว้ก่อนเข้าห้องคลอด!