วิธีการคลอดมี 2 แบบ คือ คลอดธรรมชาติ และผ่าตัด สิ่งที่คุณหมอแนะนำคือ ให้คลอดธรรมชาติเพราะจะได้รักษามดลูกให้สมบูรณ์ที่สุด ก็ตามนั้น ไม่มีทางเลือกแล้ว สิ่งแรกคือคุณหมอให้กินยาเพื่อกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถ้ามดลูกบีบตัวได้ดี ช่วงบ่ายไม่ต้องรับยาเพิ่ม
เวลา 16:00 ปากมดลูกเริ่มเปิดขนาด 1 ซม. สำหรับการคลอดปกติปากมดลูกจะต้องเปิด 10 ซม. แต่ในกรณีนี้ต้องการให้เปิด 5-6 ซม. ก็เพียงพอ เพราะลูกยังตัวเล็กอยู่ และพบว่ามีมูกออกมาทางช่องคลอดเล็กน้อย
ตอนสามทุ่ม มดลูกเริ่มมีการบีบตัวถี่และแรงขึ้น ตัวเด็กลงไปต่ำกว่าสะดือแล้ว ทำให้ปวดมากขึ้น (สามารถฉีดยาลดปวดได้ แต่ไม่ฉีด) รอวัดขนาดปากมดลูกอีกครั้งตอนสี่ทุ่ม จริงๆตั้งแต่เช้าปวดเรื่อยๆเหมือนจะคลอดลูกจริงๆ แต่ที่ไม่ยอมฉีดยาลดปวด เพราะช่วงที่ปวด เราจะได้ไม่คิดอะไร ไม่คิดมาก ให้รู้สึกเจ็บๆไป ดูซาดิสซ์นะ แต่คิดแบบนั้นจริงๆ
เวลา 21:20 เริ่มมีเลือดออกทางช่องคลอด พยาบาลมาตรวจ พบว่าปากมดลูกเปิดขนาด 1 ซม. แต่นุ่มมากขึ้น อาการปวดมีมากขึ้นและเริ่มมีเลือดออกมากขึ้น คราวนี้จำต้องยอมฉีดยาแก้ปวด
ตอนห้าทุ่ม อยู่ๆก็ปวดมาก แบบทนไม่ไหว แล้วก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรออกมาจากช่องคลอดด้วย แม่เลยไปเรียกพยาบาลให้ และก็สามารถคลอดธรรมชาติออกมาเรียบร้อยทั้งลูกและรก เรียกว่าเป็นแท้งแบบสมบูรณ์ ไม่ต้องขูดมดลูก
จบวันที่ทรมานที่สุดในชีวิต ไม่รู้จะบรรยายยังไงเลยกับความรู้สึกที่ต้องคลอดลูกออกมาทั้งที่ลูกไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
ทั้งนี้คุณแม่กล้วยยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางทีมงาน Amarin Baby & Kids ถึงสาเหตุที่ลูกน้อยหยุดหายใจว่า…
คุณหมอสันนิษฐานว่า สาเหตุเป็นเพราะ “ครรภ์เป็นพิษแบบเฉียบพลัน” ซึ่งเป็นผลมาจากรกที่ฝังตัวไม่ดี ซึ่งการฝังตัวไม่ดี ทำให้ตัวคุณแม่กล้วยมีความดันสูง ทำให้รกไม่สามารถลำเลียงอากาศและอาหารที่เพียงพอให้ลูกได้
แต่อย่างไรก็ดี แม้จะต้องผิดหวังไปกับท้องแรก คุณแม่กล้วยไม่ยอมแพ้..และตั้งใจที่จะมีลูกน้อยไว้ในอ้อมอกของตัวเองให้ได้ ทำให้คุณแม่กล้วยเดินหน้าตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 โดยคุณแม่เผยว่า…ในการตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 นี้ เกิดขึ้นหลังจากมีประจำเดือน 2 รอบแล้ว ซึ่งก็สามารถตั้งครรภ์ได้ เพราะเนื่องจากการทำคลอดแบบธรรมชาติจะช่วยให้มดลูกสมบูรณ์ที่สุดมากกว่าการผ่าตัดมดลูก
อย่างไรก็ดี ทาง Amarin Baby & Kids ก็ขอให้คุณแม่และลูกน้อย ออกมาลืมตาดูโลกที่สดใส พร้อมสุขภาพแข็งแรง จิตใจดี ครอบครัวมีแต่ความสุขนะคะ ^^
♥ ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก คุณแม่กล้วย เพจ Mom to be กว่าจะได้เป็นแม่
อ่านต่อ >> “รู้ทันครรภ์เป็นพิษ ภัยเงียบที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตทั้งแม่และลูก” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่