AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เรื่องจริงจากหมอสูติฯ ตอนที่ 8 สุดท้ายฉันก็คลอดลูกได้อย่างปกติในวัย 44 ปี

เรื่องจริงจากหมอสูติฯ ตอนที่ 8 / เรื่องจริงของแม่ที่หมออยากแบ่งปัน

ฉันชื่อบุญตา (ชื่อสมมุติ) อายุ 44 ปี มีลูก 3 คน อาชีพเป็นแม่บ้าน สามีฉันเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถมีลูกน้องหลายคน ฉันเป็นแม่ครัวทำกับข้าวให้พวกเขากิน ลูกน้องของสามีคนหนึ่งชื่อชาญ (ชื่อสมมุติ) เขาชอบกินกับข้าวฝีมือฉันมาก แม้เขาจะเป็นคนผอม แต่เวลาฉันทำกับข้าว เขาจะกินทีละสองสามจาน

ชีวิตคนเรานั้นไม่มีอะไรแน่นอน ไม่นึกว่าสามีฉันจะจากไปกะทันหัน ปกติเขาตื่นเช้า วันนั้นสายแล้วเขายังไม่ตื่น เมื่อฉันไปปลุกเขามากินข้าว พบว่าเขาไม่หายใจแล้ว ฉันเสียใจร้องไห้จนแทบสิ้นสติ หมอที่มาตรวจบอกว่าน่าจะเกี่ยวกับโรคหัวใจ เพราะเขาเป็นคนอ้วน เมื่อจัดงานศพสามี ฉันทำอะไรไม่ถูกเลย คนที่เป็นหลักให้ฉันก็คือชาญ เขาช่วยทำทุกอย่างจนงานผ่านไปด้วยดี หลังจากนั้นเขาก็มาช่วยดูแลอู่รถ ทุกเช้ามาช่วยฉันตักบาตรทำบุญให้สามี สามีฉันจากไปไม่ถึงปี ชาญซึ่งเป็นหนุ่มโสด อายุ 30 ปี ก็ขอแต่งงานกับแม่หม้ายลูกสาม อายุ 44 ปี อย่างฉัน เขาบอกว่าเขาชอบฉันตั้งแต่มาเป็นลูกน้องของสามี คือ 7-8 ปีที่แล้ว ฉันตอบตกลง ด้วยลูกๆ ก็เห็นดีด้วย ลูกของฉันออกเรือนไปแล้วสองคน ลูกชายคนที่สามเรียนจบแล้ว เขาไม่ชอบผู้หญิง จึงเปิดร้านเสริมสวยกับเพื่อนๆ ที่มีรสนิยมเดียวกัน เมื่อฉันบอกเขาว่าจะแต่งงานใหม่ เขาบอกว่าดีสิแม่ แม่จะได้ไม่เหงา ถ้าพี่ชาญเขามีเพื่อนหล่อๆ บอกให้เขาเอามาเผื่อให้หนูสักคนนะแม่

แต่งงานแล้วอย่างไม่คาดฝัน ประจำเดือนที่เคยมาก็ขาดหายไปทันที ทีแรกฉันคิดว่าตนเองคงหมดประจำเดือน เพราะตั้งแต่มีลูกคนที่ 3 ฉันไม่ได้คุมกำเนิด และก็ไม่ท้อง ฉันจึงชะล่าใจ รออีกสองเดือน เมื่อประจำเดือนไม่มาแน่ๆ ฉันจึงไปหาหมอ หมอทำสีหน้าเฉยๆ เมื่อบอกว่าฉันท้องได้สามเดือนแล้ว ที่หมอไม่ทำท่าดีใจ หรือพูดให้ฉันดีใจ หมอบอกในภายหลังว่า เดี๋ยวนี้คนทำแท้งเอาเด็กออกมากเวลาตรวจพบว่าท้อง หมอต้องดูท่าทีก่อนว่า คนที่มาตรวจอยากมีลูกหรือไม่ ท้องนี้เป็นท้องที่ต้องการหรือไม่

ชาญทำท่าดีใจมาก เพราะเป็นลูกคนแรกของเขา แต่ฉันสิตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ฉันตะกุกตะกักถามหมอว่า “ท้องอายุมากอย่างนี้ไม่อันตรายหรือ” หมอตอบยิ่งทำให้ฉันใจแป้วว่าอันตรายสิ เป็นการตั้งครรภ์เสี่ยงสูง แล้วหมอก็สาธยายอย่างละเอียดว่าฉันจะเสี่ยงกับอะไรบ้าง “คุณบุญตาเสี่ยงต่อการแท้งลูก เสี่ยงต่อการเกิดเด็กพิการปัญญาอ่อนที่เรียกว่าเด็กกลุ่มอาการดาวน์ ขณะที่คนอายุน้อยกว่า 30 ปี ที่ตั้งครรภ์เสี่ยง 1 ต่อ 1,000 ตอนนี้คุณอายุใกล้ 45 ปี เสี่ยง 1 ต่อ 32”

“หมายความว่าคนอายุเท่าภรรยาผม 32 คนหากท้องมีโอกาสเป็นเด็กกลุ่มอาการดาวน์หนึ่งคน อีก 31 คนเป็นเด็กปกติใช่ไหมครับ” ชาญถามหมอ

“ใช่แล้วค่ะ ฟังดูก็ไม่น่าเสี่ยงสูง แต่หากเทียบกับคนอายุต่ำกว่า 30 ปี คุณบุญตาเสี่ยงที่จะเป็นเด็กกลุ่มอาการดาวน์มากกว่าถึง 33 เท่าทีเดียวค่ะ”

“แต่ก็ตรวจพบได้ใช่ไหมครับ” ท่าทางชาญเข้าใจที่หมอพูด เพราะพี่สาวของเขาเป็นพยาบาล

“ตรวจพบได้โดยการเจาะน้ำคร่ำแม่ตอนท้อง 4 เดือนค่ะ” หมอตอบ เล่าต่อว่าฉันมีความเสี่ยงต่อเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ครรภ์เป็นพิษ มีเลือดออกก่อนคลอด ตกเลือดหลังคลอด คลอดยาก ฟังแล้วฉันท้อใจมาก หันไปหาชาญ อยากถามเขาว่าทำแท้งเอาเด็กออกดีไหม จะได้ไม่ลำบาก แต่กลับได้ยินเขาพูดว่า

“งั้นก็ฝากท้องเลยครับ หากมีอะไรที่หมอจะแนะนำให้ทำ แนะนำได้เต็มที่เลยนะครับ”

ผลการเจาะเลือดตรวจร่างกายพบว่า ฉันเป็นทั้งโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เพราะฉันเองก็อ้วน หมอท่าทางหนักใจ บอกว่า มีความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ทั้งที่เกิดจากอายุมาก และเกิดจากโรคประจำตัว หมอให้นอนโรงพยาบาลเพื่อควบคุมน้ำตาล และความดันโลหิตสูง ตรวจหัวใจ ตรวจตา ตรวจไต เผื่อเบาหวานจะขึ้นตาลงไต ให้โภชนากรมาอธิบายการควบคุมอาหาร ให้ฉีดยาเบาหวานและกินยาความดันโลหิตสูง เมื่อกลับบ้าน หมอแนะนำให้พักผ่อน นอนกลางคืน 8-10 ชั่วโมง นอนกลางวัน 1 ชั่วโมง ให้วัดความดันโลหิตทุกวัน ให้เจาะเลือดดูค่าน้ำตาลวันละ 4 ครั้ง ให้ควบคุมน้ำตาลก่อนอาหารไม่ให้เกิน 95 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หลังอาหารไม่ให้เกิน 120 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แล้วมาพบแพทย์ตามนัด

ออกจากโรงพยาบาลทีแรกฉันบอกชาญว่า “ไม่ไหวมั้ง ไปทำแท้งเถอะ” ฉันเห็นเขาร้องไห้อยู่นาน ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนเข้มแข็ง ฉันไม่เคยเห็นเขาร้องไห้มาก่อนเลย ต่อจากนั้นฉันก็สาบานกับตนเองว่า เขาดีต่อฉันอย่างนี้ ฉันจะไม่ทำร้ายจิตใจเขาอีก จากนั้นฉันก็ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติทุกอย่างตามที่หมอแนะนำ

บันทึกของหมอสุมิตรา (ชื่อสมมุติ)

เคสคุณบุญตาเป็นเคสที่น่าหนักใจ อายุมากย่าง 45 ปี มีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง แต่…ผลการเจาะน้ำคร่ำพบว่าทารกมีโครโมโซมปกติ ไม่เป็นเด็กกลุ่มอาการดาวน์ คุณบุญตาซื้อเครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องเจาะน้ำตาลในเลือด และเครื่องชั่งน้ำหนักมาไว้ส่วนตัว เธอสามารถเจาะเลือดตนเองวันละ 4 ครั้ง บันทึก น้ำหนัก ความดันโลหิต และน้ำตาลในเลือดทุกวัน กินอาหารตามที่โภชนากรแนะนำ ถึงกับชั่งตวงวัดอย่างเคร่งครัด ทำตามคำแนะนำของหมอทุกอย่าง ไม่น่าเชื่อว่า ภายหลังเธอสามารถควบคุมความดันโลหิตและเบาหวานโดยไม่ต้องใช้ยา เธอตั้งครรภ์จบครบคลอด โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ ได้รับการผ่าตัดคลอด ทารกเพศชายสมบูรณ์แข็งแรง น้ำหนัก 3,500 กรัม เธอขอทำหมัน เพราะไม่อยากมีลูกแล้ว โดยได้รับคำยินยอมจากสามี

 

บทความโดย พญ.ชัญวลี ศรีสุโข

ภาพ : Shutterstock